วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ถอยเถิด‘เพื่อไทย’! ‘รสนา’เตือนฝืนแจกเงินดิจิทัลเสี่ยงผิดกฎหมาย ชี้อย่าเอาไปเทียบ 30 บาท

ถอยเถิด‘เพื่อไทย’! ‘รสนา’เตือนฝืนแจกเงินดิจิทัลเสี่ยงผิดกฎหมาย ชี้อย่าเอาไปเทียบ 30 บาท

วันอังคาร ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 21.44 น.
Tag : กกต. ดิจิทัลวอลเล็ต น.ส.รสนา โตสิตระกูล บุญยอด สุขถิ่นไทย แนวหน้า Talk
  •  

ถอยเถิด‘เพื่อไทย’! ‘รสนา’เตือนฝืนแจกเงินดิจิทัลเสี่ยงผิดกฎหมาย ชี้อย่าเอาไปเทียบ 30 บาท

31 ต.ค. 2566 น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กรุงเทพฯ กล่าวในรายการ “แนวหน้า Talk”โดยมีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นผู้ดำเนินรายการ ในประเด็นนโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้มีปัญหาทั้งด้านกฎหมาย ซึ่งโครงการขนาดใหญ่ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน โดยรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 มาตรา 140 กำหนดให้การนำงบประมาณไปใช้รัฐบาลต้องนำเสนอเข้าสู่กระบวนการงบประมาณเพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งหากจะแจกภายในปี 2567 ก็ต้องใช้งบประมาณประจำปี 2567 แต่ในเมื่อรัฐบาลไม่เข้ากระบวนการงบประมาณ หมายถึงจะไม่ใช้เงินงบประมาณใช่หรือไม่ หรือการที่มีข่าวว่าจะไปกู้เงินจากธนาคารออมสิน ก็ต้องไปดุว่ามีกฎหมายให้ทำได้หรือไม่


และด้านวินัยการเงิน-การคลัง ซึ่งการใช้เงินงบประมาณต้องไม่เป็นไปเพื่อผลของการหาเสียง โดยเฉพาะมีข้อสังเกตเรื่อง “จ่ายตั้งแต่อายุครบ 16 ปีบริบูรณ์” จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบเพราะเข้าข่าย “นโยบายประชานิยม” ซึ่งโดยปกติการนำเงินออกมาใช้หรือต้องกู้เงิน จำเป็นต้องมีสถานการณ์ฉุกเฉินรองรับ เช่น น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 หรือสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันนี้ไมได้มีสถานการณ์อะไรที่ฉุกเฉิน

ส่วนที่รัฐบาลบอกว่าทุกวันนี้เศรษฐกิจยังมีปัญหาอยู่จึงต้องการการอัดฉีด ลองดูในภาพรวม เช่น บอกว่าเงินที่แจกต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ซึ่งงบทั้งหมดที่จะนำมาใช้คือ 5.6 แสนล้านบาท ลองสมมติประเทศชาติเป็นครอบครัวที่ไมได้ร่ำรวยนัก พ่อหรือหัวหน้าครอบครัวบอกว่าเดี๋ยวจะไปกู้เงินมาให้ลูกๆ ใช้กันเต็มที่ ถามว่าแบบนี้มีประโยชน์อะไร แล้วหากวันหนึ่งพ่อไม่อยู่บ้าน ลูกๆ ก็จะต้องมาตามใช้หนี้ไปอีกนานหลายปี

ทั้งนี้ การที่รัฐบาลบอกว่าจะดันการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ให้สูงขึ้น โดยในปี 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.8 ตั้งเป้าว่าปีต่อๆ ไปจะต้องสูงขึ้น โดยหวังว่าจะให้ GDP โตถึงร้อยละ 5 แต่ถามว่าเหมาะสมจริงหรือกับการนำงบประมาณมหาศาลมาทุ่มกับเรื่องนี้ และหาก กกต. บอกว่าทำได้ ก็เชื่อว่าต่อไปพรรคอื่นก็จะทำบ้าง อาจมีบางพรรคหาเสียงแจก 1 แสนบ้าง 5 แสนบ้างช่วยใกล้เลือกตั้ง แบบนี้ประเทศคงแย่

“อยากให้ กกต. ทบทวน ไม่ใช่แค่กฎหมายเลือกตั้ง คุณด้องดูกฎหมายอื่นๆ ด้วย กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายอะไรทั้งหลาย สามารถทำอย่างนี้ได้ไหม? ยังมีประเด็นเรื่อง พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 ก็ต้องถามว่าเงินที่รัฐบาลจะแจกมันไม่ใช่แจกแบบเงินบาท มันจะเป็นสกุลใหม่หรือเปล่า? ซึ่งจะมาแจกแบบนี้น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายไหม? อันนี้มันอยู่ในประเด็นที่ร้องเรียนไป รัฐบาลเขาเลยส่งคำถามไปขอให้กฤษฎีกาตอบ 3 เรื่อง 1.เรื่องวินัยการเงินการคลัง 2.เรื่องกู้ออมสิน 3.เรื่องของ พ.ร.บ.เงินตรา” รสนา กล่าว

น.ส.รสนา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของกฎหมาย พ.ร.บ.เงินตรา ที่กฤษฎีกาตีความนั้น หากการแจกเงินดิจิทัลแล้วรัฐบาลไม่สามารถเก็บเงินทั้งหมดกลับมาแลกเป็นเงินสดให้ได้ครบภายใน 6 เดือน อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเพราะกลายเป็นเงินสกุลใหม่ แต่ในมุมของนักกฎหมายระดับอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาท่านหนึ่ง บอกให้ไปดู พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งนิยามของเงินตราต้องเป็นวัตถุจับต้องได้อย่างธนบัตรหรือเหรียญกษาปณ์ ดังนั้นเงินดิจิทัลที่อยู่ในอากาศจึงไม่น่าจะอยู่ในนิยามของกฎหมายฉบับนี้ หากรัฐบาลต้องการแจกเงินดิจิทัลก็ต้องแก้กฎหมายนี้ก่อนด้วย

จึงกลายเป็นคำถามว่า กฤษฎีกาตีความเรื่องหากเก็บเงินกลับมาให้ครบภายใน 6 เดือนถือว่าไม่ผิดนั้นขอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับคู่ปอง อดีตผู้พิพากษาท่านนี้ก็อธิบายว่า คูปองนั้นใช้ในวงแคบ เช่น ศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้า ต่างจากเงินดิจิทัลที่ทุกคนใช้กันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะไปใช้ที่จังหวัดใดก็ตาม และกำหนดว่าจะร้านค้าที่ขายสินค้าโดยรับเงินดิจิทัลจะแลกกลับเป็นเงินสดสกุลเงินบาทต้องรอให้ครบ 6 เดือน

คำถามคือจะไม่เกิดปัญหาใดๆ เลยหรือ ลองนึกถึงร้านค้าเล็กๆ รายย่อยที่สายป่วนไม่ยาว แต่จะเอาไปแลกเป็นสินค้าคนจะเชื่อหรือไม่ว่าเงินดิจิทัลนี้คือเงิน ในขณะที่คูปองรับมาและแลกคืนแบบทางเดียว แต่เงินดิจิทัลนั้นทั้งรับมาและแลกเปลี่ยนออกไปแบบเดียวกับเงินตรา เรื่องนี้ต้องให้นักกฎหมายเป็นผู้ตัดสิน และการที่กฤษฎีกาตีความมาแบบนี้ไม่น่าจะถูกต้อง รัฐมนตรีอาจอนุญาตได้ แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ทำ และหากฝืนจะทำให้ได้ก็อาจมีความผิดถึงขั้นติดคุก

“คุณถอยดีกว่าไหม? อย่าไปคิดเรื่องเสียหน้า คือเรามองประโยชน์ว่าเราใช้เงินของแผ่นดินซึ่งเป็นเงินของประชาชนทุกคน เราควรทำให้มันมีประโยชน์ ซึ่งที่จริงรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ออกมาโต้ว่า ไปเปรียบเทียบกับ 30 บาทรักษาทุกโรค ว่า 30 บาทสมัยก่อนก็มีคนทักท้วง ซึ่งอันที่จริงคนละเรื่อง เพราะต้องบอกว่า 30 บาทรักษาทุกโรคมันเป็นสวัสดิการ แต่อันนี้มันเป็นประชานิยม มันแจกเงิน มันคนละเรื่องอย่าเอามาอ้าง อยากเตือนด้วยความหวังดีว่าทำอะไรให้รอบคอบ อย่าไปคิดเพียงว่าเรามีความคิดบรรเจิด ทำแล้วให้มันปังไปเลย กลัวว่าจะไม่ปัง มันจะพังเอา” อดีต สว. กรุงเทพฯ กล่าว

สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=nfFEX_0DG_w

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’
  • ‘กกต.’เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบ‘เลือกตั้งซ่อม’สส.ศรีสะเกษ เขต5 ‘กกต.’เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หวั่นกระทบ‘เลือกตั้งซ่อม’สส.ศรีสะเกษ เขต5
  • ‘กกต.’โต้ล่าช้าคดี‘หมอเกศ’ใช้วุฒิการศึกษาหลอกสมัครสว. ยันทำงานตามกรอบเวลา ‘กกต.’โต้ล่าช้าคดี‘หมอเกศ’ใช้วุฒิการศึกษาหลอกสมัครสว. ยันทำงานตามกรอบเวลา
  • อ่วม!กกต.ฟันอาญา\'หมอเกศ\' โทษคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์ 20 ปี ปมใช้ศาสตราจารย์ลงสมัคร สว. อ่วม!กกต.ฟันอาญา'หมอเกศ' โทษคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์ 20 ปี ปมใช้ศาสตราจารย์ลงสมัคร สว.
  • ‘บิ๊กเกรียง-อลงกต’ ไม่กังวลคดีฮั้วสว. ขอให้ว่าตามก.ม. หลังกกต.จ่อเอาผิด ‘บิ๊กเกรียง-อลงกต’ ไม่กังวลคดีฮั้วสว. ขอให้ว่าตามก.ม. หลังกกต.จ่อเอาผิด
  • มติอนุฯกกต.ฟันฮั้วสว.229ราย ลามยุบภูมิใจไทย กก.บห.-เครือข่าย91คนเอี่ยว มติอนุฯกกต.ฟันฮั้วสว.229ราย ลามยุบภูมิใจไทย กก.บห.-เครือข่าย91คนเอี่ยว
  •  

Breaking News

‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก

ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง

‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’

‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved