"นิกร"ชี้กม.ประชามติเสียงข้างมากชั้น 2 ทําเดดล็อกแก้ รธน.ยาก ชงให้ตัดทิ้ง แนะรัฐบาลเสนอร่างแก้เอง ผ่านด่าน ส.ส.-ส.ว. ง่ายกว่า ปัดยื้อเวลา แต่สะท้อนความจริงใจของรบ. ยํ้าชง คกก.แก้รธน.เคาะความเห็น 24 พ.ย.นี้
วันที่ 18 พ.ย. นายนิกร จํานง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษา แนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 เรื่องเกณฑ์การทำประชามติ มีเนื้อหาสาระอย่างไรว่า ภายในคณะอนุกรรมการได้หารือกันว่าการทำประชามตินั้นมีปัญหาที่จะทำให้ผ่านไม่ได้ เพราะต้องมีเสียงข้างมาก 2 ระดับ คือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทําประชามติเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด คือประมาณ 26 ล้านคน 2.ใน 26 ล้านคนนี้ จะต้องเห็นด้วยว่าควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 13 ล้านกว่าคน ซึ่งคิดว่าทําได้ยากมาก เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเหมือนเรื่องไกลตัว น่าจะทำประชาสัมพันธ์กันไม่ทัน อีกทั้งความเห็นต่างก็ไม่เยอะ คนที่ไม่เห็นด้วยมีไม่มากนัก แรงส่งที่จะทําให้มีคนออกมาใช้สิทธิ์น่าจะน้อย จึงเห็นว่าอาจมีปัญหา และถ้าหากประชามติไม่ผ่านขึ้นมา ก็จะกลายเป็นว่าคนไทยไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นจะต้องมีการหารือกันในคณะกรรมการ ซึ่งตนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 24 พฤษจิกายนนี้
นายนิกร กล่าวอีกว่า ตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องการเห็นด้วยหรือไม่ แต่กฎหมายประชามติมีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายประชามติในลักษณะนี้ไม่เคยมี พึ่งมีในรัฐธรรมนูญนี้เป็นฉบับแรก จึงคิดว่าเป็นกฎหมายที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง สมควรมีการแก้ไข เพราะจะได้ใช้ในอนาคตได้ด้วย เพราะการทำประชามติเป็นประชาธิปไตยทางตรงของประชาชน เพราะฉะนั้นควรทำกฎหมายตรงนี้ให้ดี
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า เสียงข้างมากชั้นที่ 2 ไม่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง ควรจะใช้เสียงข้างมากอย่างเดียว เพราะเมื่อมีการออกมาใช้สิทธิ์ทำประชามติ บางคนอาจจะงดออกเสียงก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เมื่อรวมเสียงกันแล้วเสียงที่เห็นชอบจะไม่ได้เกินกึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่มองว่า ควรเป็น 25% ของผู้มีสิทธ์ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วก็คล้ายกับที่ตนเสนอ เพียงแต่เขามีวิธีอธิบายอีกแบบ แต่ก็จะมีปัญหาว่าประชาชนเข้าใจยาก และจะทำให้กฎหมายผ่านยาก ดังนั้นต้องคุยกันว่าเรื่องนี้จะแก้ยังไง แต่ถ้าแก้ โดยการตัดชั้นที่ 2 ทิ้ง ให้เป็นแบบเสียงข้างมากปกติ ก็แก้แค่มาตรา 13 อย่างเดียว จะทําให้แก้ได้เร็วขึ้น แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูป ต้องผ่านความเห็นของทั้ง 2 สภา ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับ ส.ว.ให้ดี เพราะเขาไม่เห็นด้วยกันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่อยู่ที่หลักการและเหตุผล ทั้งนี้ ถ้าพรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นจะมีปัญหา เพราะเป็นกฎหมายปฏิรูป ซึ่งไม่ใช่กฎหมายธรรมดา มีกลไกเยอะ แต่ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยและยื่นเป็นร่างของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น
เมื่อถามว่า จะถูกมองว่าเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาลหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อ แต่เป็นการเห็นกำแพงที่ผ่านยากอยู่ข้างหน้า ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญตามนโยบายเสียด้วยซํ้า และฝ่ายค้านเองก็ต้องร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี