‘นายกฯ’ เตือนสติภาคเอกชนเชียงใหม่ เสนอของบ 800 ล้านปรับปรุงศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ บอก ไปมาแล้วยังใช้งานได้-ดูยังไงก็ใช้งบไม่ถึง แนะจัดเชียงใหม่เฟสติวัลชิตี้ ต้องคิดรอบคอบ ครอบคลุมสิ่งที่นักท่องเที่ยวสนใจทุกวัย พร้อมชมการแสดงแสงสีเสียง“ต่อยอดแสงหลวง บวงสรวงมหาเจดีย์ ป๋าเวณียี่เป็ง ประจำปี 2566”สักการะถวายสะเปาคำ ผางประทีป องค์พระเจดีย์หลวง ขอให้บ้านเมืองสงบ ขอให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 29 พ.ย.66 ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หารือผู้แทนเอกชนหารือแนวทางการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย (กกร.)โดยตัวแทนผู้แทนเอกชน กล่าวหารือนายกฯเรื่องเชียงใหม่เฟสติวัลซิตี้ 1.โดยจะขอให้มีตัวแทนนายกฯมากำกับดูแลประสานงานในการจัดงานดังกล่าว 2.ให้หน่วยงาน ของรัฐที่ดูแลสถานที่ประวัติศาสตร์ เช่น กรมศิลปากรมาอำนวยความสะดวกในการใช้พื้นที่ 3. จัดงบประมาณพิเศษเพื่อให้ทำกิจกรรมได้อย่างกว้างขวาง
ด้านตัวแทนคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวเสนอขอฟื้นฟูศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ที่มีโครงสร้างมากกว่า 10 ปี เพื่อให้ทันสมัยเหมาะกับงานนานาชาติซึ่งพื้นที่ดังกล่าวต้องใช้งบประมาณในการปรับปรุงไม่น้อยกว่า 700-800 ล้านบาท โดยพื้นที่ดังกล่าวกรมธนารักษ์เป็นผู้ดูแล แต่อยากให้เอกชนเข้าไปบริหารจัดการ
โดยนายกฯ กล่าวว่า ถ้าเราจะต้องขายสัมปทานออกไป หากเราลองคิดดูแล้วเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าตนเป็นภาคเอกชนจะต้องไปดูว่างานมันมีหรือไม่ ถ้างานไม่มี ก็ไม่อยากเอาไปทำ เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตามทฤษฎีมันทำได้ แต่ในเชิงปฏิบัติใครจะมาลงทุน ในฐานะรัฐบาลเราต้องดูว่าถ้าลงทุนไปแล้วมันจะคุ้มหรือไม่ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นภาษีและมีมูลค่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของชาวเชียงใหม่ที่จะต้องโน้มน้าวรัฐบาลให้ได้ว่ามันมีตลาดจริงๆ ไม่ใช่อยู่ดีๆเอางบประมาณไป 700 ล้านบาท เพื่อที่จะเอาไปทำแล้ว ไม่มีอะไรเลย ไม่สามารถมีงานได้ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเดินทางไปศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษาฯ ก็เห็นว่ายังใช้งานได้ และดูยังไงก็เห็นว่าใช้เงินไม่ถึง 700-800 ล้านบาท ซ่อมบำรุงนิดเดียวก็สามารถใช้ได้แล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องเชียงใหม่เฟสติวัลชิตี้น่าสนใจ แต่มีข้อคิดนิดหนึ่งเชียงใหม่มีศักยภาพสูงไม่มีเหตุผลว่าทำไมถึงจะจัดงานไม่ได้ โดยอยากให้จัดในเดือนธ.ค.-ม.ค. เพื่อให้เข้ากับนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ทุกเดือนมีเฟสติวัล เพื่อให้รายได้ของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น แต่ต้องขอให้คิดให้รอบคอบ ขอเตือนสติเวลาเราจะจัดงานแบบนี้ไม่ว่าจะจัดงานอะไร มันเหมือนเส้นผมบังภูเขา ไม่ใช่ว่าเราอยากจะจัดอะไร ตนดูจากสายตาท่านมีความภาคภูมิใจซึ่งตนก็ดีใจในเรื่องที่ท่านชอบ และเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ตนเห็นด้วย แต่ถ้าท่านจะดึงชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ สิ่งที่เสนอมาเพียงพอหรือไม่ จะต้องมีเรื่องอื่นมาเสริมหรือไม่ ขอให้คิดให้รอบคอบ ทั้งนี้ตนจะฝากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรมไปพูดคุยกันมาว่ามีเรื่องอะไรที่น่าสนใจ ในหลักการไม่มีปัญหาตนเห็นด้วย แต่อยากให้จัดในสิ่งที่ครอบคลุมที่นักท่องเที่ยวสนใจในหลายกลุ่มและทุกวัยด้วย
จากนั้นเวลา 19.30 น.ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายกฯ ได้ชมการแสดง “ต่อยอดแสงหลวง บวงสรวงมหาเจดีย์ ป๋าเวณียี่เป็ง ประจำปี 2566” โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงได้เข้ากราบนมัสการท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมล (อัมพร กตปุญฺโญ)เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงรวมทั้งสนทนาธรรมโดยท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมล กล่าวว่า ดีใจนายกรัฐมนตรึเดินทางมาพร้อมอธิบายถึง องค์พระประธานที่ประดิษฐานอยู่พระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปรางค์วันเกิด ของนายก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปรางค์ประจำวันพฤหัสบดี
ท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมล กล่าวด้วยว่าวันนี้ ถือว่านายกรัฐมนตรีมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับวัดด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรึได้สอบถามว่าวัดเจดีย์หลวงเปิด ให้เยี่ยมชมถึงเวลาเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าอาวาส กล่าวว่า วัดเปิด ให้เข้าชมจนถึงเวลา 22.00 น.เพื่อรับนักท่องเที่ยว เพราะวัดอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวก็เหมือนเป็นนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีโปรโมทก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ถึงวันละ 3,000 คน
จากนั้น ท่านเจ้าคุณพระกิตติวิมล นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมภายในบริเวณวัดก่อนจะเดินมาถึงตรงบริเวณด้านหน้า องค์พระเจดีย์หลวง นายกรัฐมนตรึถวายสะเปาคำ และผางประทีป สักการะพระพุทธเฉลิมสิริราช หรือพระแก้วหยกเชียงใหม่ ที่ประดิษฐานอยู่บนซุ้มองค์พระธาตุเจดีย์หลวง ก่อนชมการแสดงแสงสีเสียง ต่อยอดแสงหลวง บวงสรวงมหาเจดีย์ ป๋าเวณียี่เป็ง ประจำปี 2566
สำหรับวัดเจดีย์หลวงวรวิหารเป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 ของราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ.1928-พ.ศ.1945 วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณมีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ที่ปัจจุบันมีขนาดความ
ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับที่พัก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ขอให้บ้านเมืองสงบ ขอให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี