เช็คเรตติ้งใครเหมาะนั่ง‘หัวหน้าประชาธิปัตย์’ หลังประชุมเป็น‘เอกภาพ หรือ มาคุ’

เช็คเรตติ้งใครเหมาะนั่ง‘หัวหน้าประชาธิปัตย์’ หลังประชุมเป็น‘เอกภาพ หรือ มาคุ’

วันอาทิตย์ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 07.39 น.

‘นิด้าโพล’เช็คเรตติ้งใครเหมาะนั่ง‘หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์’คนต่อไป เปิดมุมมองกลุ่มตัวอย่างหลังประชุมเป็น‘เอกภาพ หรือ มาคุ’!?

3 ธันวาคม 2566 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “เรื่องวุ่น ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ภาค 2” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับเรื่องวุ่น ๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0


เมื่อถามประชาชนถึงการเลือกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่มีสิทธิเลือกตั้ง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 50.53 ระบุว่า ไม่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ , รองลงมา ร้อยละ 35.80 ระบุว่า เคยเลือก แต่ไม่ได้เลือกในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 , ร้อยละ 12.52 ระบุว่า เคยเลือก รวมถึงในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค. 2566 และร้อยละ 1.15 ระบุว่า ยังไม่เคยไปเลือกตั้งเลย

ด้านสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดในการเมืองไทยได้จนถึงปัจจุบัน พบว่า

+ ร้อยละ 39.62 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์มีแฟนคลับ/ฐานทางการเมืองที่มั่นคง เช่น ฐานในภาคใต้

+ ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีศักยภาพในการนำพรรคฯ

+ ร้อยละ 26.41 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความเป็นสถาบันทางการเมืองที่มั่นคง

+ ร้อยละ 22.60 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ชัดเจนในการต่อสู้กับระบบเผด็จการ และการคอร์รัปชัน

+ ร้อยละ 20.08 ระบุว่า สส. หรือแกนนำ พรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญทางการเมือง

+ ร้อยละ 9.16 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคฯ

+ ร้อยละ 3.21 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ

+ ร้อยละ 3.44 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรทำเพื่อที่จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง พบว่า

+ ร้อยละ 45.50 ระบุว่า ปฏิรูปพรรคฯ ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางการเมืองไทยในปัจจุบัน

+ ร้อยละ 35.65 ระบุว่า เลือกหัวหน้าพรรคที่มีศักยภาพในการนำพรรคฯ

+ ร้อยละ 17.94 ระบุว่า คัดสรรตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคฯ ที่มีคุณภาพทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น

+ ร้อยละ 17.79 ระบุว่า แสดงบทบาทการเป็น ฝ่ายค้านที่มีศักยภาพ

+ ร้อยละ 15.34 ระบุว่า เชิญอดีตแกนนำพรรคฯ ที่ออกจากพรรคไปแล้วให้กลับเข้ามาช่วยฟื้นฟูพรรคฯ

+ ร้อยละ 13.51 ระบุว่า สร้างความเป็นเอกภาพภายในพรรคฯ

+ ร้อยละ 8.09 ระบุว่า เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อสร้างผลงาน

+ ร้อยละ 7.94 ระบุว่า เลือกเลขาธิการพรรคฯ ที่มีความสามารถในการบริหารพรรคฯ

+ ร้อยละ 1.45 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนต่อไป พบว่า

+ อันดับ 1 ร้อยละ 28.32 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ

+ อันดับ 2 ร้อยละ 27.10 ระบุว่า เป็น น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์)

+ อันดับ 3 ร้อยละ 20.46 ระบุว่า เป็น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน

+ อันดับ 4 ร้อยละ 9.39 ระบุว่า เป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

+ อันดับ 5 ร้อยละ 7.94 ระบุว่า เป็น นายนราพัฒน์ แก้วทอง

+ อันดับ 6 ร้อยละ 6.03 ระบุว่า เป็น นายชวน หลีกภัย

+ ร้อยละ 0.76 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อพรรคประชาธิปัตย์หลังการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคฯ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.11 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น , รองลงมา ร้อยละ 24.58 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์จะอยู่กันต่อไป แบบบรรยากาศมาคุ (อึดอัด อึมครึม) , ร้อยละ 18.39 ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์จะแตกแยก โดยมีบางส่วนย้ายออกจากพรรคฯ , ร้อยละ 15.27 ระบุว่า ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคฯ/เลขาธิการพรรคฯ ได้ และร้อยละ 5.65 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ ไม่สนใจ

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top