วันที่ 5 ธันวาคม 2566 นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายปรเมษฐ์ ภู่โต เป็นพิธีกร ในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์  โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ที่พรรคเคยครองมาตลอด ว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีเพียง 2 พรรคที่สู้กัน คือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ และคนใต้ก็อุ้มพรรคประชาธิปัตย์ให้สู้กับพรรคเพื่อไทยมาหลายรอบจนสู้ไม่ได้

กระทั่งในการเลือกตั้งปี 2562 แม้จะบอกว่ายังรักพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิมแต่ต้องเทไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถสู้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยได้ ซึ่งการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2562-2566 ได้ใจคนใต้ ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2566 คนก็บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ฟื้น จึงยังให้ใจ  พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนเดิม

“เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งในสมัยหน้า ผมคิดว่าเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ก็หยุดเล่นทางการเมืองแล้ว ผมคิดว่าประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคหนึ่งที่คนใต้ต้องกลับมา แต่ประชาธิปัตย์ต้องสร้างความน่าเชื่อถือกับคนปักษ์ใต้ให้ได้ก่อน ผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นได้ 2 ที่ ต้องฟื้นใต้กับฟื้นกรุงเทพฯ ให้ได้ แล้วจะฟื้นภาคอื่นได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ฐานหลักกรุงเทพฯ และใต้ยังไม่ได้ ประชาธิปัตย์ฟื้นไม่ได้หรอก” นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวต่อไปว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องทำให้คนกลับมาเชื่อมั่นในนโยบาย ในการทำงาน และในจุดยืน ถ้าคนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่พักพิงของเขาได้คนก็กลับมาเลือก ส่วนคำถามที่ว่า ปัจจุบันพรรคมี สส. เพียง 25 คน หรือ 25 เสียง เพียงพอต่อการฟื้นฟูพรรคหรือไม่ ตนเห็นว่า จะ 5 เสียง 10 เสียง 25 เสียง หรือ 100 เสียง หากไม่มีความเป็นเอกภาพก็ฟื้นฟูพรรคไม่ได้ เพราะความสำคัญกว่าจำนวนเสียงคือเอกภาพและความสามัคคี 

ส่วนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ในวันที่ 9 ธ.ค. 2566 ซึ่งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่เนืองๆ ว่าเลือกกันทีไรก็มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งตลอด ตนเห็นว่า กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องกล้าพูดความจริง ต้องลืมเรื่องที่ผ่านมาว่าแข่งขันกับใครแล้งหลอมให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อมีเอกภาพพรรคประชาธิปัตย์ก็จะสามารถกลับมาได้