เหตุผลที่รับฟังขึ้น!เปิดเบื้องหลังกลุ่ม 21 สส.หนุน‘เฉลิมชัย’นั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เปิดทางกลืนน้ำลาย ชี้ไม่ถือตระบัดสัตย์เพราะขอร้อง-เป็นมติของสส.พรรค

7 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า ช่วงเย็นของวันที่ 6 ธ.ค.2566  ที่ผ่านมา นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา , นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช , พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา รวมถึง สส.บางส่วน ร่วมหารือเพื่อหาทางให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค และรักษาการเลขาธิการพรรค มีโอกาสกลับเข้าในวงการเมือง

ทั้งนี้ มีการเปรียบเทียบคุณสมบัติของว่าที่ผู้สมัครลงเป็นหัวหน้าพรรคทั้ง 2 คน คือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ และ น.ส.วทันยา บุนนาค หรือมาดามเดียร์ ซึ่งส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าควรจะเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ว่า เป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่ แม้จะติดที่นายเฉลิมชัย เคยประกาศในการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค.2566 ว่าหากแพ้เลือกตั้งจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต

จึงมีการหาทางออก ว่า สส.ส่วนใหญ่ของพรรคต้องนัดหารือและออกเป็นมติ หรือหนังสือเรียกร้องให้นายเฉลิมชัย กลับมาลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อฟื้นฟูพรรค เพราะ สส.ส่วนใหญ่เห็นว่ามีศักยภาพในการดูแล และเป็นศูนย์รวมของสส.รุ่นใหม่ของพรรค โดยเชื่อมั่นว่าหากนายเฉลิมชัย ยอมเสียสละกลับมารับตำแหน่งเพื่อฟื้นฟูพรรค ก็ไม่ถือว่าเป็นการตระบัดสัตย์ เพราะเป็นคำขอร้องและเป็นมติของสส.พรรค ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนที่เลือกสส.มา  ถือเป็นเหตุผลที่รับฟังขึ้น

สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการนัด สส.พรรค ให้มาร่วมหารือรอบนอกในช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค.2566 ณ ที่ทำการพรรคปชป. เพื่อสร้างสตอรี่กำหนดทิศทางในการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งเสียงของ สส. ถือคะแนนสัดส่วน 70% หากสส.ส่วนใหญ่ของพรรคเห็นพ้อง ก็เชื่อว่าจะสามารถผลักดันส่งให้นายเฉลิมชัย ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้

ทั้งนี้ มีชื่อของนายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้าพรรค ภาคใต้ ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคู่ใจ พร้อมกับการตัดการสนับสนุนนายนราพัฒน์ แก้วทอง ว่าที่ผู้สมัครลงแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคลง จึงต้องจับตาดูว่า หากมีมติ สส.พรรคปชป. ในการเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ให้กลับมาคุมการบริหารงานพรรคจริง นายเฉลิมชัยจะลืมคำพูดที่เคยประกาศและหันมารับตำแหน่งนี้หรือไม่

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ น.ส.วทันยา ก็มีการเดินสายและรณรงค์หาเสียง ขอเสียงจากบรรดาสมาชิกพรรคทั่วประเทศ แม้ฐานเสียงของโหวตเตอร์ในส่วนนี้จะมีสัดส่วนคะแนนแค่ 30%  โดยเชื่อว่า มาดามเดียร์ จะสามารถฝ่าด่านข้อบังคับพรรคที่ 31(6) และข้อบังคับพรรคที่32(1) ที่ต้องใช้เสียงองค์ประชุม 3  ใน 4 ของดเว้นการบังคับพรรคในกรณีที่ เป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 5 ปี และต้องเคยเป็น สส.ในนามพรรค(ตามลำดับ) เพื่อให้ผ่านคุณสมบัติผู้สมัครเป็นหัวหน้าพรรค  เข้าสู่ด่านที่2 เพื่อสามารถลงสมัครแข่งขันเป็นหัวหน้าพรรคได้  ก็มีการขอเสียงจากโหวตเตอร์ที่เป็นแทนสาขาพรรค  โดยมีความพยายามจะประสานขอเสียงจากสส.ปัจจุบันที่เป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคเช่นกัน

-005