ไล่กระทุ้งชั้น14
‘ศรีสุวรรณ’บี้รพ.ตร.-กรมคุก
ร่างคำฟ้องเอื้อ‘แม้ว’ใกล้เสร็จ
นักบู๊ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ประกาศเดี๋ยวเจอกัน “ราชทัณฑ์-ยุติธรรม-รพ.ตำรวจ” กรณีเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณ ชินวัตร นอน รพ.มานาน จนเป็น “ซอฟต์ พาวเวอร์” ที่น่าอับอายไปทั่วโลก
วันที่ 9 ธันวาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินโพสต์เฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ประกาศก้อง เดี๋ยวเจอกัน “ราชทัณฑ์-ยุติธรรม-รพ.ตำรวจ” กรณีเอื้อประโยชน์ให้ทักษิณชินวัตรนอน รพ.มานาน จนเป็น “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่น่าอับอายไปทั่วโลก
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า องค์กรฯ ได้ยกร่างคำฟ้องเสร็จไปกว่าครึ่งแล้ว กรณีกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และ รพ.ตำรวจ ร่วมกันกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือโดยไม่สุจริต หรือมีการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม หรือเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ กรณีอนุญาตให้ นช.ทักษิณ ไปนอนรักษาตัวนอกเรือนจำในโรงพยาบาลตำรวจมานานกว่า 100 วัน โดยไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 มาตรา 55 กำหนดไว้ชัดเจนว่า กรณีที่กรมราชทัณฑ์จะอนุญาตให้ผู้ต้องขังที่ป่วยไปรักษาตัวนอกเรือนจำได้นั้นจะต้องเป็นโรคที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรใน พ.ร.บ.เท่านั้น แต่กรณีโรคของ นช.ทักษิณ ตามคำแถลงของกรมราชทัณฑ์มิได้เข้าเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งการอนุญาตให้ นช.รายดังกล่าวออกไปรักษาตัวยัง รพ.ตำรวจ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายจากอาการป่วยแต่อย่างใด แต่กลับมีความพยายามที่จะออกกฎหมายมาเอื้อประโยชน์ให้ใช้สถานที่นอกเรือนจำเป็นที่จองจำแทนคุกได้อีก อันเป็นข้อพิรุธที่สังคมจับได้
องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จำต้องใช้กระบวนการยุติธรรมทางปกครองมาพิสูจน์ความจริงเพื่อมิให้กรณีนี้เป็นชอฟต์พาวเวอร์ที่น่าอับอายไปทั่วโลก และเพื่อไม่ให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาถูกทำลายจากผู้มีอำนาจในยุคสมัยนี้ต่อไป เพราะกฎหมายต้องเป็นกฎหมายเท่านั้น นายศรีสุวรรณ กล่าว
ด้านนายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มองคดีทุจริต “ทักษิณ” เป็นคดีการเมือง เพราะเริ่มต้นและจบลงด้วยอำนาจทางการเมืองของเผด็จการทั้ง 2 ครั้ง
น.อ.อนุดิษฐ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงแนวทางการนิรโทษกรรมเพื่อสร้างปรองดองในหัวข้อ “EP 2 คดีทุจริต VS คดีการเมือง” โดยมีเนื้อหาสรุปว่า ตนถกแถลงเรื่องนี้ในบริบทความเห็นทางวิชาการ เพื่อประโยชน์ในการศึกษากระบวนการยุติธรรม และคงไม่ถูกกล่าวหาว่า ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ และคงออกมาสู่อิสรภาพอีกไม่นานจากนี้ ส่วนตัวมองว่า คดีทุจริตสมัยนายทักษิณถือเป็นคดีการเมืองหรือไม่ เนื่องจากหากเป็นคดีการเมืองก็จะมีผลทั้งทางตรงและทางอ้อมกับกฎหมายนิรโทษกรรมที่กำลังจะพิจารณากันในเร็วๆ นี้ ความเห็นของฝ่ายตรงข้ามเชื่อว่า คดีของนายทักษิณ เป็นคดีทุจริต เพราะถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ จึงไม่ใช่คดีทางการเมืองที่ควรได้รับการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดอง แต่เนื่องจากการเริ่มต้นของคดีเกิดจากการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยคณะรัฐประหารได้จัดตั้งองค์กรพิเศษเรียกว่า คตส. เป็นการตั้งองค์กรที่ซ้ำซ้อนกับ ป.ป.ช. จึงเชื่อว่า คดีของนายทักษิณ ยังไงก็เป็นคดีการเมือง เพราะเริ่มต้นและจบลงด้วยอำนาจทางการเมืองของเผด็จการทั้ง 2 ครั้ง ส่วนตัวไม่ได้มองว่าให้นิรโทษกรรมกับนักโทษคดีทุจริต ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ขอเพียงแค่ให้โอกาสเขาเหล่านั้นได้ถูกพิจารณาคดีใหม่ตามระบบปกติของกระบวนการยุติธรรมที่เป็นไปตามกฎหมาย และหลักนิติธรรมตามที่ควรจะเป็นเท่านี้ก็พอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี