มท.1 เชิญชวนร่วมดื่มด่ำ “เที่ยวดูไฟ” ชมไฟประดับสุดตระการตา 2.4 ล้านดวง สถานที่สำคัญต่าง ๆ กลางกรุง เพื่อเฉลิมฉลองรับปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 66 - 15 ม.ค. 67 นี้

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 66 เวลา 17.50 น. ที่บริเวณสวนมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานงานแถลงข่าวเชิญชมไฟประดับสุดตระการตานับล้านดวง และโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินทัศนียภาพเมืองสวยงามถนนราชดำเนิน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ และสื่อมวลชน ร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยในเวลา 18.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำผู้ร่วมงานขับร้องเพลงชาติไทย และเป็นประธานการแถลงข่าว จากนั้นได้นำผู้ร่วมงานและสื่อมวลชนขึ้นรถบัสเปิดหลังคา ชมไฟประดับ และโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเส้นทาง กระทรวงมหาดไทย - พระบรมมหาราชวัง - อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย - พระบรมรูปทรงม้า - พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นอันเสร็จกิจกรรม

นายอนุทิน  กล่าวว่า พวกเราหลายคนคงมีความทรงจำวัยเด็กที่คล้ายกันอย่างหนึ่งนะครับ นั่นคือ การ “เที่ยวดูไฟ” ในกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาล และจุดสำคัญที่ผู้คนมักนั่งรถมาดูกันก็คือ ถนนราชดำเนินไปจนถึงบริเวณท้องสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง เมื่อผมได้ทราบจากผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงว่าปีนี้มีโครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน เพื่อเสริมทัศนียภาพของถนนราชดำเนิน และจะมีการจัดไฟประดับนับล้านดวงในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองรับปีใหม่ ซึ่งเป็นที่น่าดีใจที่ในปีนี้เราจะได้เห็นภาพที่สวยงามยิ่งกว่าที่เคยเห็นกันมา โดยการไฟฟ้านครหลวงซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่มีความเชี่ยวชาญ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าที่เป็นภารกิจหลักมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พื้นที่ในความรับผิดชอบ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ อันถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้มีระบบไฟฟ้าที่มีความมั่นคง เพียงพอ ตอบสนองนโยบาย “มหานครแห่งอาเซียน” ของรัฐบาล

“ในโอกาสเตรียมเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ การไฟฟ้านครหลวงจึงได้มีการประดับตกแต่งไฟอย่างสวยงามตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงถนนราชดำเนินซึ่งได้นำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทัศนียภาพอันสวยงามที่จะเกิดขึ้นนี้จะเป็นการส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกท่าน ได้มาเที่ยวชมบรรยากาศ มาสัมผัสกับความงดงามยามค่ำคืนจากไฟประดับนับล้านดวง เพิ่มความตื่นตาตื่นใจตลอดเส้นทางถนนที่มีการจัดกิจกรรม ถือเป็นการส่งมอบความสุข ความประทับใจให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และยังเป็นการกระตุ้นหนุนเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไปพร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 18.00 - 24.00 น.” นายอนุทินฯ กล่าวเพิ่มเติม

ด้านนายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า การไฟฟ้านครหลวงในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินงานภายใต้ภารกิจหลักในการให้บริการจำหน่ายไฟฟ้าแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ในการดูแลบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนให้ได้รับบริการที่มีคุณภาพ และสะดวกสบาย ตามวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร ซึ่งในโอกาสการเฉลิมฉลองเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2567 การไฟฟ้านครหลวงได้ดำเนินการติดตั้งตกแต่งไฟประดับจำนวนกว่า 2.4 ล้านดวง และไฟเส้นรวมความยาวกว่า 34 กิโลเมตร ตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้แก่ พระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า กระทรวงมหาดไทย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินใน ทำเนียบองคมนตรี อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ คลองเตย และการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานเพลินจิต ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 15 มกราคม 2567 เวลา 18.00 - 24.00 น. เพื่อให้ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยว ได้เที่ยวชมความระยิบระยับ ตระการตา ในช่วงเวลาพิเศษดังกล่าว

“นอกจากนี้ MEA ยังพัฒนาระบบพลังงานอย่างต่อเนื่อง ให้สอดรับกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของเมืองมหานคร โดยการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินในหลายโครงการ เช่น โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ช่วงที่ 1 (ระยะทาง 1.53 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ปี 2565 มีขอบเขตของงานดังนี้ - ถนนหน้าพระลาน - ถนนสนามไขย - ถนนข้าวสาร) โครงการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ช่วงที่ 2 (ระยะทาง 4.22 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ปี 2565 มีขอบเขตของงานดังนี้ - ถนนราชดำเนินกลาง - ถนนราชดำเนินใน – ถนนท้ายวัง - ถนนเชตุพน - ถนนมหาราช) โครงการปรับปรุงสายอากาศเป็นสายใต้ดิน บริเวณ 2 ฝั่งคลองคูเมืองเดิม ในนามกระทรวงกลาโหม (ระยะทาง 4 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ปี 2564 มีขอบเขตของงานดังนี้ - ถนนราชินี แรงต่ำ - ถนนอัษฎางค์ แรงต่ำ) โครงการถนนหน้าพระลาน ถึง ถนนราชินี (ระยะทาง 0.75 กิโลเมตร จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2567) โครงการถนนลูกหลวง ข้างทำเนียบรัฐบาล (ระยะทาง 0.35 กิโลเมตร จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2567 เช่นเดียวกัน) โครงการรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน (ระยะทาง 7.1 กิโลเมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ปี 2564) และการไฟฟ้านครหลวงยังมีการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Metro Grid) รวมถึงโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมที่ทันสมัย ตลอดจนการปรับภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์โดยรอบสถานที่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ไฟฟ้าในรูปแบบวิถีชีวิตเมืองมหานคร มุ่งสู่การเป็น Smart City ตามนโยบายรัฐบาล” นายวิลาศฯ กล่าวเพิ่มเติม