"ศรีสุวรรณ"ฟ้องศาลปค.ไต่สวนฉุกเฉินขอสั่ง"ทักษิณ"กลับรักษาตัวเรือนจำ พร้อมสั่งเพิกถอนระเบียบราชทัณฑ์คุมขังนอกคุก เล็งฟ้อง 9 อรหันต์ฯ หากเอื้อให้รักษาตัวภายนอก
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นฟ้อง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร , ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ , นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นผู้ถูกฟ้อง คดีที่ 1 ถึง 4 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งที่ให้ นายทักษิณ ชินวัตร ออกไปนอนพักรักษาตัวนอกเรือนจำ รวมทั้งเพิกถอนระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 และขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ระเบียบดังกล่าวไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
"การออกระเบียบอนุญาตให้ผู้ต้องขังไปคุมขังนอกเรือนจำได้โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 ยิ่งตอกย้ำว่าเป็นความพยายามเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณไม่ต้องนอนคุกสักวันเดียว โดยอ้างเหตุนักโทษล้นคุกทั้งที่นักโทษส่วนใหญ่ 99% เป็นนักโทษที่เกี่ยวกับยาเสพติดไม่ได้รับอานิสงส์จากระเบียบดังกล่าว แต่คนโกงแผ่นดินกลับเข้าเงื่อนไขให้ไปคุมขังที่บ้านได้ อันเป็นการทำให้คำพิพากษาของศาลไม่มีความหมายต่อการลงโทษนักโทษให้หลาบจำได้เลย" นายศรีสุวรรณ กล่าว
นอกจากนี้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 ยังกำหนดไว้ชัดเจนว่า กรณีที่จะอนุญาตไปรักษาตัวนอกเรือนจำนั้น จะต้องมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้น แต่จากคำแถลงของกรมราชทัณฑ์และแพทย์เจ้าของไข้ไม่พบว่านายทักษิณเข้าเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น การอนุญาตให้นายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจที่สังคมสงสัยจำเป็นที่ต้องพิสูจน์กันในชั้นศาลเพื่อให้ได้ข้อยุติ
"เรื่องนี้ประชาชนจับเป็นข้อพิรุธได้มากมาย แต่ผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ยี่หระไม่สนใจ แม้แต่นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในฝ่ายบริหารก็ไม่สนใจต่อกรณีนี้ เพราะอาจจะถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียร่วมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมการที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์จะใช้อำนาจโดยพลการ น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องโดยเฉพาะการออกระเบียบให้ผู้คุมขังไปพักรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำ ซึ่งกฎกระทรวงฯที่ออกโดยนายสมศักดิ์ เทพสุทินนั้น ไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องออกไปพักอยู่ที่บ้านพัก ไปสถานประกอบการเอกชน วัดวาอาราม มัสยิด แต่ระเบียบนี้กลับมาเขียนไว้มากกว่าที่กฎกระทรวงกำหนด ไปพักที่บ้านพักก็ได้ โรงพยาบาลเอกชน หรือที่ใดก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการจัดการนอกเหนืออำนาจกฎกระทรวงโดยชัดเจน ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้นักโทษชื่อทักษิณ"
เมื่อถามว่า จะครบ 120 วันแล้วมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่กรมราชทัณฑ์จะขอขยายระยะเวลาการรักษาตัวของนายทักษิณ นั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ก็มีแนวโน้มเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ตนเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมทางปกครองที่มายื่นฟ้องในวันนี้จะรักษาบรรทัดฐานในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน เพราะที่ผ่านมาศาลปกครองก็พูดมาโดยตลอดเรื่องความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น คำขอของตนเพื่อขอไต่สวนฉุกเฉินและบังคับให้มีการทุเลาตามระเบียบนี้ทางศาลเห็นชอบด้วยก็จะทำให้นายทักษิณ ทำให้ในทักษิณที่ต้องมารักษาตัว ต้องกลับมารักษาตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯหรือโรงพยาบาลราชทัณฑ์
เมื่อถามต่อว่า หากในทักษิณได้ประโยชน์จากระเบียบราชทัณฑ์ดังกล่าวจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จะไปฟ้องคณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขัง ที่มีจำนวน 9 คน และมีรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธาน ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้นายทักษิณ ไปคุมขังนอกเรือนจำเป็นคดีอีก 1 คดี โดยอรหันต์ทั้ง 9 เป็นคนที่ชี้เป็น ชี้ตายที่จะเสนอเรื่องไปยังอธิบดีให้ลงนามอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บริหารสูงสุดควรลงมาดูแลเพราะเป็นเรื่องที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม แต่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ลอยตัว ไม่พูด ไม่แตะต้องเรื่องนี้ ก็เป็นที่รับรู้กันของสังคมไทย
ส่วนที่อ้างว่าระเบียบดังกล่าวเป็นการออกมารองรับกฎกระทรวงที่ออกมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้วนั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เห็นว่าโดยปกติการออกกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายแม่ ซึ่งจะต้องออกภายใน 1 - 2 ปี ดังนั้น เมื่อนายสมศักดิ์ออกกฎกระทรวงมาในปี 63 ระเบียบก็ควรออกภายในวันนั้น ไม่จำเป็นต้องไปจัดประชุมหรือรับฟังความคิดเห็นประชุมกันในองค์กรก็ออกระเบียบได้เลย แต่กลับมาออกในช่วงที่นายทักษิณกลับมารับโทษเมื่อ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา และออกมา
รองรับ เพราะคิดว่านายทักษิณจะได้ประโยชน์จากการอภัยโทษในวาระสำคัญ แต่เมื่อไม่มีจึงต้องเร่งระเบียบนี้ออกมาเพื่อรองรับใช่หรือไม่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี