"สว.สมชาย"หวั่น"แพทย์ รพ.ตร."ลักไก่ให้ความเห็นเป็นเท็จปม"ทักษิณ"รักษาตัวนอกคุก ยกหลักฐานระบุความเห็นให้รักษาตัวต่อเนื่อง หลังครบ 120 วัน บี้ ยธ.ตรวจสอบ เสนอตัวร่วมขบวนลงพื้นที่
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หารือต่อที่ประชุมฯ ว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ในการประชุมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนของกรมราชทัณฑ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าชี้แจงซึ่งเป็นการประชุมติดตามกรณีการพักโทษให้กับนักโทษเด็ดขาดนอกเรือนจำที่เกินเวลา 120 วัน เป็นครั้งที่สาม ซึ่งเป็นการประชุมโดยเปิดเผย ต่างจาก 2 ครั้งที่ผ่านมาที่เป็นการประชุมลับ เนื่องจากการประชุมลับไม่ได้ข้อมูลใดๆ เลย
ทั้งนี้ ในการชี้แจงของกรมราชทัณฑ์ ในกรณีการอนุญาตให้นักโทษเด็ดขาด เป็นอดีตนายกฯ รักษาตัวนอกเรือนจำ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน ระบุว่าผู้บัญชาการเรือนจำได้ทำเรื่องขออนุมัติ ซึ่งส่งเรื่องไปยัง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแจ้งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้รับทราบตามหลักเกณฑ์แล้ว พร้อมหลักฐานสำคัญ คือ คำวินิจฉัยของแพทย์ ที่ลงนามในใบรักษา ระบุว่า ให้รักษาตัวต่อเนื่อง อีกทั้งกรมราชทัณฑ์ระบุว่าไม่มีอำนาจนำตัวผู้ต้องขังกลับจากโรงพยาบาล ด้วยเหตุผลตามความเห็นของแพทย์ที่ให้รักษาตัวต่อเนื่อง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง รวมถึง พ.ต.อ.ทวี ตรวจสอบว่านักโทษที่ได้รับสิทธิดังกล่าวป่วยด้วยโรคอะไร เพราะเท่าที่ทราบคือ เป็นโรคปกติธรรมดา คือ ความดัน เส้นเลือดตีบ เป็นโควิด ติดเชื้อที่ปอด กระดูกเสื่อม และรักษาอาการที่ไกล่ ไม่จำเป็นต้องรักษาเกินระเบียบ หากแพทย์ให้ความเห็นว่าต้องรักษาตัวต่อเนื่อง ต้องป่วยด้วยโรครร้ายยแรง ใกล้วาระสุดท้าย นอนติดเตียง
"สำหรับการควบคุมนักโทษนั้นตามระเบียบของราชทัณฑ์กำหนดให้มีผู้คุมดูแลผลัดละ 2 คน และต้องถ่ายรูปคู่กับนักโทษที่รักษาตัวนอกเรือนจำ ทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อรายงาน แต่จากการตรวจสอบของ กมธ.ทราบจากกรมราชทัณฑ์ว่าไม่เคยเข้าไปตรวจ ซึ่งผมขอให้ รมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งไม่ใช่การคุกคามคนป่วย แต่เพื่อไปดูว่าแพทย์ได้ตรวจ หรือให้ความเห็นเป็นเท็จหรือไม่ และหากหน่วยงานต้องการความช่วยเหลือ กมธ.ของวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องพร้อมไปด้วย รวมถึง กสม.ด้วย" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ได้ขอเรียกเอกสารตามที่ ผู้บัญชาการเรือนจำที่ทำควาเห็นถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่อนุมัติให้นักโทษเด็ดขาดอยู่นอกเรือนจำทั้ง 3 ครั้ง มาตรวจสอบอีกครั้ง รวมถึงภาพถ่ายของผู้คุมร่วมกับผู้ต้องขังมาตรวจสอบ ทั้งนี้ไม่ใช่ทำไปด้วยความอคติ แต่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ส่วนที่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่ากล้องวงจรปิดภายในเสียนั้นตนมองว่าไม่น่าเชื่อถือเพราะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ ผู้พิทักษ์ความสงบเรียบร้อย ดังนั้นการกระทำใดๆ ขอให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนบุคคล แต่หาก สตช.ไม่มีงบประมาณเพื่อเปลี่ยน ตนจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้และขอให้แพร่ภาพมายังที่วุฒิสภา ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย แต่หากยังไม่ดำเนินการใด ตนจะเสนอให้พรรคฝ่ายค้านในสภาฯ ตัดงบประมาณของกรมราชทัณฑ์ ทั้งหมด เพราะหน่วยงานดังกล่าวถือว่าหมดความจำเป็น
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สำหรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยให้สิทธินักโทษคุมขังนอกเรือนจำ จากการตรวจสอบแล้วพบว่า อาจเป็นระเบียบที่ขัดแย้งกันกับระเบียบที่ประกาศไว้ก่อนหน้านั้น ที่กำหนดให้สิทธินักโทษคุมขังนอกเรือนได้ แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมตามเกณฑ์ เช่น นักโทษที่อายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วเหลือตัวเองได้น้อยจะได้รับสิทธิเป็นต้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี