‘เชฟชุมพล’ย้ำอาหารไทยเป็น‘ซอฟต์เพาเวอร์’อยู่แล้วแต่ต้องทำให้ยั่งยืน เผยปีหน้าคิกออฟปั้นเชฟมืออาชีพระดับหมู่บ้าน
วันที่ 26 ธันวาคม 2566 นายชุมพล แจ้งไพร เชฟชื่อดังผู้อยู่เบื้องหลังเมนูอาหารไทย ในงานเลี้ยงอาหารค่ำ หรือกาลาดินเนอร์ ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 ที่ประเทศไทยเมื่อเดือน พ.ย. 2565 กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นพิธีกร ในประเด็นความเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของอาหารไทย ว่า ตนได้รับการแต่งตั้งจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้านซอฟต์เพาเวอร์ โดยเป็นประธานอนุกรรมการในสาขาของอาหาร
ซึ่งนับตั้งแต่รัฐบาลประกาศเรื่องซอฟต์เพาเวอร์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566 ก็มีการประชุมกันอย่างเข้มข้น โดยตนดูแลเรื่องอุตสาหกรรมอาหารไทยทั้งหมด แน่นอนว่าอาหารไทยดีอยู่แล้ว เพียงแต่จะวางยุทธศาสตร์อย่างไรให้เกิดการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะที่สิ่งที่มีอยู่แล้วจะทำอย่างไรให้ยั่งยืน หมายถึงจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับคนที่อยู่ในแวดวงนี้ได้มากที่สุด มีการพบปะกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอาหารทั้งหมด หารือกันว่าจะไปกันแบบไหน
“จริงๆ อาหารไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์อยู่แล้วเพราะว่าคนต่างชาติชอบโดยไม่มีใครมาบังคับเขา คนไทยก็ชอบโดยไม่ต้องบังคับนะว่าต้องชอบอาหารไทย เขาชอบด้วยตัวเขาเอง แต่เราจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เขาชอบนั้นให้เขาชอบทั้งชีวิต – ตลอดชีวิต แสดงว่าก็ต้องทำ Quality (คุณภาพ) ให้เขามีความประทับใจตลอดเวลา ให้เขามีความเชื่อมั่น มีความศรัทธามากขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาชอบแล้วอีกว่าเขาไปเจออาหารไทยที่ เฮ้ย!..เสียใจมากเลย มันคุณภาพไม่ได้เลย กินแล้วยังมีพิษมีภัยอะไรแบบนี้ อันนั้นไม่ได้” นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล กล่าวต่อไปว่า มุมหนึ่งอะไรที่ต้องสร้างมาตรฐานหรือมีมาตรฐานจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร แต่อีกมุมหนึ่งคือจะสร้างกลุ่มใหม่ให้มาชอบอาหารไทยได้อย่างไร ทั้ง 2 มุมนี้ต้องทำให้ดีที่สุด และตนเชื่อว่ามนุษย์ในโลกย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว กินแล้วอร่อยดีถูกปาก ซึ่งต้องบอกว่าอาหารไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์มานาน อย่างในปี 2536 ตนอายุเพิ่ง 18 ปี ได้ไปทำงานที่ประเทศเดนมาร์ก เนื่องจากมีร้านบลู เอเลเฟ่นท์ (Blue Elephant) เปิดที่นั่น ก็ได้เห็นการเติบโตของธุรกิจอาหารไทยในต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นตลอด 30 ปีที่ผ่านมา
โดยหากเปรียบเทียบกับกราฟหุ้น ก็ต้องบอกว่าการเติบโตของอาหารไทยสูงขึ้นเป็นหลักพันเปอร์เซ็นต์ อาทิ หากย้อนไป 30 ปีก่อนชาวต่างชาติกินผัดกะเพราไม่เป็น กินได้แต่ไก่ผัดเปรี้ยวหวาน หรืออย่างมากก็ต้มข่าไก่ แต่ทุกวันนี้ชาวต่างชาติกินผัดกะเหรา โป๊ะแตก ผัดฉ่า ผัดเผ็ดได้แล้ว ทั้งนี้ แผนงานในปี 2567 ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติด้านซอฟต์เพาเวอร์ จะมีอาหารเป็นเรือธง ซึ่งตนวางแผนการพัฒนาไว้แต่ตั้งแต่ระดับชุมชนหรือหมู่บ้าน ซึ่งมีโครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” จนถึงว่าจะไปตลาดโลกอย่างไร
“สมมติว่าหมู่บ้านโคกสูงมี 200 หลังคาเรือน ก็เลือกมาคนหนึ่งที่จะมาเข้าแคมป์ฝึกให้เป็นเชฟมืออาชีพ เป็นสตาร์เชฟอาหารไทย เขาอาจจะทำอาหารในชุมชนนั้น หรือเขาอาจจะไปทำงานในอุตสาหกรรมอาหารไทย ร้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร หรือไปทำงานต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในชุมชนนั้นเพื่อจะไปสร้าง แล้วเขาจะเป็นเซลส์แมนให้กับชุมชนนั้น เป็นอินฟลูเอนเซอร์ให้กับชุมชนนั้น ตัวนี้เป็นตัวสำคัญ” นายชุมพล ระบุ
นายชุมพล ยังกล่าวอีกว่า เราคิดการพัฒนาตั้งแต่ตรงนั้น เขาจะเป็นเซลส์แมน ในขณะที่บริษัทใหญ่ๆ ที่ทำเกี่ยวกับอาหารจะมีผลในการส่งออกอย่างไร เพราะคนในชุมชนจะรู้ว่าในชุมชนของเขามีอะไรดี ไปดูในสื่อสังคมออนไลน์ จะเห็นการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในชุมชนตรงนั้น โดยวางเป้าหมายในปี 2567 อยากได้สัก 10,000 คน และเมื่อผ่านไป 4 ปี อยากให้ได้ครบทุกหมู่บ้าน คือประมาณ 74,000 คน เพราะเชฟมืออาชีพต้องมีองค์ความรู้ ทักษะ วิธีคิด ต้องสามารถทั้งทำเป็น ขายเป็น และถ่ายทอดเป็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี