1 ม.ค.2567 ดร.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้ทำนายสถานการณ์ทางการเมืองในปี 2567 ว่า ดวงเมือง จะอายุครบ 242 ปี ในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2567 และจะมีอายุย่าง 243 ปี หวั่นว่าอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่รุนแรงคล้ายปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 มีความเป็นไปได้ตั้งแต่กันยายน 2567 ถึงพฤษภาคม 2568
จากการพยากรณ์ดวงเมืองโดยอาศัยดาวหลักที่สำคัญทางโหราศาสตร์ไทย คือ ดาวพระพฤหัสบดี ดาวพระเสาร์ ดาวพระราหูนั้น พบว่าการโคจรของดาวพฤหัสบดีในปี 2567 วันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 00.00 น. จะโคจรเดินหน้าอยู่ในราศีเมษ(กลุ่มดาวแกะ) จากนั้นจะโคจรเดินหน้าไปทางทิศตะวันออกเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 12.45 น. จึงจะโคจรยกเข้าสู่ราศีพฤษภ(กลุ่มดาวโค) และจะโคจรเดินหน้าไป จนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2567 จึงจะเปลี่ยนวิถีการโคจรเป็นถอยหลังไปทางทิศตะวันตกเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันสิ้นปี จะโคจรถอยหลังอยู่ในราศีพฤษภ จนถึง 13 พฤษภาคม2568 ก่อนจะย้ายเข้าสู่ราศีมิถุน
ตอนนี้อายุดวงเมืองจะครบ 242 ปี ในวันที่ 21 เมษายน 2567 ซึ่งดาวพฤหัสบดี โคจรเดินหน้าอยู่ในราศีเมษ ภพที่ 1 ของดวงเมือง อยู่ไปจนกระทั่งถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งในช่วงนี้ดาวพฤหัสบดี ยังเป็น"กาลกิณีจร" จึงจะให้ความยุ่งยาก ตามความหมายดาว คือ จะให้ผลร้าย ให้โทษทางด้านกฎหมาย ศีลธรรม โดยเกิดการใช้กฎหมายมาห้ำหั่นกันหรือที่เรียกว่า "นิติสงคราม" ใช้กฎหมายใช้ศาลเป็นเครื่องมือมากลั่นแกล้งทำลายล้างกัน ชิงไหวชิงพริบช่วงชิงผลประโยชน์ เป็นการใช้กฎหมายเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดความเสียหายอ่อนแอลง
ต่อจากนั้น พระพฤหัสบดีจะย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภ ซึ่งเป็นภพที่ 2 ของดวงเมือง ไปกุมกับดาวมฤตยู ที่เรียกว่า "พฤหัสบดีมฤตยูครูวิเศษ" ที่โคจรอยู่ตรงราศีพฤษภ จนกระทั่งถึงปี 2572 ทำให้เกิดผลเปลี่ยนแปลงเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของประเทศ ที่นำไปสู่วิถีใหม่ เปลี่ยนแปลงระบบการเงินปริวรรตเงินตราประเทศ โดยปรับปรุงให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เป็นการเฟื่องฟูการเงินแบบแปลกๆ จึงให้ระวังว่าอาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง และสินค้าราคาแพง
ส่วนวิถึดาวพระเสาร์ในดวงเมือง นั้น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จะโคจรเดินหน้าอยู่ในราศีกุมภ์ (กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ) จากนั้นจะโคจรเดินหน้าไปทางทิศตะวันออก เรื่อยๆ จนถึงวันที่ 29 มิถุนายน ก่อนจะเปลี่ยนวิถีการโคจรเป็นถอยหลังไปทางทิศตะวันตกเรื่อยๆ และวันที่ 2 พฤศจิกายน จึงเปลี่ยนวิถีเป็นโคจรเดินหน้า ในราศีกุมภ์ไปทางทิศตะวันออกเรื่อยๆจนกระทั่งถึงวันสิ้นปีจะโคจรเดินหน้าอยู่ในราศีกุมภ์
"ราหูจรทับราหูเดิม" บาปเคราะห์ทับตัวเองจึงไม่ค่อยดี
ราหูเป็นตัวแทนของสภา ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าเรือนอยู่ในภพที่11 ส่วนดาวเสาร์เป็นตัวแทนของรัฐบาล ซึ่งการที่ราหูทับราหูก็จะเกิดปัญหาอุปสรรค ความวุ่นวายเสียหายในสภา ทำให้พ.ร.บ.บางฉบับ อาจไม่ผ่านสภา ซึ่งอาจจะเป็นพ.ร.บ.การเงิน พ.ร.บ.งบประมาณ ,ประชามติ,นิรโทษ ที่จะเกิดปัญหาอุปสรรคและสูญเสีย ทำให้ในสภาเกิดการพลิกผันได้
โดยดาวราหูยกจากราศีมีนเข้าราศีกุมภ์ และดาวพระเสาร์มาจากราศีมีนเข้าสู่ราศีกุมภ์ ในวันที่ 5พฤษ ภาคมปี 68 จึงเกิดการโคจรเดินสวนกันในวันที่ 12 พฤษภาคม 68 ซึ่งมองดูแล้วคล้ายๆจะเกิดปัญหาเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตหรือไม่ รัฐสภาอาจจะถูกครอบ คลุม ครอบงำโดยรัฐบาล ทำให้ๆอาจเกิดเผด็จการรัฐสภาขึ้นมาอีกครั้ง จนกระทั่งนำไปสู่การเปลี่ยน แปลง
ราหูคือรัฐสภาที่มีสส.ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ส่วนพระเสาร์ตัวแทนภพที่ 10 คือครม. แล้วครม.กับสภาเกิดการเดินสวนแล้วไปกุมกันในเรือนของราหู เพราะฉะนั้นสถานการณ์จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรัฐบาล. แม้ปกติรัฐบาลเสียงข้างมากในสภา แต่ว่าเกิดภาพปรากฏที่แปลก ซึ่งน่าคิดว่าคล้ายในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี สส.เกือบเต็มสภา
เหตุการณ์ที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2567 หากดูตามดวงดาว จะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ฉะนั้น อาจเกิดการปรับครม.ครั้งสำคัญ หรืออาจจะยิ่งกว่านั้น หากกฎหมายไม่ผ่านสภา ก็จะต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ
นอกจากนี้ ยังมีจุดที่จับตา 2 จุด คือ วงรอบดวงดาววันที่ 19 กันยายน ปี 67 มีลักษณะเกิดจันทรุปราคา ที่คล้ายกับเคยเกิดในวันยึดอำนาจ 19 กันยายน ปี 49 ดังนั้น สิ่งที่ต้องระวังโดยเฉพาะประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะเป็นรัฐประหาร ซึ่งอาจจะไม่ตรงวันที่ 19 แต่จะเหลื่อมวันก็เป็นได้ ตั้งแต่ปลายปี 67 ถึงต้นปี 68 จึงเกรงว่า 19 กันยายน 2567 จะเกิดปัญหาเหมือนที่เคยเกิดการรัฐประหารขึ้นในอดีตหรือไม่ โดยราหูอยู่ปีครึ่ง ทั้งนี้ รัฐประหารอาจเกิดก่อนราหูย้าย
ส่วนนายกเศรษฐา ลัคนาดวงเกิดอยู่ราศีเมษหรือราศีมีนยังไม่ชัดเจนซึ่งพระราหูดวงเมืองจะไปสัมพันธ์กับดวงกำเนิดของอดีตนายกฯที่เหมือนนายกฯ หรือนายกฯปัจจุบัน รวมทั้งดวงเมือง โดยจะเกิดในช่วงปลาบปี 2567 หรือ ต้นปี 2568 ซึ่งน่าจะไม่เกินวันที่ 5 พฤษภาคม 68 เกิดในจังหวะที่พระราหูอยู่ตรงราศีมีน
อย่างไรก็ตาม สรุปเหตุการณ์สำคัญที่น่าจะเกิดขึ้นในปี 2567 หากดูตามดวงดาวจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ฉะนั้น อาจเกิดการปรับครม.ครั้งสำคัญ หรืออาจจะยิ่งกว่านั้น หากกฎหมายไม่ผ่านสภา ก็จะต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ โดยนายกฯเศรษฐา ระวังจะสูญเสียตำแหน่ง ถูกเลื้อยขาเก้าอี้ช่วงพฤษภาคม 67 ซึ่งอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ โดยอย่างน้อยก็ต้องมีการปรับครม.ครั้งใหญ่
ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจะเกิดขึ้นในช่วง 19 กันยายน 67 ถึงต้นปี 2568 โดยมีจุดที่จับตา2 จุด คือ วงรอบดวงดาววันที่ 19 กันยายน ปี 67 มีลักษณะเกิดจันทรุปราคา ที่เคยเกิดในวันยึดอำนาจ 19 กันยายน ปี 49 โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอยก็ต้องระวัง ซึ่งอาจจะไม่ตรงวันที่ 19 กันยายน แต่อาจจะเกิดเหลื่อมวันก็เป็นได้ ตั้งแต่ปลายปี 67 ถึงต้นปี 68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี