รบ.อ้างรอฟังความเห็นจากปปช.
ล้มถกบอร์ดดิจิทัล
จุลพันธ์ปัดลดเหลือ3แสนล.
เดินหน้าแจกยึดไทม์ไลน์เดิม
กฤษฎีกาจี้รบ.ฟังตัวเลขศก.
ปปช.โต้ลั่นยังไม่มีความเห็น
“ภูมิธรรม” เผยเลื่อนประชุมกก.ดิจิทัลวอลเล็ต อ้างได้ยินมาว่าป.ป.ช.จะส่งความเห็นมาให้ จึงต้องรอ คาด 1-2 สัปดาห์ทราบเรื่อง พร้อมนำมาพิจารณากับความเห็นกฤษฎีกา คาดนัดถกได้หลังประชุมครม.สัญจรที่ระนอง ด้าน “จุลพันธ์” สำทับเดินหน้าตามไทม์ไลน์เดิม แม้เวลากระชั้น ปัดลดวงเงินกู้เหลือ 3 แสนล้าน ขณะที่เลขาฯกฤษฎีกาย้ำควรรับฟังความเห็นรอบด้าน โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจของ“สภาพัฒน์-คลัง-ธปท.” ส่วน“สว.สมชาย”โผล่เปิดเอกสารผลศึกษาเงินดิจิทัลของป.ป.ช.ระบุ เสี่ยงผิดกฎหมาย อาจซ้ำรอยจำนำข้าว แนะยกเลิก เลขาฯป.ป.ช.โต้เอกสารเตือนรบ.ยันปปช.ยังไม่มีความเห็นออกมา
เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2024 ที่มาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 15-19 มกราคม 2567
เลื่อนถกเงินดิจิทัลรอความเห็นปปช.
ก่อนประชุม ครม.นายภูมิธรรมเปิดเผยว่า วันนี้เลื่อนประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตออกไปเป็นเวลาสั้นๆ แม้เราจะได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ทราบว่าจะมีหนังสือมาจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงจำเป็นต้องรอเพื่อนำมาประกอบการพิจารณากับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าหลังนายกฯและตนเดินทางกลับจากภารกิจต่างประเทศและการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่จ.ระนอง วันที่ 22-23 มกราคมเสร็จจะได้ประชุม และยืนยันจะเดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อ เพราะเป็นนโยบายที่เราได้ประกาศไว้กับประชาชน
ยันทำต่อแน่แต่ต้องฟังทุกความเห็น
นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ทราบมาว่าหนังสือป.ป.ช.จะมา รอดูมีอะไรบ้าง และคิดว่าถ้าเรียบร้อยก็จะจัดประชุมทั้งสองเรื่องทันที ไม่เช่นนั้นถ้าออกมาตรการจากทางกฤษฎีกาไป หากป.ป.ช.เห็นต่างเราก็อาจติดขัดได้ เลยรออีกสักนิด อาจจะดีด้วยถ้านายกฯกลับมาพอดีจะได้ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลให้น้ำหนักเดินหน้าเงินดิจิทัลที่ป.ป.ช.จะมีความเห็นมาอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทุกคนมีน้ำหนักเท่ากัน จะรับฟังภายใต้เงื่อนไขวัตถุประสงค์ของโครงการ หากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และไปไกลจากวัตถุประสงค์ที่จะทำ อาจต้องพิจารณาให้ความสำคัญอีกระดับหนึ่ง ถ้าเป็นเรื่องที่ตรงกับวัตถุประสงค์และมีข้อเสนอแนะที่น่ารับฟังจะเป็นเรื่องใช้พิจารณาประกอบให้มากขึ้น
นายภูมิธรรมยังยืนยันว่า มีคำตอบให้ประชาชนแน่ เพราะเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน เนื่องจากเรามาช่วงที่รัฐบาลอยู่ในสภาพที่เศรษฐกิจประเทศแย่ และความไม่ต่อเนื่องของงบประมาณก็มีอยู่ ฉะนั้น การดำเนินการจึงไม่ใช้เงื่อนไขเหมือนปกติที่เราเข้ามาแล้วใช้เงินงบประมาณจัดสรรได้ ต้องรอถึงเดือนพฤษภาคม งบปี 2567 ถึงจะได้ใช้
ชี้ศก.มีปัญหาจำเป็นต้องเร่งขับเคลื่อน
“วันนี้งบปี 67 ใช้แค่เฉพาะงบประจำกับเงินเดือนข้าราชการเป็นหลัก ส่วนงบลงทุนยังใช้อะไรไม่ได้ เราอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่เราไม่ได้ให้ข้อจำกัดเหล่านี้มาเป็นข้อสะดุดหยุดลงของโครงการ เพราะเป็นโครงการสำคัญ เราเริ่มต้นจากประเมินว่าเศรษฐกิจมีปัญหา หลายบริษัทต้องปิดกิจการลง โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาปิดลงไปเยอะ ความจำเป็นที่เราคิดว่าต้องกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้วงจรเศรษฐกิจ หรือความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจทั้งหมดขับเคลื่อนมีความสำคัญ” นายภูมิธรรมระบุ และว่าเราอยู่ในระบบทุนนิยมจะนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องขับเคลื่อน ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการขับเคลื่อนที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการหมุนเวียนและสร้างงาน จึงเป็นสิ่งที่ต้องดูแลประชาชนทุกคน
ลั่นเป็นการกระตุ้นศก.ไม่ใช่แจกเงิน
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า วันนี้เราเถียงเรื่องหลักการและวิธีคิด ระบบการจัดการไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ แต่การเถียงกันต้องอิงฐานที่ประชาชนประสบอยู่ เราอยู่ในระบบทุนนิยม จะขยับระบบทุนนิยมให้เดินหน้าไปได้ ต้องคำนึงถึงจิตใจและความมนุษย์ของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ฉะนั้น โครงการนี้พุ่งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่โครงการแจกเงิน เชื่อว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้า การจ้างงานเกิดขึ้นภายใต้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังมีโครงการอื่นของรัฐบาลอีกหลายเรื่อง ทั้งเศรษฐกิจการค้า การขับเคลื่อนองค์กรของรัฐ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้เกิดขึ้น
อีก2สัปดาห์น่าได้รับความเห็นปปช.
“ขอความกรุณาอย่าเอาวิชาการมานั่งเถียงกัน แต่เอาวิชาการมาเป็นข้อพึงระวังได้ และต้องคำนึงถึงชีวิตที่เป็นจริง เพราะเวลาเราถกเถียงกันในหมู่ข้าราชการระดับสูง หรือนักวิชาการ เราเถียงบนพื้นฐานที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ประสบปัญหาที่ประชาชนได้รับ จึงอยากเชิญให้มาช่วยกันพูด ช่วยคิดว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหาดีขึ้น ถ้ามีวิธีการที่ดีกว่านี้เราไม่ขัดข้อง ยินดีรับฟัง มีอะไรที่บอกว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่กลไกราชการปัจจุบันถือเป็นกลไกเดิมที่ทำอยู่ในรัฐบาลเดิม ทำวิธีเดิม ดังนั้น เรายังไม่เห็นว่าภายใต้กลไกที่เคยทำปฏิบัติมาแบบเดิมๆ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรให้ดีขึ้น”นายภูมิธรรมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความเห็นป.ป.ช.จะมาตอนไหน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าจะมาเร็วๆนี้ เมื่อรับทราบมาเราก็เลยรอ ตนว่าอาทิตย์สองอาทิตย์ก็ควรรู้แล้ว เมื่อพร้อมกันจะเป็นวันประชุมครม.สัญจร จากนั้นทุกอย่างมาก็อาจเดินหน้าได้ทุกเรื่อง
ลั่นลุยเงินดิจิทัล-ปัดตอบแผนสำรอง
ถามว่า ถ้าพ.ร.บ.กู้เงินเดินไปไม่ได้รัฐบาลมีแผนสำรองหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า กรอบใหญ่เราคิดไว้แล้ว แต่รอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นว่าอะไรเป็นอย่างไร เราก็แก้จากความเป็นจริงจะดีกว่า อย่าใช้คำว่า “ถ้า” บ่อย คำว่าถ้า บ่อยเป็นการจินตนาการ เราคิดไว้แล้ว ถ้าได้ หรือไม่ได้ก็จะทำอย่านั้น ส่วนถ้ามันเกิด หรือไม่เกิดก็ไม่รู้ รอให้เกิดขึ้นจริงๆ แล้วค่อยมาถามก็ได้
ถามถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้กับโครงการนี้มีแน่นอนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมยืนยันเดินหน้าโครงการนี้ ส่วนจะได้อะไรขึ้นอยู่กับข้อจำกัดและข้อเสนอของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องปฏิบัติเราก็คงเอามาปรับใช้ หากเป็นความเห็นรัฐบาลต้องยืนยันความเห็นของเราในการดำเนินการ ถ้าเราเห็นต่างเห็นด้วยก็ไม่มีปัญหา
หยุดวิจารณ์หยุดลากเป็นการเมือง
“นโยบายนี้ไม่ใช่คิดขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันคิดตั้งแต่การตั้งรัฐบาลและแถลงต่อรัฐสภาอย่างถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย ฉะนั้น ความชอบธรรมที่จะดำเนินนโยบายนี้ตามที่รัฐสภาเลือกมาจากประชาชน ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุด เพียงแต่เรารับฟังเพื่อให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องสบายใจและให้รอบด้านครบถ้วนมากที่สุดเท่านั้น อย่าใช้บางประเด็น หรือบางส่วนมาขวางทุกเรื่องแล้วทำไม่ได้เลย”นายภูมิธรรมกล่าว และย้ำว่า รัฐบาลนี้มีความยากลำบากในการทำงาน เพราะมีกฎหมายมีหลายเรื่องที่ค้างจากรัฐบาลเดิม ฉะนั้น อยากให้ทุกคนดูภาพรวมและช่วยกันคิดว่าประเทศจะหลุดจากวิกฤตที่เป็นอยู่อย่างไร การจะบอกว่าวิกฤตหรือไม่หรือมาวิจารณ์รัฐบาลดำเนินการแบบนั้นโดยเอาความชนะคะคานทางการเมืองเป็นที่ตั้ง อยากให้มาดูความเป็นจริง ช่วยกันคิด ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลมากที่สุด ส่วนที่ถกเถียงเศรษฐกิจวิกฤตจริงหรือไม่ ต้องดูความเป็นจริง ไม่ใช่พูดตามอารมณ์ หรือสถานการณ์
ยันเดินหน้าตามไทม์ไลน์เดิม
นายภูมิธรรมยังยืนยันว่า เราวางทุกอย่างเดินตามแผนทั้งหมด จะยืดหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเป็นจริงที่ได้รับ ถ้าบอกมาแล้วยังไปไม่ได้ต้องมาหาทางออก ถ้าไปไม่ได้แล้วต้องยืดก็ต้องยืด แต่วันนี้เรายังวางไทม์ไลน์ไว้อย่างเดิม ยังไม่มีอะไรมาหักล้างทำให้เราต้องผิดเพี้ยนไปจากนี้ ฉะนั้น ต้องช่วยกันคิดเพื่อให้เดินหน้า ไม่ใช่ช่วยกันคิดเพื่อให้หยุดอยู่กับที่
เมื่อถามว่า รัฐบาลตั้งเป้าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงินดิจิทัลเข้าสภาฯเมื่อไหร่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยัง ต้องเคลียร์ให้ทั้งหมดว่าอะไรเป็นอะไร ทุกคนต้องเข้าใจสิ่งที่ตนพูด ต้องดูว่าของจริงจะให้ไปได้อย่างไร ข้อสรุปยังไม่ครบถ้วน อย่ามองอะไรไกลเกินจากความเป็นจริง ถ้าคนของรัฐบาลตอบไม่ตรงกัน หรือตอบมีปัญหาซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ จะกลายเป็นว่าไม่พร้อม
แค่ได้ยินมาว่าปปช.จะส่งความเห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าออก พ.ร.บ.กู้เงินไม่ได้รัฐบาลจะถอยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวย้ำว่า “ไม่มีถ้า” ขอเจอความเป็นจริง ตอนนี้ยังไม่มีเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ หรือไม่เงินกู้ ขอความเป็นจริงตรงนี้ก่อน ตรงนี้ยังไม่ชัดเจนเลยแต่จะให้ตนไปคิดเรื่องอื่น ถ้าคิดไปอาจคิดฟรีก็ได้ รอให้ความจริงเกิดขึ้นก่อน หากความเห็น ป.ป.ช.มาถึงจะเปิดเผยหรือไม่ อยู่ที่ว่าเอกสารนั้นเป็นเอกสารระดับไหน
ส่วนความเห็น ป.ป.ช.จะสร้างเงื่อนไขให้เป็นข้อจำกัดของรัฐบาลหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า ไม่ทราบต้องถาม ป.ป.ช.จะออกมาจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่เราได้ยินว่าจะมีเราก็รอ แต่เรายังไม่ได้รับการติดต่ออย่างเป็นทางการว่าให้รอ เดี๋ยวจะส่งมา อันนั้นไม่มี เราทราบว่าจะมี จึงคิดว่าถ้ามีจริงก็จะรอได้อีก ไม่มีปัญหาที่จะขยับไปอีก1-2อาทิตย์ เดือนสองเดือน หากทุกอย่างพร้อมเราเดินได้ทันที เตรียมการไว้หมดแล้ว
ยันแถลงต่อสภาแล้วต้องทำ
นายภูมิธรรมยังชี้แจงว่า เรื่องนี้ ไม่ใช่ธง แต่เป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา เป็นนโยบายที่คิดมาอย่างดีที่เสนอต่อประชาชนเอามาคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลและแถลงต่อรัฐสภาชัดเจน เมื่อนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาชัดเจน ตนไม่ทำงวดหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มาบอกว่าเรื่องนี้เรื่องนั้นไม่ทำ จึงต้องให้ความเป็นธรรมด้วยในการช่วยกันมอง
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะดันไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย จะมาบอกว่าให้ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ คิดเอง ดันไปถึงศาลรัฐธรรมนูญตัดสินหรือไม่เป็นแนวทางหนึ่ง ถ้าเป็นข้อเสนอจากท่าน ซึ่งเราพูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีธงที่จะเดิน เราดูตามความเป็นจริง อย่าจินตนาการมาก
“จุลพันธ์”ปัดลดวงเงินเหลือ3แสนล.
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่ถึงรัฐบาล อยู่ระหว่างทาง เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเลื่อนประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะเราต้องฟังความเห็นรอบด้าน หากเร่งประชุมจะหาว่ารวบรัด จึงรอให้เอกสารเข้ามาให้พร้อม เชื่อว่าอีกไม่นาน ต้องนำเอกสารมาดูให้ละเอียด เพื่อให้คณะกรรมการฯพิจารณา ทั้งคำตอบของกฤษฎีกา ของป.ป.ช. จะได้ตอบสนองข้อเรียกร้องได้ถูกต้อง ได้เดินหน้าโครงการต่อไป ยืนยันนาทีนี้ยังตั้งเป้าเช่นเดิม ยอมรับว่าเวลากระชั้น แต่เมื่อมีความเห็นจากกฤษฎีกา และป.ป.ช.ในฐานะกรรมการนโยบายฯ เราก็ต้องรับฟังว่าข้อแนะนำคืออะไร
ถามถึงกระแสข่าวจะลดขนาดโครงการ นายจุลพันธ์ปฎิเสธว่าไม่มีการพูดคุยกันเลย เห็นจากข่าวว่า จะลดวงเงินจาก 5 แสนล้านบาทเหลือ 3 แสนล้านบาท แต่ยืนยันว่ามีการประชุมเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตนอยู่เกือบทุกคณะ ไม่เคยหารือประเด็นนี้ ไม่เคยได้ยินตัวเลข 3 แสนล้านบาท ส่วนจะมีแผนสองหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มี ดูตรงนี้ให้จบ ส่วนจะออกเป็นพ.ร.บ.หรือพ.ร.ก.ยังไม่ได้นำมาหารือ
กฤษฎีกาแนะต้องฟังความเห็นปปช.
ด้านนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวถึงกรณีให้รัฐบาลรับฟังความเห็นจากหน่วยงานต่างๆต่อโครงการเงินดิจิทัล รวมถึงผลการศึกษาของคณะกรรมการป.ป.ช.ด้วยหรือไม่ว่า ยังไม่เห็นผลการศึกษาของป.ป.ช. แต่ใครเสนออะไรมา ก็ควรฟังประกอบการพิจารณา จะได้รอบคอบ แค่นั้น รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจก็มีหน่วยงาน เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นหลัก เพื่อจะได้ตัดสินใจละเอียดรอบคอบมากขึ้น สำหรับผลการศึกษาของ ป.ป.ช. มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ควรรับฟัง เพราะป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ มีข้อสังเกตมาเพื่อประกอบการพิจารณาก็ควรประกอบการพิจารณาด้วย
สว.สมชายเปิดผลศึกษาปปช.เตือนรบ.
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภากล่าวถึงกรณีคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของป.ป.ช. มีข้อเสนอแนะต่อนโยบายเติมเงินฯ ของรัฐบาลเพื่อป้องกันทุจริตว่า ตนเห็นรายละเอียดดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นประเด็นที่คณะกรรมการดิจิทัลของรัฐบาลควรรับไปพิจารณาให้ละเอียดและรอบคอบ และต้องพิจารณาควบคู่กับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ตอบคำถามในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ สิ่งที่ป.ป.ช.มีข้อเสนอแนะเป็นประเด็นเพื่อป้องกันทุจริตต่อการทำนโยบายของรัฐบาล ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 32 มีรายละเอียดของข้อเสนอแนะที่สำคัญคือ สถานการณ์ประเทศยังไม่วิกฤต การทำนโยบายควรมุ่งเน้นกลุ่มเปราะบาง รวมถึงใช้แอพลิเคชั่นเป๋าตัง แทนใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน รวมถึงคำนึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ระวังซ้ำรอยทุจริตจำนำข้าว
“ในข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ที่มีจำนวน 177 หน้า พบมีข้อเสนอแนะอยู่ 58 หน้าที่เหลือเป็นภาคผนวก ที่ผมมองว่าเป็นส่วนสำคัญ หากรัฐบาลเดินหน้าโครงการจนเกิดความเสี่ยง หรือการกระทำที่ทำผิดกฎหมาย เอกสารในภาคผนวกนั้นสามารถใช้เป็นเอกสารพยานหลักฐานต่อศาลได้ ซึ่งการเตือนของ ป.ป.ช.นั้น คล้ายกับการวินิจฉัยในโครงการรับจำนำข้าว” นายสมชาย กล่าว และย้ำว่า ส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลควรเลิกโครงการดังกล่าว แต่หากจะมุ่งมั่นเพื่อใช้เงินของประเทศ ผ่านการกู้เงินทั้งการออก พระราชกำหนด หรือ พระราชบัญญัติ ควรพิจารณาปรับรายละเอียด เช่น พุ่งเป้าเฉพาะกลุ่มเปราะบาง 1.5 แสนล้านบาท ส่วน 3.5 แสนล้านบาท ให้นำมาใช้กับนโยบายอื่นของรัฐบาลที่เน้นการจ้างงาน เพิ่มทักษะการทำงานของประชาชน จ้างงานนักศึกษาจบใหม่ พัฒนาด้านระบบเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศหรือทักษะการประกอบอาชีพของประชาชน เป็นต้น
เลขาฯโต้ไม่ใช่ความเห็นปปช.
ขณะที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงเอกสารที่มีการเผยแพร่ว่าเป็นความเห็นของป.ป.ช.ที่เตือนครม.โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญว่า ไม่ใช่ความเห็นของ ป.ป.ช. และไม่ทราบว่ามาจากหน่วยงานใด หรือเป็นความเห็นของคณะทำงานที่รวบรวมความเห็นเพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่หรือไม่ แต่หากเป็นความเห็นของป.ป.ช.ต้องผ่านมติของกรรมการฯเท่านั้น ซึ่งตอนนี้คณะกรรมการยังไม่มีความเห็นใดๆเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ต้องรอคณะกรรมการแต่ละคนส่งความเห็นสรุปกลับมา ก่อนมีมติส่งความเห็นกลับมาให้รัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี