เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2567 นายเกียรติภูมิ สิริพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสมาร์ท กล่าวในรายการ “แนวหน้าTalk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ซึ่งมี นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เป็นพิธีกร ในประเด็นพลังงานทางเลือก “สมาร์ท ไฮบริด เพาเวอร์ (Smart Hybrid Power)” ว่า สมาร์ท ไฮบริด เพาเวอร์ เป็นพลังงานทางเลือกที่น่าจะเหมาะกับผู้ใช้ไฟฟ้าในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้อยู่อาศัยในครัวเรือน ผู้ประกอบการตั้งแต่เกษตรกรรากหญ้าไปจนถึงระดับใหญ่ เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้พลังงานทางเลือกกับเทคโนโลยีกักเก็บและดัดแปลงให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ฟรี 24 ชั่วโมง
.
ซึ่งโดยปกติแล้วการซื้อไฟฟ้าต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงไม่ว่าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติหรือถ่านหิน แต่พลังงานฟรีที่ตนจะอธิบายต่อไป คือพลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานไฮโดร ผสมผสานกับเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน โดยเก็บพลังงานในช่วงกลางวันแล้วนำมาใช้ในตอนกลางคืน อาทิ แผงรับพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ซึ่งเมื่อรับแสงอาทิตย์แล้วต้องนำมาเก็บในแบตเตอรี่ เราได้ออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละพื้นที่ ผสมผสานระหว่างแบตเตอรี่กับระบบไฮโดรซึ่งก็คือระบบสูบกลับ
.
กล่าวคือ พลังงานแสงอาทิตย์โดยทั่วไปใช้ได้ 4-5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งเป็นช่วงพีคของแสงแดด แต่เราจะใช้จุดนั้นมาสูบน้ำ ไม่ว่าน้ำบาดาลหรือน้ำผิวดินแล้วนำไปไว้ด้านบน จากนั้นตอนกลางคืนก็ปล่อยน้ำออกมาเพื่อปั่นมอเตอร์ โดยมอเตอร์นั้นกลางวันทำหน้าที่เป็นเครื่องสูบน้ำ แต่กลางคืนหากปล่อยน้ำให้ปั่นแบบกลับทิศก็จะกลายเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) โดยมีแบตเตอรี่เป็นตัวช่วย ซึ่งการเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับพื้นที่ก็จะได้ราคาที่ไม่แพง
.
“ใช้ได้หมด ได้ทุกสเกลไม่ว่าจะเป็นบ้านอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่ๆ ได้หมด เราดีไซน์ตั้งแต่ 1 กิโลวัตต์ 5 กิโลวัตต์ 10 กิโลวัตต์ 1,000 กิโลวัตต์ นี่คือ 1 เมกะวัตต์ แล้วเกิน 1,000 กิโลวัตต์ ก็คือเกิน 1 เมกะวัตต์ 5 เมกะวัตต์ 10 เมกะวัตต์ ได้หมด คอนเซ็ปต์เดียวกัน บ้านปกติใช้ 3-5 กิโลวัตต์ ถ้าบ้านหลังใหญ่ๆ หรือหอพักอาจจะ 10-20 กิโลวัตต์” นายเกียรติภูมิ กล่าว
.
นายเกียรติภูมิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์อย่างเหมาะสม เช่น หากอยู่ในเมืองไม่ต้องใช้น้ำเพราะสามารถใช้แบตเตอรี่และพลังงานแสงอาทิตย์ได้ แต่หากเป็นต่างจังหวัดสามารถใช้ผสมผสานกันทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ เพราะต่างจังหวัดมีแหล่งน้ำ โดยช่วงพีคของพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ที่ 10.00-14.00 น. หากอยู่ในพื้นที่เกาะที่มีกระแสลมแรงก็สามารถติดตั้งกังหันลมเพื่อใช้แทนพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ขณะที่แบตเตอรี่สามารถประยุกต์ใช้เวลาไหนก็ได้
.
ส่วนคำถามเรื่องราคา หากเทียบกับการวางระบบพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเดียว เฉลี่ยอยู่ที่เมกะวัตต์ละ 25-30 ล้านบาท หรือกิโลวัตต์ละ 25,000-30,000 บาท แต่เมื่อดูการใช้ไฟฟ้าที่ใช้ได้เพียง 4-5 ชั่วโมงต่อวัน เช่น ลงทุน 30 ล้าน ใช้ไฟฟ้าได้ 4 ชั่วโมง แต่ 1 วันมี 24 ชั่วโมง เอา 6 คูณเข้าไป ก็ต้องลงทุน 180 ล้านบาท ต่อ 1 เมกะวัตต์ เพื่อให้ใช้ไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง แต่ต้นทุนของ สมาร์ท ไฮบริด เพาเวอร์ จะไม่ถึง 100 ล้านบาท หรือ 1 กิโลวัตต์ ในราคาไม่ถึง 1 แสนบาท ในสเกลที่สามารถใช้ไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง ใช้เวลา 5 ปีก็สามารถคืนทุน
.
ซึ่งแผงโซลาร์เซลล์จะมีอายุการใช้งาน 25-30 ปี หากทำให้คืนทุนได้ในระบะเวลาไม่เกิน 10 ปีก็คือว่าคุ้มแล้ว ขณะที่ตนพยายามหาเทคโนโลยีที่คืนทุนได้ในเวลาไม่เกิน 5 ปี เพราะต้องการออกแบบให้คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจด้วย โดย สมาร์ท ไฮบริด เพาเวอร์ จดสิทธิบัตรเมือวันที่ 20 ก.ค. 2566 เลขรับ 2301004486 โดยตนตรวจสอบแล้วยังไม่มีใครมาจดสิทธิบัตรในเรื่องนี้ ตนยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้ใช้งานได้จริง จากผลการนำร่องไปแล้ว 2 โครงการ
.
และขั้นตอนการจดสิทธิบัตรก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอธิบายขั้นตอนในเชิงเทคนิคอย่างละเอียดกับคณะผู้กลั่นกรอง อย่างตนก็ต้องใช้ความรู้ด้านวิศวกรรมไฟฟ้ากับวิศวกรรมเครื่องกลที่เรียนมาในการตอบคำถาม โดยตนเป็นนักเรียนทุน ก.พ. ได้ไปเรียนที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) สหรัฐอเมริกา จึงสำนึกว่าทุนนี้มาจากเงินภาษีของประชาชน ทำให้อยากนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้
.
“ผมเรียน ป.ตรี 3 ใบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เรียนวิศวะไฟฟ้ากับวิศวะเครื่องกล แล้วอีกใบหนึ่งคือบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค 3 ปริญญา แล้วก็สอบชิงทุน ป.โท ที่ ก.พ. ก็จะให้ลิสต์รายชื่อมหาวิทยาลัย ผมก็เลือกที่ MIT ไปเรียนโท หลักสูตรเขา 2 ปี แต่ผมเร่งจบปีครึ่งเพื่อจะได้กลับมารับใช้ประเทศชาติให้เร็วขึ้น กลับมาต้องใช้ทุน 3 เท่า สปอนเซอร์ตอนนั้นมีหลายที่ จะมีแบงก์ชาติ แบงก์กรุงไทย กระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผมได้สปอนเซอร์คือธนาคารกรุงไทย ก็เลยกลับไปที่กรุงไทย” นายเกียรติภูมิ ระบุ
.
นายเกียรติภูมิ ยังกล่าวอีกว่า การทำงานที่ธนาคารกรุงไทย ทำให้ตนได้ความรู้เรื่องการเงินเพิ่มเติม เมื่อทำงานอยู่ 4 ปีจนใช้ทุนครบ ยังมีโอกาสได้ไปทำงานกับสถาบันการเงินหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ เช่น โกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ (The Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงการเงินรวม 15 ปี ก่อนออกมาทำโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก สั่งสมประสบการณ์ด้านนี้อีกประมาณ 20 ปี
.
โดยมีตัวอย่าง เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ จ.กระบี่ เป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งแรกที่สามารถขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าได้ หรือโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.บุรีรัมย์ , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ จ.นครราชสีมา จ.ลพบุรี จ.เพชรบุรี , โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ทั้งนี้ ต้องอธิบายด้วยว่า คำว่าพลังงานฟรีในความหมายของตนนั้นหมายถึงไม่ต้องเสียเชื้อเพลิง แต่ในตอนต้นก็ต้องมีเงินลงทุนด้วย อย่างใน 2 โครงการนำร่อง ตนได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่งของรัฐ ซึ่งใช้จริงเพียงร้อยละ 30 ยังเหลือทุนอีกร้อยละ 70 ให้ส่งคืนได้อีก
ชมคลิปเต็มได้ที่
https://www.youtube.com/watch?v=hOXJak2ew6Y
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี