"มท."เชิญ"ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ตร." คุยวางแนวทางป้องโกงสอบขรก.ท้องถิ่น 6,000 ตำแหน่ง เตรียมผนึกทำ MOU 26 ม.ค.นี้ มอบ"รองปลัดฯ"หัวหน้าชุดสอบ หลังมีข่าวเรียกรับสินบน 7 แสนบาท "อนุทิน"ลั่นใครทำผิดไม่เอาไว้ ขณะที่"อธิบดี สถ."แจงเหตุเลือก"ม.บูรพา"แทน"ม.ราชมงคลธัญบุรี" เหตุมีประสบการณ์มากกว่า
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมหารือกำหนดแนวทางในการป้องกัน ต่อต้าน และปราบปรามการทุจริตเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ปี 2567 โดยมี นางวาธินี สุริยวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายพุฒิพงษ์ เลิศสถิตย์ ที่ปรึกษาภารกิจด้านกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ท. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บก.ป.ป.ป.) นางชลิตา โชติยกุล ประธานคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผล คณะกรรมการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ร่วมหารือ
โอกาสนี้ นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายพรพจน์ เพ็ญภาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม
ต่อมาภายหลังการประชุมหารือกำหนดแนวทางป้องกันต่อต้านและปราบปรามการทุจริตการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นปี 2567 นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีว่าจ้างมหาวิทยาลัยบูรพาเป็นผู้จัดสอบข้าราชการหรือพนักงานท้องถิ่นปี 2567 ว่า เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐ และเข้ามาตามขั้นตอนคัดเลือกเพื่อมาจัดสอบผู้ที่ต้องการเป็นข้าราชการท้องถิ่นมากถึง 500,000 คน ไม่มีทางที่กระทรวงมหาดไทยจะจัดสอบเองได้ และไม่มีสถานที่ในการจัดสอบที่จะทำให้เอื้อต่อการทุจริตใดๆและสามารถควบคุมกำกับดูแลได้ แต่การที่ให้มหาวิทยาลัยมาจัดสอบเพราะมีความเชี่ยวชาญและสามารถจัดสอบได้ตลอดเวลา
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยบูรพามีการร้องเรียนเรื่องการจัดสอบที่ไม่โปร่งใส ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ทราบตรงนั้น เพราะเรื่องนี้เป็นการทำงานร่วมระหว่างรัฐกับรัฐ ถ้าทุจริตใครจะได้ประโยชน์ สื่ออย่าเพิ่งไปตั้งคำถามที่จะเกิดเรื่องทุจริตได้ ฟังแล้วไม่สมเหตุสมผล
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมีการเรียกเก็บเงิน 700,000 บาท เพื่อสอบเข้าเป็นข้าราชการท้องถิ่น นายอนุทิน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานตรวจสอบเรื่องนี้ โดยตรวจสอบว่าการเรียก 700,000 บาท เพื่อมาเป็นข้าราชการเป็นจริงหรือไม่ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ข้าราชการจำนวน 6,000 คน จ่ายคนละ 700,000 บาท ก็จะเป็นเงิน 4,200 ล้านบาท หากผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยไม่รู้เรื่องเลย เราก็คงเป็นกระทรวงไม่ได้แล้ว
"ทั้งนี้ ขอยืนยันคนในกระทรวงมหาดไทยทุกระดับคงไม่มีใครเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วกับเรื่องเหล่านี้แน่นอน แต่ในเมื่อมีมูลและมีควันเราก็ต้องไปตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ หรืออาจเป็นการแอบอ้างแบบคอลเซ็นเตอร์ มีตัวการที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแต่ไปแอบอ้าง เช่น ความสัมพันธ์อะไรต่างๆ และหลอกลวงกันไป" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมวันนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตร่วมประชุม ประกอบด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือ หรือ ป.ป.ท. , กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ป.ป.ป.และถ้าเจอคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตต้องขึ้นบัญชีดำให้หมด และดำเนินคดีอย่างเข้มงวด หากมีการพบของกลางที่จ่ายเป็นเงินต้องยึดเป็นของแผ่นดินให้หมด ทั้งนี้ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ จะมีการลงนาม MOU กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ กระทรวงมหาดไทยไม่มีแนวทางหรือความคิดให้เกิดการทุจริตในการสอบข้าราชการท้องถิ่น
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยราชมงคล เทคโนโลยีธัญบุรี ชนะการประกวดราคาในการจัดการสอบ แต่ทำไมเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยบูรพา นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องสอบถามอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเป็นเรื่องของรายละเอียด แต่ตนรับทราบมีกระแสข่าวเรื่องจ่ายเงิน 700,000 บาท ตนก็เต้นเป็นเจ้าเข้า โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อแก้ปัญหา เพื่อแสดงให้เห็นเราต้องต่อต้านการกระทำ ทุจริตเช่นนี้
ด้าน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ชี้แจงสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนมหาวิทยาลัย ในดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็น มหาวิทยาลัยบูรพา ว่า เป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ที่มีการประมูลกันแล้ว และจากนั้นก็มีการยื่นอุทธรณ์ไปที่กรมบัญชีกลาง ซึ่งกรมบัญชีกลางก็ให้มาดูในเรื่องของการชั่งน้ำหนักของคู่สัญญา โดยมหาวิทยาลัยบูรพามีน้ำหนัก และประสบการณ์ในการดำเนินการจัดสอบแข่งขันมากกว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จึงทำให้กลับมาเป็นมหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ชนะการประกวด
เมื่อถามว่า ได้คำนึงถึงประวัติในอดีต หลังมหาวิทยาลัยบูรพาเคยมีเรื่องร้องเรียนเรื่องทุจริตหรือไม่ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกล่าวว่า ในเรื่องนี้ คณะกรรมการได้ดูอยู่ ซึ่งคณะกรรมการก็จะพิจารณา และเสนอขึ้นมา ซึ่งในน้ำหนักจะมีอยู่ประมาณ 4 - 5 ส่วน โดยมีงบประมาณที่ลงไว้อยู่ที่ประมาณ 85 ล้านบาท มีผู้สมัครสอบประมาณ 5 แสนคน และมีตำแหน่งว่างอยู่ที่ 6,100 เศษๆ อัตรา
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี