เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า 4 คำถามคาใจป๋าเหนาะ!!!

เมื่อวานไปกินข้าวเที่ยง กับ คุณประยุทธ์ มหากิจศิริ ประธานกลุ่ม P 80 ท่านเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย และเลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ท่านประมวล รุจิเสรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพี่หมง พลเอกมงคล อัมพรพิสิฐ ลูกรักป๋าเปรมอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ภัตตาคารปิงหูฉลาม โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ปทุมวัน

ทุกท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมาช้านานแล้ว สำหรับป๋าเหนาะไม่ได้พบกันตั้งแต่ช่วงไวรัสระบาดจนวันนี้ร่วม 3 ปี ทันทีที่พบหน้ากันป๋าก็ยิ้มแย้มแจ่มใส จับมือกอดด้วยความเมตตาเหมือนที่ผ่านมา แล้วตั้งคำถามว่า

~ รัฐบาลจะอยู่นานไหม? ก็ตอบว่า อยู่ยาวครับป๋า

~ จะมีการยึดอำนาจไหม? ก็ตอบว่า ไม่น่าจะมี เพราะบนกระดานหมากรุกการเมืองวันนี้คุณทักษิณเดินหมากอยู่คนเดียว ไม่มีคู่ต่อสู้

~ เศรษฐาจะเป็นนายกนานไหม? ก็ตอบว่าพอๆกับโก๊ะจ๊กตงของสิงคโปร์ ที่มาช่วยขัดตาทัพในช่วงที่ลีเซียนลุง ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของลีกวนยูยังไม่พร้อม

~อุ๊งอิ๊งจะเป็นนายกเมื่อใด ก็ตอบว่า เมื่อโก๊ะจ๊กฐา ถางขวากหนามทางสะดวกดีแล้ว จนมั่นใจว่าคุณอุ๊งอิ๊งเดินถนนการเมืองได้สบายใจเฉิบ ซึ่งไม่น่าจะน้อยกว่า 2 ปี

แล้วบอกว่า คุณทักษิณในวันนี้น่ารักกว่าเก่ามาก การที่ตั้งลูกชายป๋าเป็นเลขาธิการพรรคคู่กับคุณอุ้งอิ้งหัวหน้าพรรคนั้น คงเนื่องจากนึกถึงเหตุการณ์วันที่ 1 เมษายน 44 ที่ป๋ายกมือทักษิณขึ้นชูในงานวันเกิดและประกาศต่อประชาชนมางานกว่าหมื่นคนว่า "นี่คือนายกคนต่อไป" หลังจากนั้นกระแสการเมืองก็ไหลเข้าพรรคไทยรักไทย และคุณทักษินก็ก้าวขึ้นเป็นนายก

แต่คุณทักษิณพลาดตรงที่ปลดๆ ป๋าและพี่จิ๋วพร้อมกัน จึงเปิดโอกาสให้แก่การยึดอำนาจ คุณทักษิณคงรำลึกถึงเรื่องนี้ จึงย้อนอดีต ให้กับคนรุ่นใหม่

ป๋าเหนาะได้บอกว่าให้เป็นธุระหน้าที่ของลื้ออบรมสอนลูกชายอั๊วะด้วย

ก็บอกป๊าว่าคนรุ่นใหม่เขาเก่งไม่ต้องแนะนำสั่งสอนอะไร แต่ขอแนะคาถาไว้บทหนึ่งให้ท่องไว้ให้ขึ้นใจ คือ "รักภักดี" นั่นคือ +เบื้องบนจงรักภักดีต่อฟ้า +เบื้องล่างรักอานาประชาราษฎร ทำนุบำรุงให้ร่มเย็นเป็นสุข ก็จะเป็นมหามงคลคุ้มตัวให้อยู่ในวงการเมืองยั่งยืนยาวนานและประสบความสำเร็จ

- 006