รัฐบาลสั่งปิดเส้นทางเสี่ยงชายแดนไทย–กัมพูชา แนะ ปชช. เลี่ยงการเดินทางพื้นที่ปะทะ

รัฐบาลสั่งปิดเส้นทางเสี่ยงชายแดนไทย–กัมพูชา แนะ ปชช. เลี่ยงการเดินทางพื้นที่ปะทะ

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.52 น.

รัฐบาลติดตามเหตุปะทะชายแดนไทย–เขมรอย่างใกล้ชิด สั่งปิดเส้นทางเสี่ยงชายแดนไทย–กัมพูชา แนะ ปชช. เลี่ยงการเดินทางพื้นที่ปะทะ ย้ำความปลอดภัยของ ปชช. สำคัญสุด

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2568 น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาล ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือ เดินหน้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยย้ำให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชน การอพยพกลุ่มเปราะบาง และการอำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมในพื้นที่ศูนย์พักพิง


น.ส.อัยรินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายจังหวัดชายแดนรัฐบาล มอบหมายกระทรวงคมนาคมเร่งสนับสนุนภารกิจของจังหวัดและฝ่ายความมั่นคงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและตรงจุด ดังนี้

จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดเหตุปะทะในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด บริเวณช่องสายตะกู ส่งผลให้มีการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อำเภอบ้านกรวดและอำเภอละหานทราย พร้อมงดใช้เส้นทางทางหลวงหมายเลข 224 (บ้านกรวด–ละหานทราย–พนมดงรัก) เพื่อความปลอดภัย สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สนับสนุนรถจำนวน 10 คัน สำหรับอพยพประชาชนกลุ่มเปราะบางไปยังสถานพยาบาลและศูนย์พักพิง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในศูนย์พักพิงชั่วคราว และงดการเดินรถในพื้นที่เสี่ยงตามข้อสั่งการของจังหวัด

จังหวัดสุรินทร์ ยังคงมีสถานการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ชายแดน ส่งผลให้มีผู้อพยพเข้าศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 80,000 คน ใน 145 แห่ง โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์ได้จัดเจ้าหน้าที่และยานพาหนะลงพื้นที่ดูแลศูนย์พักพิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนภารกิจของจังหวัดและกรมการขนส่งทางบก โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการดูแลความปลอดภัยและสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

จังหวัดตราด กรมทางหลวงรายงานเหตุลูกกระสุนตกบนทางหลวงหมายเลข 3 ตอนแม่น้ำตราด–หาดเล็ก ส่งผลให้ต้องปิดเส้นทางบางช่วงเป็นการชั่วคราว หน่วยงานด้านความมั่นคงได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่ตัวเมืองตราด เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน แขวงทางหลวงตราดได้ดำเนินการอพยพหมวดทางหลวงในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ หมวดทางหลวงแหลมกลัด ช้างทูน และด่านชุมพล มาปฏิบัติงานในพื้นที่ปลอดภัย ตามแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินของหน่วยงาน

รัฐบาลกำชับให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานความคืบหน้าแบบต่อเนื่อง ในส่วนของคมนาคม ได้ปรับแผนการเดินรถและการใช้เส้นทางให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง พร้อมสนับสนุนการอพยพประชาชนและการดำเนินงานของศูนย์พักพิงในทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัด ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่  รัฐบาลพร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top