"พิธา"โชว์วิชั่นครั้งแรก! บริหารจัดการขยะอปท. แนะ 5 ข้อเสนอ แก้ต้น-กลาง-ปลายทางอย่างจริงจัง
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องการบริการจัดการขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า ตนกลับมาแล้วครับท่านประธาน อาจจะเป็นเวลานานถึง 6 เดือนที่ตนไม่ได้มีโอกาสอภิปราย ปัญหาของพี่น้องประชาชนในสภาแห่งนี้ จนกระทั่งบัตรเสียบก็ยังไม่ได้ทำ แต่โชคดีที่ยังมีบัตรสำรอง ให้มีโอกาสได้มาพูดถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ตนได้ลงไปในช่วงที่ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
นายพิธา กล่าวว่า ญัตติการบริหารจัดการขยะชุมชนขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และพื้นที่เมืองท่องเที่ยว ซึ่ง 2 สถานที่ที่ตนได้มีโอกาสลงไปในพื้นที่ คือบ่อขยะ ต.แพรกษาใหม่ จ.สมุทรปราการ และบ่อขยะเทศบาลนคร จ.ภูเก็ต ทั้ง 2 ที่มีความแตกต่างกัน จ.สมุทรปราการ เป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ จ.ภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว
นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนขอสรุปผลกระทบและงบประมาณการจัดการขยะของ จ.สมุทรปราการ โดยมีกองขยะสูงถึง 5 - 10 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบที่เกิดขึ้น มีขยะรายวัน 2,830 ตัน/วัน สามารถจัดการขยะได้อย่างถูกต้องตามสุขลักษณะ 300 ตัน/วัน แต่มีขยะที่ถูกจัดการไม่ถูกต้อง 2,530 ตัน/วัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพต่อพี่น้องสมุทรปราการ เพราะข้างๆ บ่อขยะเป็นโรงเรียนเด็กเล็ก และเสี่ยงที่จะเกิดอัคคีภัย แต่จีดีพีมีจำนวน 660,865 ล้านบาท งบประมาณที่อปท.ได้ 49 แห่ง อยู่ที่ 1,654 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 0.25% ของจีดีพี
นายพิธา กล่าวต่อว่า ขณะที่ จ.ภูเก็ต มีกองขยะที่อยู่ข้างทะเล เป็นขยะติดเชื้อหรือขยะอันตราย หากสักวันมันลงไปในทะเล แล้วฝรั่งก็จะเรียกภูเก็ตว่าเป็น garbage paradise สรวงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยขยะโดยสถานการณ์ปริมาณขยะ 861 ตัน/วัน ความสามารถในการเผาขยะอยู่ที่ 700 ตัน/วัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวชัดเจน จีดีพีจำนวน 202,555 ล้านบาท งบประมาณของ อปท. 10 กว่าแห่ง รวม 633 ล้านบาท คิดเป็น 0.31% นี่คือภาพจุลภาคในท้องถิ่น ที่ทำให้ตนกลับมา และสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษว่าถ้าเป็นในระดับชาติและมีการตั้งกรรมการวิสามัญเกิดขึ้น ควรที่จะจับประเด็นในระดับประเทศอย่างไร
นายพิธา กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภาพรวมของขยะในประเทศไทย น่าเป็นห่วงทุกระดับ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่สามารถลดขยะตั้งแต่ต้นทางที่มีถึง 63 ล้านตัน ได้ ก็ไม่สามารถดำเนินการในระยะกลางทางและปลายทางได้เลย ซ้ำยังเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทั้งนี้ ตนขอสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมาพิจารณาในเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยขอเสนอ 5 ข้อเสนอ แบ่งเป็น ในระดับต้นทาง 1.ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะที่ทำหน้าที่รับผิดชอบ 2.ออกพระราชบัญญัติการบริหารจัดการขยะและการหมุนเวียนทรัพยากร ครอบคลุมการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต ส่วนระดับกลางทาง 3.โอนอำนาจให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นมีอำนาจในการจัดการขยะตามความต้องการเช่น ซื้อรถเก็บขยะ ขณะที่ระดับปลายทาง 4.เพิ่มเติมงบสำหรับการดำเนินการบริหารจัดการขยะ และ 5.ออกมาตรการด้านกองทุนฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนและสำหรับผู้รับบำบัดกำจัดขยะ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี