"วัชระ"จิกไม่ปล่อย!! บุกจี้ปปง.ตรวจเส้นเงิน"เรืองไกร"ปมร่ำรวยผิดปกติ อ้างยังแคลงใจเบนซ์หรู-ที่มาเช็คเงินสด 25 ล้านของใคร หลังยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ผ่านมา 1 ปี 7 เดือนแล้ว
8 ก.พ.67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) ปทุมวัน กทม. นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 โดยตั้งข้อสังเกตว่าการได้เช็คเงินสด 25 ล้านบาท และรถเบนซ์ 2 คันของนายเรืองไกรนั้น ได้มาโดยทุจริตในขณะดำรงตำแหน่งคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมี น.ส.สุปราณี สถิตชัยเจริญ ผอ.กองความร่วมมือและพัฒนามาตรฐาน และในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ปปง. เป็นตัวแทนรับเรื่อง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เรืองไกร’เฉลยใครคือ‘ผู้ใหญ่ใจดี’ที่ซื้อ‘รถเบนซ์‘ให้ ลั่นเรื่องเก่าไม่อยากให้ราคา)
นายวัชระ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นหนังสือถึงประธาน ปปง. และเลขาธิการ ปปง.รวม 2 ฉบับ เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำธุรกรรมการเงินของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมัยดำรงตำแหน่งโฆษกกรรมาธิการฯ จากกรณีที่เจ้าตัวเคยโพสต์ข้อความและรูปภาพลงในบัญชีเฟสบุ๊คส่วนตัวก่อนลบออกไป ว่า ได้รับรถเบนซ์ 2 คัน เป็นสีดำ 1 คัน และสีขาว 1 คัน โดยอ้างว่าผู้ใหญ่ใจดีให้มา ซึ่งในวันที่โพสต์ภาพรถเบนซ์ดังกล่าวเป็นวันที่มีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านมานาน 1 ปี 7 เดือนแล้ว ทราบเพียงว่านายเรืองไกร จดทะเบียนครอบครองรถเบนซ์สีดำ 1 คัน ส่วนสีขาวไม่ระบุว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ตนจึงขอให้ทาง ปปง. ช่วยสืบสวนเรื่องนี้ ว่าการได้รับเบนซ์ทั้ง 2 คัน ได้รับมาอย่างถูกต้อง เสียภาษีต้องถูกต้องหรือไม่ รวมถึงในกรณีแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาทที่มีการสั่งจ่ายให้นายเรืองไกรเมื่อวันที่ 22 ก.พ.64 ซึ่งนายเรืองไกร ก็ได้โพสต์ลงเฟสบุ๊คเช่นเดียวกัน จึงเป็นที่น่าสงสัยว่านายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คดังกล่าวเป็นค่าอะไร ให้ในโอกาสใดและได้รับจากผู้ใด
อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่านายวีระ สมความคิด เคยมีการร้องขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แต่ผ่านไปนาน 2 ปี คดีไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น ในฐานะที่ขณะนั้นนายเรืองไกรพิจารณางบประมาณปีละ 3 ล้านล้านบาท ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีการรับเงินหรือรับสิ่งของมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท จึงควรต้องมีความโปร่งใส และขอให้มีการสอบจริยธรรม เพราะการรับไว้เช่นนั้นก็เป็นการผิดจริยธรรมแล้ว และอาจเสี่ยงมีความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ หากเงินนั้นได้มาจากการทุจริตมิชอบ ทั้งนี้ สาเหตุที่ตนต้องมาร้องที่สำนักงาน ปปง. ก็เพราะเห็นว่าสำนักงาน ป.ป.ช. มีการประวิงเวลา ตนจึงคาดหวังว่า ปปง. จะไม่ดำเนินการล่าช้า จะได้รู้ว่ามีข้าราชการฝ่ายการเมืองรายใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
ด้าน น.ส.สุปราณี รองโฆษก ปปง. กล่าวว่า ภายหลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้วว่า จะนำเข้าสู่ขั้นตอนเสนอเรื่องต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อรับไว้ตรวจสอบในข้อเท็จจริงและจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี