วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ทุบเปรี้ยง!นักเศรษฐศาสตร์ย้ำ‘เงินดิจิทัล’ไม่คุ้มค่า ศก.ไม่ถดถอย อย่าลืมบทเรียน‘จำนำข้าว’

ทุบเปรี้ยง!นักเศรษฐศาสตร์ย้ำ‘เงินดิจิทัล’ไม่คุ้มค่า ศก.ไม่ถดถอย อย่าลืมบทเรียน‘จำนำข้าว’

วันพุธ ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 10.37 น.
Tag : กู้มาแจก เงินดิจิทัล จำนำข้าว ดิจิทัลวอลเล็ต เศรษฐา
  •  

ทุบเปรี้ยง!นักเศรษฐศาสตร์ย้ำ‘เงินดิจิทัล’ไม่คุ้มค่า ศก.ไม่ถดถอย อย่าลืมบทเรียน‘จำนำข้าว’

14 กุมภาพันธ์ 2567 ผศ.ดร.ทีปกร จิร์ฐิติกุลชัย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขียนบทความ “เศรษฐศาสตร์เรื่องการแจกเงินดิจิทัล” เผยแพร่ เนื้อหาดังนี้


ขอออกตัวก่อนว่าผู้เขียนมีส่วนได้เสียกับเรื่องนี้โดยตรงในฐานะที่ลงชื่อร่วมกับนักเศรษฐศาสตร์คัดค้านนโยบายที่ไม่สมเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ จนได้รับการดูแคลนด้วยวาทกรรม `นักโบราณคดีทางเศรษฐมิติ’ ในขณะที่อีกแง่มุมหนึ่ง ผู้เขียนก็มีส่วนร่วมจ่ายภาษีเช่นคนไทยทุกคนผ่านการบริโภคและรายได้ จึงต้องช่วยกันรับผิดชอบจ่ายคืนชดใช้หนี้เงินกู้ที่ความจริงแล้วสามารถมีทางเลือกอื่นที่คุ้มค่าและเป็นประโยชน์ได้มากกว่าประชานิยมระยะสั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะอาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์และเศรษฐมิติ ผู้เขียนก็ควรจะมีความกล้าหาญในการนำเสนอความรู้และข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการ

เหตุผลหลักในแถลงการณ์คัดค้านก็คือ เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นการบริโภค ควรเน้นการลงทุนสร้างศักยภาพระยะยาว โดยเงินงบประมาณมีจำกัด ควรใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เพื่อเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และ สร้าง Digital Infrastructure ยิ่งไปกว่านั้น เงิน 560,000 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจได้น้อย ไม่คุ้มค่า เพราะ `ตัวทวีคูณทางการคลัง’ (fiscal multiplier) ต่ำ อีกทั้งเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น จะเพิ่มภาระหนี้สาธารณะ และ ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นในอนาคต รวมทั้งเราควรจะมี `พื้นที่ว่างทางการคลัง’ (fiscal space) เพื่อรองรับวิกฤติในอนาคต เตรียมรับสังคมสูงวัย เป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า และ รักษาวินัยการคลัง ตลอดจนระบบ Blockchain ช้า ไม่เหมาะกับระบบซื้อขายทั่วไป

รายงาน Thailand Economic Monitor December 2023 ของธนาคารโลกได้วิเคราะห์ว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล คิดเป็นงบประมาณ 2.7% ของ GDP จะช่วยเศรษฐกิจขยายตัว 0.5-1.0% ของ GDP ในช่วงระยะเวลา 2 ปี และ อาจทำให้ขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้น 4-5% ของ GDP ใกล้ระดับเฉลี่ยช่วงวิกฤตโควิดในปี 2563-2565 ในขณะที่หนี้สาธารณะอาจสูงขึ้นเป็น 65-66% ของ GDP จาก 62% ณ สิ้นไตรมาสสามของปี 2566 ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 21% ดังนั้น จึงขอเรียนเชิญท่านผู้อ่านสรุปความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณขนาด 2.7% ของ GDP เพื่อเพิ่มเศรษฐกิจขนาด 0.5-1.0% ของ GDP

อีกรายงานของธนาคารโลก (Policy Research Working Paper 9796) สำรวจและสรุปบรรดางานวิจัยที่ใช้เทคนิคเศรษฐมิติขั้นสูงทางเศรษฐศาสตร์มหภาคในประเด็นเกี่ยวกับประสิทธิผลของ `ตัวทวีคูณทางการคลัง’ (fiscal multiplier) ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผู้เขียนได้ใช้ประกอบการบรรยายหัวข้อการลงทุนสาธารณะของวิชาเศรษฐศาสตร์สาธารณะเบื้องต้นให้นักศึกษาปริญญาตรี โดยสรุปของรายงานนี้ คือ หากพิจารณาประเภทของตัวทวีคูณ คือ ก.การใช้จ่ายภาครัฐ ข.การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ค.การลดภาษี และ ง.การโอนเงิน (เช่น กรณีแจกเงินดิจิทัล) พบว่า ตัวทวีคูณจากการลงทุนมีค่าสูงสุด

ยิ่งไปกว่านั้น ผลของตัวทวีคูณในการกระตุ้นเศรษฐกิจในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย จะมีสูงกว่าในสภาพเศรษฐกิจเติบโตปานกลางหรือขยายตัวดี โดยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้อต่อประสิทธิผลทางการกระตุ้นเศรษฐกิจได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ระบบเศรษฐกิจแบบไม่ค้าขายกับใคร หนี้สาธารณะต่ำ สภาวะเศรษฐกิจถดถอย และ อัตราดอกเบี้ยต่ำมากหรือติดลบ ซึ่งล้วนไม่ใช่สถานะของเราในขณะนี้ โดยผลของตัวทวีคูณสามารถติดลบได้ หมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่การกระตุ้นทางการคลังอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจ

เมื่อพิจารณาด้วยข้อมูลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนที่เราใช้คำนวณความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และลักษณะของครัวเรือนและประชากรไทย โดยผู้เขียนได้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ปี 2002-2021 เพื่อศึกษา `สัดส่วนการใช้จ่ายบริโภคจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น' (marginal propensity to consume: MPC) ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดขนาดของ `ตัวทวีคูณทางการคลัง’ พบว่า MPC มีขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 0.1-0.2 แต่ถ้าใช้เฉพาะข้อมูลปี 2021 (ซึ่งเป็นปีล่าสุดของประเทศที่มีข้อมูลตัวแปรรายได้และเป็นตัวอย่างให้นักศึกษาวิชาเศรษฐมิติเบื้องต้นได้ฝึกใช้วิเคราะห์ทางเศรษฐมิติ) จะพบว่า MPC มีขนาดเพียงแค่ 0.2-0.3

หมายความว่า ผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังมีขนาดลดลงในปัจจุบัน และ MPC ไม่น่าจะสูงขนาด 60.8 หากประเมินด้วยผลคูณต่อเศรษฐกิจ มูลค่า 100,000 ล้านบาท ตามที่โฆษณา (ดูบทความ ข้อคิดต่อตัวคูณทวีทางการคลังและภาษีที่ได้จาก ‘นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล’ โดยท่านอาจารย์ ดร.วิมุต วานิชเจริญธรรม) อนึ่ง หากเรียงครัวเรือนไทยตั้งแต่จนสุดไปจนถึงรวยสุด พบว่า กลุ่มที่ MPC ต่ำสุด คือ กลุ่มครัวเรือนจนสุด มีค่า MPC ไม่ถึง 0.1 หมายความว่า หากมีรายได้เพิ่มขึ้น 100 บาท จะไม่ได้บริโภคมากขึ้น 100 บาท แต่จะนำเงินรายได้ส่วนเพิ่มไปออมแทนที่จะบริโภคทั้งหมด หากอธิบายแบบบริบทไทยปัจจุบัน คือ เอาไปจ่ายหนี้ คือ ชดเชยการออมที่ติดลบนั่นเอง ทั้งนี้ การที่ MPC มีขนาดลดลงจากอดีต

ในทางเศรษฐศาสตร์การเมืองก็น่าสนใจ เพราะไม่สมเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ อีกทั้งมีทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า ทำให้คนไทยที่ยังไม่ลืมเรื่อง “จำนำข้าว” ก็น่าจะค้นคว้างานวิจัยเรื่อง "การทุจริตกรณีการศึกษา : โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด" จาก TDRI โดยท่านอาจารย์ ดร.อัมมาร สยามวาลา และคณะ สามารถแสดงให้เห็นขนาดของความเสียหายจากการคอร์รัปชันในกระบวนการระบายข้าวรวมทั้งหมดราว 1 แสนล้านบาท

แม้จะมีผลประโยชน์สุทธิไปอยู่ที่ชาวนาราว 5.6 แสนล้านบาท แต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ของโครงการไปตกอยู่กับชาวนาขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมทั้งสร้างความเสียหายอื่น ๆ ทั้งที่วัดได้และวัดไม่ได้ โดยผลตอบแทนส่วนเกิน หรือ `ค่าเช่าทางเศรษฐกิจ’ (economic rent) มีมูลค่า 5.85 แสนล้านบาท จึงระบุไว้ในบทคัดย่อของรายงานวิจัยว่า “เป็นการถลุงทรัพยากรแท้จริงของประเทศ และส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ”

ในที่สุดแล้ว หากรัฐบาลจะไม่ฟังนักเศรษฐศาสตร์ว่า เป็นนโยบายประชานิยมระยะสั้นที่ไม่คุ้มค่า เหมือนสมัยนโยบายจำนำข้าวไม่ยอมฟังคำเตือนของท่าน ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ก็คงอยากจะวอนขอร้องให้รัฐบาล ช่วยแจกเงินแบบมีเงื่อนไข คือconditional cash transfer เช่น คนที่จะได้เงิน หรือ ร้านค้าที่จะรับเงิน จะต้องเข้ามาอยู่ในระบบฐานข้อมูลและรายงานรายได้ โดยกำหนดห้ามไม่ให้ร้านค้ารับเฉพาะเงินสด เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น conditional cash transfer สามารถที่จะมุ่งเป้าหมายไปที่ความท้าทายแห่งยุคสมัยของประเทศ ทั้งสังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ การแทนที่แรงงานด้วยหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ ในขณะที่ในด้านทางเลือกอื่นสำหรับแหล่งที่มาของวงเงินงบประมาณ แทนที่จะกู้เต็มจำนวน หากจะใช้วิธีปฏิรูปภาษีให้ลดความเหลื่อมล้ำ และ ปฏิรูปประมาณให้การใช้จ่ายงบมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์ตรงต่อประชาชน ก็คงจะช่วยลดเสียงต่อต้านลงได้

-005

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘นายกฯ’ยังไม่ได้หนังสือป.ป.ช. เรียกแจงรับคดีโยกงบ ‘นายกฯ’ยังไม่ได้หนังสือป.ป.ช. เรียกแจงรับคดีโยกงบ
  • ‘ศิริกัญญา’ชี้โยกงบฯ 68 ไม่เข้าข่ายมาตรา 144 แต่หากฟันว่าผิด อาจเป็นนิติสงคราม ‘ศิริกัญญา’ชี้โยกงบฯ 68 ไม่เข้าข่ายมาตรา 144 แต่หากฟันว่าผิด อาจเป็นนิติสงคราม
  • \'พิชัย\'ยืนยัน!จัดทำงบปี 68 \'แจกเงินหมื่น\'ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย 'พิชัย'ยืนยัน!จัดทำงบปี 68 'แจกเงินหมื่น'ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย
  • ‘อิ๊งค์’ย้ำเลื่อน‘เงินหมื่นเฟส 3’เหตุหลายฝ่ายท้วงติง ฟุ้งเป็นรัฐบาลที่ลงทุนภาครัฐมากสุด ‘อิ๊งค์’ย้ำเลื่อน‘เงินหมื่นเฟส 3’เหตุหลายฝ่ายท้วงติง ฟุ้งเป็นรัฐบาลที่ลงทุนภาครัฐมากสุด
  • \'พิชิต\'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว\'อาปู\'ก็ไม่ตอบ 'พิชิต'ซัด นายกฯ เป็นใบ้ ปรับ ครม. ก็ไม่รู้เรื่องชายแดน-จำนำข้าว'อาปู'ก็ไม่ตอบ
  • ‘ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม’ ศาลปกครองสูงสุดสั่ง‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้หมื่นล้านคดีจำนำข้าว ‘ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม’ ศาลปกครองสูงสุดสั่ง‘ยิ่งลักษณ์’ ชดใช้หมื่นล้านคดีจำนำข้าว
  •  

Breaking News

(คลิป) DNA'ลุงตู่'หายไปไหน? 'รทสช.'หนุน'อุ๊งอิ๊งค์'นั่งนายกฯต่อ!!

Real Friends วงอีโม/ป็อปพังก์ เตรียมแสดงสด กรุงเทพฯ ครั้งแรก 12 ส.ค. นี้!

นิตยสาร Mint ฉลองครบรอบ 5 ปี ชวน‘กลัฟ-ขุนพล-เอเอ’ เปิดงานนิทรรศการ

ดุดัน! ไม่เกรงใจใคร Bedroom Audio โพสรูปเรียกน้ำย่อย สปอยเพลงใหม่ 'พอแล้ว'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved