วันเสาร์ ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
เต็มๆ!! 'อ.หริรักษ์'เปิดข้อเท็จจริง ไขคำตอบว่าเศรษฐกิจไทยโตช้ากว่าที่คาดเพราะอะไร?

เต็มๆ!! 'อ.หริรักษ์'เปิดข้อเท็จจริง ไขคำตอบว่าเศรษฐกิจไทยโตช้ากว่าที่คาดเพราะอะไร?

วันพฤหัสบดี ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 21.40 น.
Tag : รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร เศรษฐกิจ เศรษฐกิจ digital wallet
  •  

22 ก.พ.67 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr โดยระบุว่า สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงผลการคำนวณตัวเลขทางเศรษฐกิจล่าสุดว่า ในไตรมาส 4 ปี 2566 เศรษฐกิจโตเพียง 1.7% และคาดว่าปี 2567 จะโตระหว่าง 2.2%-3.3% ลดลงจากที่คาดไว้เดิมคือ 2.7%-3.7%

หลังจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของเลขาธิการสภาพัฒฯ นายกรัฐมนตรีก็โพสต์ข้อความในเพจตัวเองทันทีว่า


“น่าจะพูดก่อนการประชุมอาทิตย์ที่แล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าวัตถุประสงค์ของพูดตอนนี้เพื่ออะไร หรือบอกว่าผมทำหน้าที่ของผมแล้วซึ่งความจริงควรจะทำก่อนหน้านี้?"

วิธีการสื่อสารจากนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยถึงเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นการแสดงความแปลกประหลาดอีกประการหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้

ข้อเท็จจริงที่ต้องคำนึงถึงก่อนที่จะตัดสินว่า เศรษฐกิจไทยโตช้ากว่าที่คาดเพราะอะไรก็คือ รัฐบาลเองเลือกที่จะเลื่อนการนำพรบ. งบประมาณแผ่นเข้าสภา ซึ่งควรจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนของทุกปี เนื่องจากปีงบประมาณเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ไม่ใช่ 1 มกราคม รัฐบาลชุดนี้เริ่มต้นบริหารประเทศตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม 2566 ซึ่งงบประมาณแผ่นดินปีงบประมาณ 2567 เป็นงบประมาณที่รัฐบาลที่แล้วจัดทำไว้แล้ว รัฐบาลชุดนี้เลือกที่จะนำงบประมาณดังกล่าวมาพิจารณาแก้ไขก่อนนำเข้าสภา ซึ่งในที่สุดก็ไม่ได้แก้ไขอะไรมากนัก แต่ทำให้การเริ่มใช้งบประมาณปี 2567 ต้องเลื่อนการใช้จากวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ไปเป็นเดือนพฤษภาคม หรือขณะนี้เห็นว่าจะทำให้เร็วขึ้นเป็นเดือนเมษายน 2567 ล่าช้าถึง 6 หรือ 7 เดือน

จำได้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจะกลัวมากว่า การพิจารณางบประมาณหากล่าช้าจะทำให้ไม่สามารถใช้งบประมาณได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม แต่รัฐบาลชุดนี้กลับเลือกเองที่จะทำให้ช้า ทั้งยังนำมาเป็นข้ออ้างเป็นเหตุผลเพื่อจะผลักดันนโยบาย digital wallet ให้ได้อีกด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าว การใช้จ่ายของรัฐบาลจึงถูกจำกัดให้ใช้จ่ายเพียงงบประจำเท่าที่จำเป็น เช่น งบเงินเดือนข้าราชการ และงบดำเนินการของแต่ละกระทรวงทบวงกรม ไม่สามารถใช้งบลงทุนได้

ความล่าช้าของการใช้งบประมาณของรัฐบาล แม้ไม่มีตัวเลขยืนยันที่ชัดเจน แต่ก็มีผลต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่น้อยอย่างแน่นอน ดังนั้นการที่เศรษฐกิจไม่ได้เติบโตอย่างที่คาด ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการตัดสินใจของรัฐบาลเอง จึงไปโทษอย่างอื่นทั้งหมดไม่ได้

อย่าได้คิดว่าการแจกเงินผ่าน digital wallet จะเป็นยาวิเศษที่สามารถทำให้เศรษฐกิจโตได้อย่างยั่งยืน การแจกเงินแบบนี้แม้จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่จะอย่างไรก็เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น ยิ่งหากต้องกู้เงินมาแจก ยิ่งเป็นมาตรการที่ไม่ว่าจะคิดในมุมใดก็ยิ่งไม่ควรนำมาใช้ เพราะเหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงดึงดันไม่น้อยไปกว่าที่พรรคก้าวไกลดึงดันเรื่องการแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

นอกจากเหตุผลที่ว่า เป็นเพราะได้หาเสียงไว้แล้วต้องทำให้ได้ ยังมีคำถามที่ทุกคนยังคาใจอยู่คือ ที่นำนโยบาย digital wallet มาใช้หาเสียง นอกจากต้องการได้คะแนนเสียง ยังมีเหตุผลอื่นใดแอบแฝงอีกหรือไม่ คำถามนี้แม้ได้รับการปฏิเสธ แต่ยังไม่มีการอธิบายด้วยข้อมูลและเหตุผลที่ทำให้สิ้นสงสัยได้เลย พวกเขาจะได้ประโยชน์กันบนความหายนะของประเทศหรือไม่ เราต้องคอยดูกันต่อไป

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ประเทศเดียวในโลก! \'นายกฯ\'หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่\'หุ้น\'เขียวทั้งกระดาน ประเทศเดียวในโลก! 'นายกฯ'หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่'หุ้น'เขียวทั้งกระดาน
  • ศก.ดิ่งเหว! ‘ศิริกัญญา’เผย 4 หน่วยงานหลักรับกลางวง กมธ. เย้ยรัฐบาลใหม่เตรียมแบกหนี้ ศก.ดิ่งเหว! ‘ศิริกัญญา’เผย 4 หน่วยงานหลักรับกลางวง กมธ. เย้ยรัฐบาลใหม่เตรียมแบกหนี้
  • ตอบหน่อยจะได้หายโง่! ‘ชาดา’ไล่บี้‘ธปท.’ ใครเป็นคนคุม‘แบงก์’ปล่อยค่าธรรมเนียม-ดอกเบี้ยโหด ตอบหน่อยจะได้หายโง่! ‘ชาดา’ไล่บี้‘ธปท.’ ใครเป็นคนคุม‘แบงก์’ปล่อยค่าธรรมเนียม-ดอกเบี้ยโหด
  • \'สนธิรัตน์\'เตือน! ประเทศขาดถ่วงดุล-ปชช.อ่อนแอ หวั่นไทยจมกับดักเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง 'สนธิรัตน์'เตือน! ประเทศขาดถ่วงดุล-ปชช.อ่อนแอ หวั่นไทยจมกับดักเศรษฐกิจ-สังคม-การเมือง
  • ครม.ทุ่มงบ 1.57 แสนล้าน ฟื้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ \'ลงทุนน้ำ-ทำถนน-การเกษตร-กระตุ้นท่องเที่ยว\' ครม.ทุ่มงบ 1.57 แสนล้าน ฟื้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 'ลงทุนน้ำ-ทำถนน-การเกษตร-กระตุ้นท่องเที่ยว'
  • ฟังเสียงเสนอแนะ! \'นายกฯ\'ชี้เศรษฐกิจโลกผันผวน ต้องทบทวนแผนกระตุ้นศก. ฟังเสียงเสนอแนะ! 'นายกฯ'ชี้เศรษฐกิจโลกผันผวน ต้องทบทวนแผนกระตุ้นศก.
  •  

Breaking News

‘พม.น่าน’ผนึกกำลังกรมการปกครอง-ธ.ก.ส. ลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเปราะบางถึงบ้าน

ภาพกล้องหน้ารถ กระบะเสียหลักข้ามเลน ชนประสานงา

รปภ.รุ่นน้องสุดทน! ถูกรปภ.รุ่นพี่ข่ม-ด่า ชักมีดแทงดับคาป้อม

มอไซค์ชนกัน เจ็บ 3 ราย สุดอึ้งคนขี่เป็นเยาวชนวัย13

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved