“รมว.กต.  ปูทาง นายกฯ ก่อนเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ 13 มี.ค.นี้ ผลักดันการค้า-การลงทุน เชื่อมความสัมพันธ์ ส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของนครเบรเมิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงจุดมุ่งหมายในการเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2567 ว่าภายหลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ทั่วโลก เพื่อร่วมกันกำหนดประเทศเป้าหมายในเชิงยุทธศาสตร์ ได้ข้อสรุปว่า เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่ไทยควรเดินหน้าเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตในเชิงลึก และผลักดันเรื่องของการค้า การลงทุน รวมถึงการขยายตลาดต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการยกระดับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน

ดังนั้นในการเจรจาไทยจะเสนอโครงการต่างๆตามนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเยอรมนีให้เข้ามาลงทุนในไทย อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ , Semiconductor , Data center และยานยนต์ไฟฟ้า เพราะเยอรมนีถือเป็นผู้ผลิตยานยนต์ที่สำคัญ จึงเชื่อมั่นว่าหากประสบผลสำเร็จ ในอนาคตนักลงทุนเยอรมนีจะเข้ามาช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน การเดินทางมาเยอรมนีในครั้งนี้ ยังเสมือนเป็นการเตรียมความพร้อม ก่อนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มีนาคมนี้  ในวันแรกที่เดินทางมาจึงได้ประชุมร่วมกับทีมไทยประจำเยอรมนี ข้าราชการฝ่ายความมั่นคง 3 เหล่าทัพ ฝ่ายการศึกษา ฝ่ายพาณิชย์ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เพื่อมอบนโยบายให้แต่ละฝ่ายทราบว่านายกรัฐมนตรีมีเป้าหมายในเรื่องของการค้าการลงทุน และการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ส่วนความคืบหน้าในการสมัครเข้าเป็นสมาชิก OECD เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนนั้น นายปานปรีย์ กล่าวว่าเรื่องนี้จะต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งอาจจะนานถึง 2 ปี ด้วยเหตุนี้ ไทยจึงต้องสมัครเข้าไปก่อน เพื่อแสดงเจตจำนงว่าต้องการเป็นสมาชิก ดังนั้นเมื่อเขารับเจตจำนงไว้แล้ว ก็มีแนวโน้มว่าไทยมีโอกาสจะได้เข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD มากยิ่งขึ้น ซึ่งหากสำเร็จจริง เชื่อว่าจะสร้างมาตรฐานให้กับประเทศไทยทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การเงิน การเจรจาการค้ากับประเทศที่พัฒนาแล้ว และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย