"ผู้การแต้ม" ยื่นผู้ตรวจฯปมกฏกระทรวงสาธารณสุขยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้เสพ พร้อมท้า"หมอชลน่าน" ลงพื้นที่สำรวจความเห็นปชช. เผยเตรียมปรึกษา กกต. ถอดถอน"ชลน่าน"พ้นรมต.
วันนี้ (8 มีนาคม 2567) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ จะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567หรือกฎหมายใหม่ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการครอบครองยาเสพติดต่ำกว่ากำหนด เช่น ยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดหรือยาไอซ์ไม่เกิน 100 mg เป็นการครอบครองเพื่อเสพให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ป่วย โดยมีพันตำรวจโทกีรป กฤตธีรานนท์ เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ตนมาในฐานะประชาชนคนหนึ่งเห็นว่า กฎกระทรวงนี้เป็นผลร้ายต่อประชาชน มากกว่าผลดี เพราะเป็นการเปิดช่องให้เกิดผู้ค้ารายย่อยจำนวนมากขึ้น จำนวนคนเสพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลร้ายต่อสังคม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดวางหลักไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ครอบครองยาเสพติดจะต้องได้รับโทษ ส่วนคนเสพก็เข้าสู่กระบวนการบำบัด แต่ทว่ากฎกระทรวงนี้เปิดช่องให้ผู้ครอบครองยาเสพติด 5 เม็ดเป็นผู้เสพ ต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด
นอกจากนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวจะเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุจริตเรียกรับเงินจากผู้กระทำความผิด ครอบครองยาเสพติดให้สามารถปรับข้อหาสถานหนักให้กลายเป็นสถานเบาได้ เมื่อกฎหมายเปิดช่องเช่นนี้ ก็จะทำให้เกิดผู้ค้ารายย่อยเพิ่มมากขึ้น ผู้ติดยาเพิ่มมากขึ้น ยาเสพติดถูกนำเข้ามามากขึ้น และส่งผลให้อาชญากรรมเกิดมากขึ้น
ดังนั้น จึงถือว่ากฎกระทรวงดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน อีกทั้งขัดต่อกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่ ประมวลกฎหมายยาเสพติด วันนี้ตนจึงมายื่นหนังสือให้ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน ดำเนินการแก้ไขปัญหาและตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนพิจารณาส่งศาลปกครอง เพื่อเพิกถอนกฎกระทรวงดังกล่าวไม่ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
พล.ต.ต.วิชัย ยังมองอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตนายตำรวจ มองว่า การลดอาชญากรรมและปัญหายาเสพติดที่ถูกต้อง คือต้องลดจำนวนผู้เสพลง ไม่ใช่เพิ่มจำนวนยาที่ทำให้ถูกกฎหมาย กฎกระทรวงฉบับนี้ไม่ก่อประโยชน์อันใดแก่ประชาชน เพราะถึงขนาดทำให้เฮโรอีน ซึ่งถือเป็นยาเสพติดร้ายแรงและไม่สามารถบำบัดได้ ต้องมาพิจารณาว่า หากครอบครองไม่เกิน 300 มิลลิกรัม ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้เสพนั้น ตนมองว่ายาเสพติดต่อให้เข้าสู่ร่างกายก็ถือว่าเป็นผู้เสพแล้ว จะมากำหนดจำนวนทำไม อีกทั้งผลงานวิจัยที่บอกว่า หากเสพเกิน 5 เม็ดขึ้นไป จะทำให้ผู้เสพเกิดอาการคลุ้มคลั่งนั้น ตนมองว่านี่เป็นเรื่องในเชิงวิชาการ แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่มีใครที่เสพทีเดียวเกินห้าเม็ด มีแต่เสพวันละเม็ดสะสมไปเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง แต่จะมาพูดจาสวยหรูว่า มียาเสพติดเม็ดเดียวถือว่าจำหน่าย มันไม่ใช่ มียาเสพติดแค่เสี้ยวเดียวก็ถือว่าจำหน่ายได้ ต้องไปดูกฎหมายให้ชัดว่า แค่การแจกจ่ายก็ถือว่าเป็นการจำหน่าย
"ถือได้ว่ากฎกระทรวงฉบับนี้ ไม่ได้เป็นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเลย การที่ให้เหตุผลเพียงแค่ว่ามีกฎกระทรวงฉบับนี้เพื่อลดปริมาณคนล้นคุกนั้น ผมมองว่ายิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน เพราะกลายเป็นการปล่อยให้คนเสพยาหลุดออกมาใช้ชีวิตในสังคม ก็ทำให้อาชญากรรมพุ่งขึ้น ตอนนี้แต่ละสถานีตำรวจต้องควบคุมคนคลุ้มคลั่ง 4-5 รายต่อวัน และสิ่งที่น่าสงสัยก็คือ ถ้ามีนโยบายนำผู้เสพไปบำบัด แล้วทางรัฐบาลมีข้อมูลตัวเลขว่าสามารถบำบัดผู้เสพยาเสพติดไปแล้วเท่าไหร่ และศูนย์บำบัดยาเสพติดอยู่ที่ไหน ดังนั้น ผมยืนยันว่าจะต่อสู้เรื่องนี้ให้ถึงที่สุด"พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
ด้าน เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า จะรับเรื่องนี้ไว้พิจารณา โดยถือว่าประเด็นหลักของเรื่องนี้ คือ การขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ซึ่งการยกเลิกกฎกระทรวงนั้นสามารถทำได้ 2 วิธีคือ หากผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้วพบว่า กฎกระทรวงดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรม นูญหรือขัดต่อกฎหมายอื่นๆ ก็จะส่งเรื่องให้ศาลปกครองดำเนินการยกเลิกกฎหมายดังกล่าว อีกวิธีการหนึ่งคือ หากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า กฎกระทรวงฉบับนี้ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและขัดศีลธรรมอันดีของประชาชน ก็จะเป็นอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่สามารถวินิจฉัยยกเลิกกฎหมายได้
โดยหลังจากนี้ ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะส่งหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในที่นี้ก็คือกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงภายใน 30 วัน หากข้อมูลเพียงพอต่อการวินิจฉัย ผู้ตรวจการแผ่นดินก็สามารถวินิจฉัยได้ทันที แต่ถ้าหากข้อมูลยังไม่เพียงพอ อาจจะมีการขอความเห็นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ป.ป.ส. ในประเด็นเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐหรือในความเห็นอื่น ๆ เพิ่มเติมมาประกอบการวินิจฉัยต่อไป
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่หนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเสร็จ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กล่าวท้าทายไปยัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณ สุข ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงฯนี้ให้มาด้วยตัวเองหรือส่งตัวแทนของกระทรวง ร่วมลงพื้นที่ชุมชนไปพร้อมกับตัวแทนของตนเอง เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายยาบ้า 5 เม็ด ว่าประชาชนคิดเห็นเป็นเช่นไร โดยให้สื่อมวลชนไปร่วมทำข่าวและเป็นผู้เลือกสถานที่สำรวจ เพื่อที่จะได้ยืนยันว่าไม่มีฝ่ายใดเตรียมการไว้ก่อน
ส่วนที่ถูกตั้งคำถามว่า เหตุใดถึงไม่มีการเข้าไปพูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ที่กระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต.วิชัย ตอบว่า ตนไม่ได้มีอำนาจอะไร ขอเป็นประชาชนคนหนึ่งที่จะทำหน้าที่กระบอกเสียงในการดำเนินการเรื่องนี้ ขณะนี้เองตนก็กำลังหาช่องทางที่จะปรึกษา กกต. ในการถอดถอน นพ.ชลน่าน จากตำแหน่งรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุถึงท่าทีของ นพ.ชลน่าน ว่าไม่ได้มีการรับฟังอะไรจากตน เพราะเชื่อในงานวิจัยนักวิชาการกับตรรกะที่มองว่าคนล้นคุก จึงเป็นเหตุให้ต้องใช้กฎหมายฉบับนี้
พล.ต.ต.วิชัย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขใช้คำนิยามว่า "ผู้ป่วยคือผู้เสพ" นั้นเป็นคำพูดที่สวยหรู แต่ความจริงคือมีคนเสพที่ติดเป็นสันดาน ติดเข้าเส้นเลือดแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี