เปิดเรียน‘มินิวปอ.’

‘อุ๊งอิ๊ง’รับมาหาคอนเนคชั่น

ชี้ได้ประโยชน์ไม่ใช่เรื่องแปลก

“อุ๊งอิ๊ง” ตื่นเต้น เรียน “มินิ วปอ.”รุ่น 1 วันแรก ขอดูเรื่องเวลา-งานพรรคก็สำคัญ เผยทุกหน่วยงานต้องปรับตัว ไม่เฉพาะ“กองทัพ” ยอมรับมาเรียนเพื่อหาคอนเนคชั่น ผงาดนั่งซุปเปอร์บอร์ด’พร้อม“อิสระ-เอิง”ด้าน‘ผอ สปท.’ยกนักศึกษา‘วปอ.บอ.รุ่น 1’มาตรฐานสูง คือ ความหวังประเทศ

เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 22 มีนาคม 2567 ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สปท.)นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมพิธีปฐมนิเทศหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า วันนี้มาเรียนก็รู้สึกดี ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเป็นนักเรียนอีกครั้ง ก็สมัครมาสักพักแล้ว รอวันเปิด เลยตื่นเต้นนิดหนึ่ง มาเจอหลายท่านข้างล่าง แต่ที่ตื่นเต้นกว่าคือเจอนักข่าวเยอะมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจเรียนหลักสูตรนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จริง ๆ เรื่อง วปอ. มีมานานแล้ว พอเปิดเป็น วปอ. รุ่นเด็กลงมา อายุเข้าเกณฑ์ เลยรู้สึกว่าถ้ามาเรียน ก็จะได้รู้ในสิ่งที่เรายังไม่ทราบอีกเยอะ และคิดว่าการที่จะได้เข้ามาเรียนตรงนี้ น่าจะมีประโยชน์ในการใช้ในเส้นทางการเมืองแน่นอน

เมื่อถามว่าจุดหมายปลายทางของหลักสูตรนี้คืออยากทราบทัศนคติของคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ในมุมของนางสาวแพทองธารมองว่าควรเป็นอย่างไรในอนาคต นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป หลาย ๆ อย่างไม่ใช่แค่กองทัพอย่างเดียว ก็ต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อจะให้บ้านเมืองสงบสุข เราต้องหันหน้าเข้ามาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ตั้งแต่เรื่องเล็กไปถึงเรื่องใหญ่ แต่เรื่องที่เป็นของระดับประเทศ เราก็คุยกันในสภา ที่มี สส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเข้ามาคุยร่วมกัน ก็จะเป็นสิ่งที่ชัดเจน และมีตัวแทนของประชาชนได้มากที่สุด

เมื่อถามว่าจะเป็นประธานรุ่นด้วยหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า “โอ้ย เดี๋ยวก่อน ยังเจอไม่ครบเลยค่ะ จะเป็นประธานรุ่นไม่ได้” แต่คิดว่าต้องดูเรื่องเวลาเรียนด้วย เพราะเปลี่ยนมาเรียนเป็นวันจันทร์ กับวันอังคาร ซึ่งตนมีประชุม สส. ที่พรรคในวันอังคาร ซึ่งก็ต้องดูเวลานิดนึง เพราะงานที่พรรคก็สำคัญมากเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนที่มาสอบสัมภาษณ์เป็นคำถามเกี่ยวกับอะไร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สัมภาษณ์เรื่องว่ามาเรียน จะมีการหาคอนเนคชั่น หรือไม่ ตนก็ตอบไปตรง ๆ ว่าการที่คนมาเรียนไม่ใช่แค่คอร์สนี้ แต่ในทุกคอร์ส ทุกคนอยากได้คอนเนคชั่น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โรงเรียนก็จะได้มาระดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยก็จะเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ไปเรียนเมืองนอกก็ได้อีกกลุ่มหนึ่ง อย่างเพื่อนต่างชาติที่ตนก็ยังมีอยู่เลย แล้วการกลับมาก็เป็นช่วงอายุที่เปลี่ยนไป ดังนั้น การที่คุณจะหาคอนเนคชั่น หรือไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เราได้เปิดกว้างเรียนรู้จากคนหลายคน

เมื่อถามว่าการมาหาคอนเนคชั่นในครั้งนี้ หรือหลักสูตรดังกล่าว จะถูกโจมตีว่าทำเพื่อเรื่องส่วนตัว นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตนว่าทุกคอร์ส ทุกคนก็มาเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และประโยชน์เพื่อใด ๆ ของคนที่เรารัก และแคร์ ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น และไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ว่ามาแล้วจะได้ผลประโยชน์ ยังไม่ได้ไปโกงกินใคร เรามาแล้วได้ประโยชน์ ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าเรามาแล้วเรารู้สึกว่าเราไม่ได้อะไรเลยจากการที่ มาแล้วจะมาทำไม เพราะฉะนั้น มาก็ต้องได้ประโยชน์ และไม่เป็นไร หวังว่าคอร์สนี้ทุกคนจะได้ประโยชน์จากอะไรก็ตามในที่เรียน

จากนั้น พล.อ.อ.ภูมิใจ เลขสุนทรากร ผู้บัญชาการ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้กล่าวต้อนรับนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.)รุ่นที่ 1 ว่า ถือเป็นหลักสูตรรุ่นที่ 1 ซึ่งมีที่มาที่ไปนานพอสมควร เพราะก่อนหน้านั้นเกือบจะสำเร็จ แต่ต้องล้มเลิกไป ซึ่งวันนี้แม้ตนจะเป็นผู้บัญชาการสถาบันป้องวิชาการป้องกันประเทศ แต่ขอเป็นอาจารย์ กับศิษย์

สำหรับการปฐมนิเทศวันนี้ เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่อยู่กัน 6 เดือน เราจะทำอะไร และจะได้อะไรกัน พวกเราคือความคาดหวังและสังคมมองดูทุกท่าน ในกระบวนการที่ได้คัดเลือกเข้ามา ต้องถือว่าพวกเรา มีมาตรฐานสูงมากของประเทศ ขอแสดงความยินดีกับพวกเราทุกคน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การปฐมนิเทศหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรสำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) รุ่นที่ 1 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ในช่วงบ่าย มีการแบ่งกลุ่ม เป็น10 กลุ่ม จากผู้เข้าร่วมอบรมทั้งหมด150 คน โดยแบ่งเป็น 10 กลุ่ม ตามชื่ออัญมณี

จากนั้น มีการแต่งตั้งประธานรุ่นและผู้บริหารรุ่น ผลปรากฏว่า พ.อ.เอกรักษ์ สิงหพงษ์ กองบัญชาการกองทัพไทยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ประธานรุ่น ส่วนรองประธานมี 4 คน เลือกจาก 4 ภาคส่วน 1.ทหาร-ตำรวจ 2. องค์กรอิสระ 3. ข้าราชการพลเรือน 4.เอกชน

ในส่วนที่เป็นไฮไลท์ คือ ได้มีการกำหนดให้มี“คณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ” จำนวน 3 คน หรือ ซุปเปอร์บอร์ดของรุ่น ประกอบด้วย 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย 2.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และ3.นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ หรือดร.เอิง คณะทำงานนายกรัฐมนตรี เพื่อนสนิทของน.ส.แพทองธาร ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเดินทางมาพบปะพูดคุย ในตอนเปิดการศึกษาด้วย