ถก40ชั่วโมงผ่านงบประมาณปี’67
สภาโหวตฉลุย
นายกฯขอบคุณทุกฝ่าย
รับปากใช้เงินให้คุ้มค่า
โปร่งใส-เกิดประโยชน์
วุฒิฯรับไม้ต่อถก26มี.ค.
สภาฯถกงบประมาณปี’67 ใช้เวลา 40 ชั่วโมง ก่อนลงมติผ่านฉลุย “นายกฯ” ขอบคุณทุกฝ่ายช่วยทำงานแข็งขัน รับปากจะใช้เงินให้ “คุ้มค่า–โปร่งใส–เกิดประโยชน์เพื่อปชช.สูงสุด” พัฒนาประเทศทุกด้านขณะที่ “วุฒิสภา” เตรียมรับไม้ต่อ ประชุมทันที26 มีนาคม
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มีนาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณพ.ศ.2567 วาระสอง เป็นวันสุดท้าย มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เหลืออีก 15 มาตรา โดยจะเริ่มพิจารณา มาตรา 27 ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ปรับลดเหลือ 35,434,895,500 บาท จากเดิมที่เสนอมา 35,936,108,400 บาท จนถึง มาตรา 41 จากนั้นที่ประชุมจะลงมติ วาระ 2 และวาระ 3 ก่อนส่งให้วุฒิสภาได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ต่อวันที่ 26 มีนาคม เวลา 09.00น. ต่อไป
ก.ก.ถล่มขอตัดงบซื้ออาวุธหนัก3%
โดยน.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย สงวนความเห็นขอตัดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ลง 3% จำนวน 1,781 ล้านบาทว่า งบประมาณเพื่อจัดซื้ออาวุธหนักเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นและฟุ่มเฟือย ประกอบด้วย ปืนซุ่มยิ่งระยะไกลหรือ สไนเปอร์ 10 ชุด 15.5 ล้านบาท ปืนกลพร้อมอุปกรณ์ 20 ชุด 72 ล้านบาท ปืนกลมือขนาด 9 มม. 4,000 กระบอก พร้อมอุปกรณ์ 104 ล้านบาท ปืนเล็กสั้น ขนาด 5.56 มม. จาก 3 โครงการ 2,000 กระบอก 274 ล้านบาท, รถปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุม(จีโน่) 5 คัน 87 ล้านบาท และค่าซ่อมแซมรถฉีดน้ำแรงดันสูงควบคุมฝูงชน(จีโน่) ที่ชำรุด 5 คัน 47 ล้านบาท รวม 599.5 ล้านบาท
“ถามว่าตำรวจมีอาวุธได้หรือไม่ ตอบว่ามีได้ แต่ข้อเท็จจริงต้องดูว่าตำรวจใช้อาวุธเหล่านี้กับใคร ด้วยจุดประสงค์อะไร และถือครองไว้จำนวนเท่าไหร่ เราต้องไม่ปล่อยให้ตำรวจตกเป็นเครื่องมือรัฐ ผลักสังคมไปอยู่ในความรุนแรงที่สูงขึ้นเรื่อยๆจากการสะสมอาวุธสงครามมากมาย” น.ส.พนิดา กล่าว
ซัดตั้งงบบางอย่างเกินจริง
ขณะที่น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ กมธ.สัดส่วนพรรคก้าวไกล อภิปรายสงวนความเห็นปรับลดงบประมาณในส่วนตร. 10% การจัดสรรงบประมาณของตำรวจมีปัญหาต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ทั้งที่เป็นภารกิจหลักของตำรวจ หากเราพิจารณางบของสตช.ในปีนี้ หรือหลายปีที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากการได้รับงบประมาณน้อยเกินไป แต่เกิดจากการตั้งใช้งบประมาณกับบางอย่างที่เกินจริง ให้ความสำคัญผิดสัดส่วน ยกตัวอย่าง ค่าน้ำมันของสายตรวจที่ได้เดือนละ 7,000 บาท หากเป็นจักรยานยนต์จะได้เดือนละ 3,500 บาททั้งที่ต้องใช้ขับลาดตระเวนทั้งวัน ทำให้ตำรวจต้องลดการลาดตระเวนหรือใช้วิธีการตรวจเมื่อมีการแจ้งเหตุแทนและยังต้องออกค่าน้ำมันส่วนเกินเอง ขณะที่โครงการอื่น เช่น โครงการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ หรือ จิตอาสา 904 ที่มีงบประมาณ 157 ล้านบาท กลับได้ค่าน้ำมันอย่างไม่ขัดสน แค่รับส่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ค่าน้ำมันเที่ยวละ 1,000 บาท ไปกลับตกวันละ 2,000 บาท นอกจากนี้ จิตอาสา 904 ยังมีค่าน้ำมันในกิจกรรมสร้างจิตสำนึกปีละ 3.32 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 2.7 แสนบาท หากเทียบกับตำรวจสายตรวจที่ต้องวิ่งตรวจความปลอดภัยทั้งวัน จิตอาสา 904 ก็ยังได้ค่าน้ำมันมากกว่าตำรวจ
เช่ารถแพงต่อปีสูงกว่า3พันล.
น.ส.ณธีภัสร์อภิปรายต่อว่า งบฯอีกส่วนที่ตั้งไว้สูงคือ ค่าเช่ารถ ซึ่งสตช.เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีรถจำนวนมากทำให้ค่าเช่าย่อมสูงตามไปด้วย ปีนี้กว่า 3,000 ล้านบาท โดยที่ค่าเช่ารถแต่ละปีมีราคาสูงกว่าความเป็นจริงมาก ยกตัวอย่าง รถที่เช่าอยู่ 2 รุ่น คือ โตโยต้าแคมรี่ จากโครงการบริการประชาชน ที่เช่าอยู่ 215 คัน ค่าเช่าเดือนละ 37,630 บาทต่อคัน แต่ความเป็นจริงให้เช่าในราคา 30,700 บาท เท่ากับตำรวจเช่าแพงถึง 20% ส่วนรถเบนซ์เอส 350 จากโครงการถวายความปลอดภัย เช่าอยู่ 8 คัน ค่าเช่าเดือนละ 165,500 บาทต่อคัน แต่ความเป็นจริงเช่าในราคา 137,116 บาท เท่ากับตำรวจเช่าแพงกว่า 20%
จี้ตัดลดงบอาสาตำรวจบ้าน
ด้านนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอให้ตัดหรือลดงบที่ไม่จำเป็นคือ ค่าตอบแทนอาสาสมัครตำรวจบ้าน อาสาสมัครเหล่านี้มี 10 คนต่อสถานีตำรวจ แต่ค่าตอบแทนที่ให้อาสาสมัครนี้ เบิกงบต่อคนต่อปีแค่ 1,800 บาท ถ้าว่าเป็นแค่สินน้ำใจการทำงานทั้งปีแล้วได้แค่นี้ สิ่งแรกที่ตำรวจต้องทำคือต้องแจ้งข้อหาตัวเองก่อนเลย ที่ให้ค่าแรงที่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ หวังว่าสตช.จะตัดลดงบเพื่อให้กำลังพลมีบ้านพักอาศัยที่ดี มีสวัสดิการ และน้ำมันเพียงพอ เมื่อจัดสรรงบไม่เป็นผลแบบนี้ ตนขอปรับลดทั้งหมด 5%
จากนั้นนายธเนศ เครือรัตน์ กมธ.งบประมาณฯชี้แจงว่า ปืนซุ่มยิงระยะไกล ปืนกล ปืนเล็ก ทั้งหมด 6,030 กระบอก สตช.ได้ใช้งบพับตั้งแต่ปี 2564 มาจัดซื้อในปี 2567 เนื่องจากขณะนั้นเป็นช่วงโควิดจัดซื้อไม่ทัน จึงมาจัดซื้อปีนี้ ซึ่งอนุ กมธ.ไม่ได้ตัดลดส่วนนี้ เนื่องจากได้ส่งมอบและเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว สำหรับค่าน้ำมัน ทำเป็นข้อสังเกตให้สตช.จัดสมดุล ระหว่างรถประจำตำแหน่ง และรถสายตรวจ ทั้งนี้ ที่ประชุมลงเห็นชอบตามคณะกมธ.เสียงข้างมากแก้ไขด้วยคะแนน 259 ต่อ 129 ไม่ออกเสียง 2 เสียง
ก.ก.ชงตัดงบบ้านเช่าบ้านพักศาล
ต่อมาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เข้าสู่พิจารณามาตรา 31 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานของศาล จำนวน 7,961,884,300 บาท โดยน.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่เห็นด้วยกับงบค่ารถประจำตำแหน่งตุลาการ 41 ล้านบาท เนื่องจากได้ค่าตอบแทนที่สูงอยู่แล้ว ขณะนี้เศรษฐกิจประเทศถดถอย มีประชาชนจำนวนมากประสบภาวะข้าวยากหมากแพง ดังนั้น พวกเราในฐานะได้รับภาษีของประชาชน ควรลำบากไปพร้อมประชาชน ไม่ใช่รีดเงินไปใช้กับวัตถุทำให้ตนเองสุขสบาย ที่สำคัญเมื่อพิจารณาจากบทบาทการทำหน้าที่ของผู้พิพากษา ปฏิบัติงานประจำอยู่ในอาคารสำนักงาน ไม่ได้ออกไปนอกเส้นทางบ่อยครั้ง และแม้จะออกนอกเส้นทางผู้พิพากษาสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะเหมือนประชาชนได้ รวมถึงงบก่อสร้างอาคารศาลพร้อมบ้านพัก 1,324 ล้านบาท เห็นว่าบ้านพักตุลาการใหญ่โต หรูหรา กว้างขวาง กว่าบ้านพักข้าราชการครู และตำรวจ จึงขอตั้งคำถามว่าความเหมาะสมหรือไม่
กมธ.ข้างมากสอนมวยก.ก.โต้ตัดงบ
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.ฯเสียงข้างมากสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ชี้แจงว่า บางทีการไปโจมตีการครองตนของข้าราชการตุลาการต้องระวัง เพราะเขาไม่เหมือนคนอื่น เขาใช้ชีวิตอิสระแบบคนอื่นไม่ได้ บ้านพักต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ บางคนไม่เข้าใจวิธีการเป็นไปของโลกก็จะโจมตีผิดๆถูกๆ ข้าราชการตุลาการ ผู้พิพากษาต้องผดุงความยุติธรรมสูงสุด เราเองคงหาความยุติธรรมเหนือกว่านี้ไม่ได้ ในระบบทั่วโลกก็เป็นเช่นกัน ถ้าไม่ให้เขาสันโดษ ให้มีเพื่อนจำนวนมาก จะทำให้ไม่มีความอิสระ ต้องเกรงใจไปทั่ว ฉะนั้นต้องพิจารณาสิทธิที่เขาพึงมีมีอะไรบ้าง เช่นเดียวกับสส. ถ้าไม่มีผู้ช่วยสส. 7-8 คน ถามว่าจะดูแลประชาชนอย่างไร ถ้าจะแก้ต้องแก้หลักใหญ่ อย่าโจมตีจุดเล็ก จะได้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้น ยืนยันขอให้ตั้งงบตามที่คณะกมธ.แก้ไข ทำให้น.ส.ธิษะณาชี้แจงว่า เห็นด้วยที่อาชีพผู้พิพากษามีเกียรติศักดิ์ศรี แต่สส.ก็อันตราย มีศัตรูทางการเมืองไม่แพ้กัน แต่ไม่มีบ้านพักอาศัยที่ภาษีประชาชน และยืนยันงบประมาณสร้างบ้านพักศาลควรตัดออก เพราะไม่จำเป็น หลังจากอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบมาตรา 31 ตามที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอ
“พิเชษฐ์”นั่งปธ.ยาว-เสบียงโด๊ปอื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48ล้านล้านบาท วาระ2 เรียงตามรายมาตรา จำนวน 41 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯปี 67 พิจารณาเสร็จแล้ว เป็นวันสุดท้ายนั้น นายพิเชษฐ์ต้องทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมเพียงคนเดียว เนื่องจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทย เดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของสภาแห่งชาติ ราชอาณาจักรกัมพูชา ระหว่างวันที่ 21 - 23 มีนาคม
ขณะที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ต้องร่วมคณะผู้แทนรัฐสภา ที่นำโดยพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมสมาชิกรัฐสภา รวม 10 คน ไปร่วมประชุมสหภาพรัฐสภา Inter-Parliamentary Union (IPU) ครั้งที่ 148 ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 22 -29 มีนาคม
โดยนายพิเชษฐ์ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถึงช่วงเที่ยงที่ได้สั่งพักการประชุมประมาณ 30 นาที เริ่มเปิดประชุมอีกครั้งเวลา 13.00 น. ทั้งนี้ บริเวณที่นั่งบนบัลลังก์ประธานสภาฯ ได้เตรียมอาหารว่าง เช่น ขนมปัง รังนก ซุปไก่สกัด และเครื่องดื่มชูกำลัง ไว้สำหรับการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของนายพิเชษฐ์ ตลอดทั้งวัน
นายกฯมั่นใจพรรคร่วมรบ.เหนียวแน่น
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีมีกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลคว่ำร่างบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2-3หวังเปลี่ยตัวนายกรัฐมนตรีว่า เท่าที่ทราบไม่มีตรงนี้ เพราะรัฐบาลเหนียวแน่นหมดทุกพรรคทุกท่าน ไม่น่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น และไม่ได้วิเคราะห์กระแสข่าวนี้มาได้อย่างไร แต่จากการอ่านหนังสือพิมพ์มีฉบับหนึ่งที่บอกมา แต่ฝ่ายสภาเช็คแล้วก็ไม่มีอะไร เราเองก็ทำงานด้วยกันดี ไม่น่ามีอะไร ตนยังมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้เตรียมรับมือกับเกมการเมืองอะไร ทำงานไปทุกวัน ผลงานจะเป็นตัวชี้วัด และเราก็ทำงานกับทุกพรรคได้ดี เมื่อคืนวันที่ 21 มีนาคมได้เจอนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเจอกับ พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ก็ไม่มีอะไร
“ยืนยันไม่มีสัญญาณอะไร ถ้าพูดถึงการวัดเนื้องานเป็นหลัก เราทำงานร่วมกันดีตรงนี้ไม่มีประเด็นอะไรเลย และไม่ได้สอบถามไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือในส่วนแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ เพราะอยู่ด้วยกันก็ต้องให้ให้เกียรติกัน”นายกฯระบุ และยืนยันว่า ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของสมาชิกวุฒิสภา ตนมาร่วมประชุมแน่นอน
วิปรบ.ลั่นผ่านล้านเปอร์เซ็นต์
มีท่าทีฝ่ายรัฐบาลต่อกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลคว่ำร่างบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2-3 หวังเปลี่ยตัวนายกรัฐมนตรี โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ในพรรคร่วมรัฐบาล ก็คุยกันตลอด มั่นใจว่างบประมาณจะผ่านสภาแน่นอน เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคสมัครสมานสามัคคี เพราะต้องการให้งบประมาณออกไปสู่หน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปปฏิบัติ เพราะเรารอมาเป็นปี 7 เดือนที่ผ่านมาที่เราบ่นว่ารัฐบาลไม่มีโครงสร้างอะไรเลย วันนี้งบประมาณต้องเสร็จ และส่งไปให้วุฒิสภา เชื่อมั่นว่าต้นเดือนเมษายนงบประมาณต้องออกไปใช้ เพราะคนรอกันทั้งประเทศ จะออกสู่ประชาชน ถนนจะได้สร้าง อ่างเก็บน้ำจะได้ทำ การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจก็จะดีขึ้น ทุกพรรคการเมืองน่าจะร่วมกันผลักดันงบประมาณ เชื่อว่าผ่านร่างงบประมาณล้านเปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ากระแสข่าวที่ออกมา คงเป็นพวกหน้าเดิม ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ไม่มีใครเปลี่ยนตัวนายกฯ
รบ.ปัดดีลลับดันลุงป้อมนั่นนายกฯ
นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกระแสข่าวดีลลับ“รัฐมนตรี ป.” เดินเกมจ่ายเงินงูเห่า เพื่อโหวตล้มร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี2567และดันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯว่า ส่วนตัวยังไม่เห็นข่าวดังกล่าว แต่เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะหากเรื่องการจ่ายเงินซื้องูเห่าเกิดขึ้นจริง ในกลุ่มสส.ด้วยกันต้องมีการพูดคุยกันบ้าง แต่ตอนนี้ เงียบมาก ยังไม่มีใครพูดอะไร
ขณะที่นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรากฏชื่อในข่าวว่าเป็นแกนนำ นำสส.อีสาน พรรคเพื่อไทย 30 คนร่วมเดินดีลล้มร่างฯงบประมาณฯนั้น ก็ยืนยัน เช่นเดียวกันว่าไม่เคยได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว ถ้ามีจริงเรื่องนี้ สส.ก็ต้องคุยกับบ้าง และเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ยันโหวตเห็นชอบตามมติวิปรบ.
เช่นเดียวกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันยังไม่เคยได้ยินกระแสข่าวดังกล่าว มั่นใจว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะขณะนี้ งบประมาณฯล่าช้ามามากแล้ว ถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวจริงจะกระทบการบริหารราชการแผ่นดินด้วย
ส่วนนายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ยืนยันกระแสข่าวดังกล่าวไม่จริง สถานการณ์ในพรรคยังปกติพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมีเพียง 40 เสียงเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า การลงมติร่างพ.ร.บ.งบประมาณวันนี้ พรรคจะลงมติเห็นชอบ ตามมติวิปรัฐบาล
‘รทสช.’พร้อมใจหนุนร่างงบฯ67
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า เป็นการปล่อยข่าวจากผู้ไม่หวังดี ต้องการสร้างความปั่นป่วนและหวังผลทางการเมือง หวังให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอยืนยันว่าจะลงมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ อย่างพร้อมเพรียง เนื่องจากเป็นมติพรรคออกมาแล้ว เพราะเห็นว่างบประมาณมีความจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและขับเคลื่อนประเทศ
นายอัครเดช กล่าวว่า อยากให้คนที่ปล่อยข่าวออกมาหยุดพฤติกรรมลักษณะนี้ได้แล้ว เพราะไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติโดยรวม การเมืองควรจะพักเอาไว้ก่อนเวลานี้ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า ที่ผ่านมาประเทศและประชาชนรอคอยงบประมาณเพื่อนำงบประมาณออกมาใช้มาพัฒนาประเทศ และขับเคลื่อนภาคส่วนต่างๆ แต่กลับมีการปล่อยข่าวในวันที่จะลงมติ จึงขอย้ำว่าให้หยุดการกระทำเพราะไม่มีประโยชน์อะไร
“พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันอีกครั้งจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯเต็มที่ และพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมสนับสนุน คนที่ปล่อยข่าวคงหวังผลการเมืองหวังสร้างความปั่นป่วน สร้างความแตกแยกในรัฐบาล แต่จะไม่เป็นผล เพราะถึงอย่างไรงบประมาณก็จะผ่านสภาฯ อยู่แล้ว ขอให้ประชาชนมั่นใจได้” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว
ฝ่ายค้านเอกฉันท์ไม่รับร่างงบฯ
ความเคลื่อนไหวทางฝ่ายพรรคฝ่ายค้าน ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เผยว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติเอกฉันท์ เห็นตรงกันว่าจะลงมติไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 ส่วนกระแสข่าวการโหวตไม่เห็นชอบจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯนั้น ตนยังไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้เลย ถ้าเกิดขึ้นก็แปลว่า มีรอยแตกร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีการแก่งแย่งชิงอำนาจที่หลายฝ่ายอาจลือกันมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าจะมีการแย่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกันหรือไม่ ถ้าข่าวลือเป็นจริง ก็คงจะได้เห็นกันว่า ที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้างในการร่วมรัฐบาล
“สนธิญา”หอบหลักฐานให้สว.
วันเดียวกัน นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการ กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์หลังยื่นข้อมูล เอกสารให้วุฒิสภา เพื่อใช้ประกอบการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 แบบไม่ลงมติวันที่ 25 มีนาคมว่า ตนมายื่นหนังสือ เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กรณีมีผู้เลี้ยงหมูยื่นถวายฎีกา
ทั้งนี้ กรณีหมูเถื่อนถ้าจำได้รมว.เกษตรฯระบุเมื่อเดือนธันวาคม 2566 จะเปิดเผยชื่อรัฐมนตรีที่อยู่เบื้องหลังค้าหมูเถื่อน หรือบริษัทใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามรายชื่อดังกล่าวรมว.เกษตรฯ กลับตอบว่าไม่สามารถเปิดชื่อได้ เพราะกลัวถูกฟ้อง จากนั้นมีผู้ค้าหมูรายย่อยไปยื่นถวายฎีกา เพื่อขอให้มีการแก้ราคาหมูและอาหารสัตว์
พุ่งเป้าซักฟอก“ธรรมนัส”-ก.เกษตรฯ
นายสนธิญากล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 คือ กรณีชาวประมงประมาณ 22 จังหวัดติดชายทะเล จะยื่นให้นายกฯแก้ราคาสัตว์น้ำ หรือการนำเข้าสัตว์น้ำ ประเด็นที่ 3 กรณีสปก 4-01 ทับที่ป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติ 142 แห่ง หรือมรดกโลก 3 แห่ง ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ยื่นต่อศาลปกครองกลาง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยให้ชะลอหรือยุติกรณีกระทรวงเกษตรฯ จะออกสปก. ออกครุฑเขียวให้ประชาชนจนกว่า จะเคลียร์ปัญหาระหว่างหน่วยงาน ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เรียบร้อยก่อน รวมถึงประเด็นไฟไหม้ที่กระทรวงเกษตรฯ และประเด็นสุดท้าย เรื่องการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับนายศรีสุวรรณ จรรยา และพวก เกี่ยวกับกรณีการเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว หรือหลายกรมในกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่ทราบว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นจริงหรือเท็จอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าข้อมูลดังกล่าวจะส่งต่อไปยังเวทีซักฟอกของส.ส.ด้วยหรือไม่ นายสนธิญากล่าวว่า ตนไม่มั่นใจว่าส.ส.ฝ่ายค้าน ยังทำงานเต็มกำลังหรือไม่ ประเด็นนี้วุฒิสภาน่าจะฝากลายมือก่อนครบวาระดำรงตำแหน่ง เข้าใจว่าสว.บางท่านไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีเป้าหมายเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ จากการติดตามการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีปัญหามากที่สุดคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ปัดรับงานมาตีหัวใคร-แจงชัดก็อยู่ต่อ
ถามว่ายังยืนยันใช่หรือไม่ว่าไม่ได้รับงานมาตีกระทรวงฯ นายสนธิญากล่าวว่า อย่างที่รู้กันรัฐมนตรีฯ มีเครือข่ายค่อนข้างมาก แล้วถ้าตนรับงานก็ไม่รู้จะรับงานจากใคร แล้วตนจะได้ผลประโยชน์อะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ กรณีของประชาชนไม่ว่าจะสมาคมประมง และหลายๆ ส่วนที่ส่งข้อมูลมา วันนี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะให้นายกฯและรมว.เกษตรฯทำความกระจ่างให้ประชาชน ถ้าตอบได้กระจ่างก็ดำรงตำแหน่งต่อไปได้ แต่เมื่อใดไม่สามารถตอบได้ เข้าใจว่านายกฯก็คงเปลี่ยนตัวท่าน ให้คนอื่นเข้าไปทำงานแทน
‘อิ๊งค์’ทำใจสว.อภิปรายไม่พ้นปม“ทักษิณ’
ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายแบบไม่ลงมติของส.ว.ตามมาตรา 153 ในวันที่ 25 มีนาคม จะมีการนำเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาอภิปรายด้วยว่า ก็อาจไม่พลาด ไม่เป็นไร ทุกเรื่องตอบได้แน่นอน ส่วนการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ของนายทักษิณและครอบครัวว่า หลังกลับจากเชียงใหม่ ทุกคนเป็นไข้หวัดหมดเลย เพราะมีเรื่องฝุ่นควัน โดยลูกสาวและลูกชายก็ป่วยเป็นโควิด ตนพยายามไม่ให้ติดโควิดตอนนี้ สำหรับคุณพ่อโอเค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี