กังขา‘สว.’! เศรษฐาลุกโต้ทุกดอก เหน็บ 8 ปีก่อนไม่เห็นมีอภิปราย ลั่นจำเป็นต้องออนทัวร์
25 มีนาคม 2567 เวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงในการประชุมวุฒิสภา พิจารณาญัตติด่วนขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า รัฐบาลชุดนี้ รัฐมนตรีทุกคนให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะตามรัฐธรรมนูญ ที่รัฐบาลเพิ่งมารับฟัง มาตอบ ยินดีมาตอบด้วยความเต็มใจ ไม่เคยคิดว่า เหตุใด 8ปี ไม่เคยเรียกอภิปรายในมาตรานี้ แต่รัฐบาลนี้มาแค่ 7เดือน กลับเรียกมา เราทราบหน้าที่ดีว่าต้องทำตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด ไม่เคยน้อยใจที่ต้องมาทำงาน มาตอบให้ทุกคนมีความกระจ่าง
ส่วนกรณีการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง เป็นเรื่องความจำเป็น เช่น ประชุมอาเซียน หรือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผู้นำใหม่ต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ลาว ตนให้ความตระหนักดีถึงการใช้เวลาบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันสามารถใช้เทคโนโลยีบริหารราชการ ติดต่อครม. ข้าราชการ โดยไม่จำเป็นต้องเจอกันตัวต่อตัว ส่วนเรื่องฝุ่น แม้ยังมีอยู่ แต่ลดลง30-70% แล้วแต่พื้นที่ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างการเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ครั้งล่าสุดก่อนการประชุมครม.สัญจร จ.พะเยา ที่บอกว่าตนไปทานไวน์นั้น ยืนยันว่าไม่ได้ทานไวน์ เพราะไม่สบาย อาจจะสับสนเรื่องการตั้งแก้ว แต่ตนไม่ได้ทาน ตนให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนเรื่องงบประมาณที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯ ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ข้อแก้ตัว ในการไม่ช่วยเหลือประชาชน แต่นโยบายหลักรัฐบาลทั้งเรื่องการพักหนี้เกษตรกร นโยบายวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่พึ่งงบประมาณ การช่วยเหลือเกษตรกรเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือดูแล อย่างราคายางพาราที่สูงขึ้นเกือบกิโลกรัมละ 100บาท มาจากการที่รัฐบาลไปเปิดตลาดใหม่ การเข้มงวดการนำเข้า ทำให้ยางในประเทศมีราคาสูงขึ้น เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศนั้น รัฐบาลที่แล้วก็ทำงานไปบ้าง เรื่องใดทำงานมาดี เราก็ทำต่อ ไม่ได้ปัดตกทุกเรื่อง แต่การลงทุนเป็นแสนล้านบาท ต้องใช้เวลามากกว่า 7 เดือนในการตกลง
ทั้งนี้ ในวันที่ 26 มี.ค. บีโอไอจะแถลงให้ทราบถึงความคืบหน้าในการไปเจรจาการลงทุน แม้งบประมาณยังไม่ได้ออกมา แต่ไม่ใช่ข้ออ้างการไม่ช่วยเหลือประชาชน แต่งบประมาณถือเป็นขีดจำกัดตัวหนึ่งทำให้ไม่สามารถผลักดันได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่เป็นนโยบายใหญ่นั้น จะต้องฟังความเห็นทุกภาคส่วนมาประกอบ เพื่อให้ได้นโยบายดีที่สุด ในวันที่ 26มี.ค. รมช.คลังจะแถลงถึงไทม์ไลน์การได้เห็นนโยบายตัวนี้อย่างเป็นรูปธรรม
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบที่สว.บอกยังไม่จบ เห็นด้วยว่า ยังไม่จบ คนที่ไปกู้หนี้นอกระบบมีความลังเลไม่อยากมาเคลียร์ ทราบดีถึงปัญหานี้ จึงกำชับตำรวจไม่ให้คอยนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอให้ประชาชนมาแจ้ง แต่เป็นหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคงต้องลงพื้นที่ ไปเรียกร้องให้ประชาชนมาแจ้ง เพื่อไม่ให้ถูกอำนาจมืดคุกคาม ทราบถึงอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลจึงให้ความสำคัญ มีการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เฉพาะฝ่ายปกครอง แต่ให้ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องกระแสเงินสด การรีไฟแนนซ์ มีความคืบหน้า ตนรับฟัง และเห็นด้วยที่ปัญหาไม่ได้ถูกแก้อย่างบูรณาการ แต่อย่างน้อย 7เดือนก็มีความคืบหน้าเรื่องการบริหารจัดการ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี