“จุลพันธ์”ยัน“ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์”ไม่เป็นหมัน แค่เลื่อนออกไป สุดท้ายหากวนเข้าพิจารณาก็มั่นใจว่าเสียงรัฐบาลมีมากพอ ด้าน“ภูมิธรรม”พูดชัด บอกสิ่งที่รัฐบาลทำมาไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแน่ ขณะที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรสว.จับพิรุธรัฐบาลเร่งตั้ง “กาสิโนถูกกฎหมาย”เข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ขู่เจอยื่นศาลรธน. หากมีการเสนอร่างกฎหมาย ตะเพิดถอนกฎหมายออกจากวาระ แล้วค่อยเสนอมาใหม่ หากรอบหน้าได้กลับมา
เมื่อวันที่ 26มิถุนายน2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน ว่า ยังไม่ได้กำหนด ที่จริงแล้วหากถามอาจตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่วิปต้องตัดสินใจ ซึ่งมีการพิจารณาผ่านทางวิป และเราก็ต้องเคารพ โดยนำนางมณพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อยู่ในวิปรัฐบาล ดังนั้น เมื่อมีการตัดสินใจในการเลื่อนออกไป เราก็ยอมรับ ซึ่งก็เป็นการดี จะได้มีเวลาในการชี้แจง
เมื่อถามว่า ร่างกฎหมายจะกลายเป็นหมันหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อาจจะต้องมีการพูดคุยสื่อสารกันให้มากขึ้น คงไม่เป็นหมันอยู่แล้ว เพราะกฎหมายยังคงอยู่ในขั้นตอนของสภา การเลื่อนระเบียบวาระ ตนเองตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มีกำหนด เมื่อมีการเลื่อนระเบียบวาระ ก็จะได้เห็นอีกครั้งว่าเลื่อนไปอยู่ตรงจุดไหนในระเบียบวาระ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องเข้าอยู่ดี แต่จะเข้าเมื่อไหร่ หากเวลานั้นมาถึง ก็มีความมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับในสภา และลงมติผ่าน
เมื่อถามว่าเสียงพรรคร่วมรัฐบาลเพียงพอในวาระรับหลักการหรือไม่ เนื่องจากพรรคประชาชาติ ประกาศจะไม่รับ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราต้องมั่นใจ หากจะเอาเข้า วันนี้นายกรัฐมนตรีก็เดินหน้าในการฟอร์มรัฐบาล อิ๊งค์2เมื่อมีการจัดตั้ง ครม.ขึ้นมา เราก็มีความมั่นใจว่าเรามีเสียงเพียงพอข้างมากในสภา จึงจะสามารถเดินหน้ากฎหมายต่างๆ ได้ แน่นอนว่ากฎหมายแต่ละฉบับอาจมีความแตกต่างกัน ซึ่งคงต้องพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน หากมีการลงมติจริง เราก็เชื่อมั่นว่า เสียงเรามีมากเพียงพออยู่แล้ว เกินครึ่งไปเยอะพอสมควร เพียงพอต่อการเดินหน้ากฎหมายใดๆก็ตาม
ทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไป เพราะไม่มั่นใจในเสียงรัฐบาลใช่หรือไม่ว่า นั่นเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ จะเลื่อนขึ้นหรือลง ก็มีเหตุผลของเขาในการเสนอให้สภาพิจารณา ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร เมื่อส่งไปสภาแล้วก็ถือว่าขั้นตอนของรัฐบาลจบแล้ว อย่าไปมองผสมปนเปจนแยกบทบาทไม่ออก และเกิดความสับสน เสนอข่าวได้แต่อาจจะไม่ตรงข้อเท็จจริง
เมื่อถามยํ้าว่า ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลทำมา เราก็ต้องยืนยันเหมือนเดิม จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้อย่างไร
ที่รัฐสภา นายวีระพันธ์ สุวรรณามัย สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แถลงถึงผลการพิจารณาศึกษานโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาลว่า จากที่กมธ.ศึกษาและเชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลช่วง 2เดือนที่ผ่านมา พบข้อสังเกต ข้อพิรุธมากมาย หากเดินหน้าเสนอกฎหมายดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อประเทศ กมธ.มีข้อกังวลคือ 1.การทำผิดรัฐธรรมนญหลายมาตราได้แก่ มาตรา3 วรรค2 มาตรา58 มาตรา63 มาตรา65 ในกมธ.มีการเสนอหลายครั้งว่า หากจะเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จะต้องใช้คำว่ากาสิโนลงไปด้วยให้ชัดเจน หากไม่มีอาจผิดเชิงนโยบาย เพราะการแถลงนโยบายของรัฐบาลบอกแค่จะเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ไม่มีกาสิโน และคำว่ากาสิโนเกิดขึ้นภายหลัง อาจเข้าข่ายผิดยุทธศาสตร์ชาติด้วย มีความเป็นไปได้ว่า หากมีการเสนอร่างกฎหมายนี้เข้า อาจมีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวผิดรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา 2.ด้านเศรษฐกิจ ได้เชิญสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาให้ข้อมูลยืนยันการมีกาสิโนไม่ช่วยให้จีดีพีประเทศเพิ่มขึ้น ขณะนี้ธุรกิจการพนันเป็นขาลง แต่ประเทศไทยกำลังจะดำเนินการธุรกิจขาลง จะได้ไม่คุ้มเสีย รายได้ของธุรกิกาสิโนตกอยู่ที่นายทุน ไม่ได้ตกกับรัฐ มีแนวโน้มเงินรั่วไหลออกไป
3.ด้านสังคม การระบุว่าการตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย จะแก้ปัญหาการธุรกิจใต้ดินได้ แปลว่าคนไทยต้องเล่น แต่รัฐบาลอ้างว่า จะให้คนมีเงินฝากมากกว่า 50ล้านบาท เข้าไปเล่นกาสิโนได้ แต่ประเทศไทย คนที่มีเงินฝากมากกว่า 50ล้านบาท มีแค่ 10,000คน จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนหมื่นคนจะเข้าไปเล่นทั้งหมด ทั้งนี้กมธ.พบข้อพิรุธการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้คือ มีความเร่งรีบผิดปกติผลักดันกฎหมายเข้าสภา แม้จะมีข่าวจะเลื่อนร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เมื่อเปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 3ก.ค. แต่ไม่แน่ใจ จะเลื่อนจริงหรือไม่ ทางที่ดีควรถอนออกไปเลย หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลค่อยเสนอร่างกฎหมายตัวนี้กลับเข้าอยู่ในนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง
อีกทั้งกฎหมายนี้ออกแบบให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจล้นฟ้า ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจอนุมัติทุกขั้นตอน ทั้งจำนวนเงินสถานที่ตั้ง ค่าธรรมเนียม ขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ และให้ยกเว้นกฎหมายสำคัญเช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายผังเมือง กฎหมายการมีส่วนร่วม ที่เป็นกลไกหลักตรวจสอบสิทธิมนุษยชนและชุมชน รวมทั้งไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อการจัดตั้งสถานที่
“แม้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่า ยังไม่มีการกำหนดสถานที่ตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่เอกชนที่มีแนวโน้มจะมาลงทุนธุรกิจนี้ต่างทราบแล้วว่า จะมีสถานที่ตั้งอยู่กทม.2 แห่ง เชียงใหม่ 2แห่ง พัทยา 1แห่ง ภูเก็ต 1แห่ง มีการเก็บภาษี 17% ต้องรอดูจะเป็นจริงตามนี้หรือไม่ ถ้าเก็บภาษี 17% ถือว่าน้อยมาก ทำให้เราไปอยู่ในกลุ่มกัมพูชา ฟิลิปปินส์ที่เก็บภาษีน้อย เพราะประเทศที่เจริญแล้วอย่างมาเก๊าและญี่ปุ่นเก็บภาษี 35-40% ซึ่งเอกชนประเมินไว้แล้ว หากมีคนไทยมาเล่นน้อยกว่า 50% ก็ไม่คุ้มที่จะลงทุนตัวเลขเหล่านี้เอกชนได้อย่างไร ถ้าไม่ได้มาจากคนกำหนดนโยบาย” นายวีระพันธ์ กล่าว
นายวีระพันธ์ กล่าวด้วยว่า กมธ.มีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลคือ รัฐบาลไม่ทำตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายคือ ไม่รับฟังความคิดเห็น สร้างความเข้าใจกับประชาชน การกำหนดพื้นที่เพื่อศึกษาผลกระทบในทุกมิติ การไม่พิจารณากฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน แต่กลับไปเขียนร่างกฎหมายก่อน ถือเป็นการเร่งรีบ ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่า ได้ทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นประชาชนแล้ว พบว่า มีคนเห็นด้วย80%นั้น การทำประชาพิจารณ์กับประชามติเป็นคนละเรื่องกัน การทำประชาพิจารณ์ไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขได้ดังนั้นตัวเลขดังกล่าว รัฐบาลกำลังทำให้ประชาชนเข้าใจผิด โดยกมธ.จะนำข้อเสนอ ข้อสังเกต และข้อพิรุธต่างๆเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาในวันที่ 7ก.ค.นี้ ทันทีที่เปิดประชุมสภาฯรอบใหม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี