คลังเปิด3แนวทางทมาเงินดิจิทัล
รบ.เคาะ10เม.ย.
นายกฯลั่นให้คอยฟังข่าวดี
ย้ำรัฐบาลพร้อมเดินหน้าต่อ
อ้างศก.มีปัญหา10ปีจีดีพีโตต่ำ
ไตรมาส4เงินถึงมือประชาชน
นายกฯนั่งหัวโต๊ะถกแจกเงิน 1 หมื่นผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ชี้ถกกันครึ่งชั่วโมงทุกภาคส่วนเห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด รัฐบาลพร้อมเดินหน้าเต็มสูบ สั่งก.คลัง-สำนักงบฯพิจารณาหาแหล่งเงินยันดำเนินโครงการตามรัฐธรรมนูญ-กระบวนการต้องเป็นไปตามกฎหมาย ระบุ 10 เม.ย.ได้ข้อสรุปทั้งหมด ขอให้ประชาชนรอฟังข่าวดี ด้านปลัดคลังเปิด 3 แนวทาง ‘แหล่งเงินดิจิทัลวอลเล็ต’ “ใช้งบประจำ - ปรับกรอบงบฯ68 –อาจใช้งบฯผสมเงินกู้” รอหารือสำนักงบฯก่อนสรุป ก่อนเสนอที่ประชุมใหญ่อีกรอบ 10 เม.ย. ‘จุลพันธ์’เผยเลือก 10 เมย.เป็นวันมงคล ปชช.ได้เที่ยวสงกรานต์สนุก
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567
นายกฯถามหาผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าวาระ นายกฯได้มองหาและสอบถามว่า “ท่านผู้ว่า (นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ติดภารกิจหรือครับ” โดยนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินตอบว่า “ท่านผู้ว่าฯติดภารกิจไปต่างประเทศ”
ย้ำศก.ไทยโตต่ำ-แจก1หมื่นจำเป็น
จากนั้นนายกฯกล่าวปิดประชุมตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาการเจริญเติบโตต่ำกว่าศักยภาพเป็นเวลานาน และเผชิญปัญหาภายในและภายนอก รวมถึงการฟื้นตัวของรายได้ของประชาชนที่ไม่เท่ากันหลังสถานการณ์โควิด-19 และภาระดอกเบี้ยที่ยังสูงตลอดเวลา ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ตนขอเน้นย้ำโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตนี้ เป็นหนึ่งในมาตรการระยะสั้นที่จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่นผ่านประชาชน ผู้ได้รับสิทธิ์และผู้ประกอบการร้านค้า
ดังนั้น การดำเนินงานในขอบเขตที่มีเงื่อนไขเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจปัจจุบันย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และช่วยดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น จากที่กล่าวมาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงควรถูกขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว นอกจากนี้ คณะทำงานรวบรวมข้อมูลความเห็นข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะทุกภาคส่วนได้ตั้งขึ้นแล้ว อยู่ระหว่างรอหน่วยงานต่างๆให้ความเห็นกลับมา ก็ขอให้การดำเนินโครงการนี้คำนึงถึงความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน
นายกฯกล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะดำเนินโครงการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กระบวนการต่างๆต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบต่างๆด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ ที่สำคัญการใช้อำนาจดำเนินการโครงการนี้ ต้องซื่อสัตย์สุจริต รอบคอบ ระมัดระวัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน ตลอดจนรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ อย่างเคร่งครัด
10เมย.ได้ข้อสรุปทั้งหมด
หลังประชุมนายกฯแถลงผลหารือว่า ที่ประชุมดิจิทัลวอลเล็ตวันนี้รับทราบว่า เศรษฐกิจมีปัญหา จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการเติบโตต่ำของจีดีพีมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเติบโตสูงกว่าเราเป็นเท่าตัว กระทรวงการคลังเสนอความเป็นไปได้ของแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากออกพระราชบัญญัติเงินกู้ ได้มอบให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ไปดำเนินการ และรายงานที่ประชุมใหญ่วันที่ 10 เมษายน
นอกจากนี้ มอบให้กระทรวงพาณิชย์สรุปหลักเกณฑ์ร้านค้าและสินค้า รายงานที่ประชุมวันที่ 10 เมษายนเช่นกัน พร้อมมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และบอร์ดรัฐบาลดิจิทัลสรุปการพัฒนาระบบและการจัดทำในลักษณะเปิด หรือ Open loop เพื่อให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกระเป๋าเงินเข้าร่วมโครงการ รายงานที่ประชุมวันที่ 10 เมษายน รวมทั้งมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วางกรอบการตรวจสอบ วินิจฉัยร้องทุกข์กล่าวโทษ และการเรียกเงินคืน รายงานที่ประชุมวันที่ 10 เมษายน
“วันที่ 10 เมษายนจะได้ข้อสรุปทั้งหมด และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนเมษายน ยืนยันกรอบไทม์ไลน์ตามที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังแถลง โดย 1.ไตรมาสที่ 3 ลงทะเบียนร้านค้าและประชาชน 2.ไตรมาสที่ 4 เงินถึงมือประชาชน” นายกฯ ระบุ
ที่ประชุมเห็นพ้อง-รอฟังข่าวดี10เมย.
และว่า วันนี้ประชุมกันประมาณครึ่งชั่วโมง ทุกภาคส่วนเห็นด้วยหมด ไม่ว่าเป็นเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นด้วยในขั้นตอนทั้งหมด ฉะนั้นเดี๋ยวคอยฟังข่าวดีวันที่ 10 เมษายน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมดังกล่าว นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม เนื่องจากติดภารกิจ แต่ได้มอบนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาเข้าร่วมการประชุมแทน
เปิด3แนวทางงบฯแจก1หมื่น
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล10,000 บาทว่า ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณไปหาข้อสรุปเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้ที่มีวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท ขณะนี้มี 3 แนวทางที่เป็นไปได้ดังนี้ แนวทางแรกคือ ใช้เงินกู้ อย่างเดียว ซึ่งเป็นแนวทางเดิมที่หารือมาก่อนหน้านี้ แนวทางที่สองคือ ใช้งบประมาณ ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องใช้โครงการนี้กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็สามารถที่จะดำเนินการได้โดยอาจปรับเปลี่ยนวงเงินในการจัดทำงบประมาณปี 2568 ซึ่งเงื่อนไขตรงนี้ที่ผ่านมาไม่มีมาก่อน แต่ขณะนี้มีทางเลือกใช้งบประมาณ 2568 ในโครงการนี้เป็นทางเลือกเพิ่มเติม ขณะที่งบประมาณปี 2567 จะมาช่วยโครงการนี้ด้วยหรือไม่ ต้องหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง และแนวทางที่ 3 คือ ใช้ผสมกันระหว่างเงินกู้กับเงินงบประมาณ ซึ่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจทำได้ ถ้ามีความเหมาะสม
“วันนี้สถานการณ์ปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา ก็ต้องมาดูความเหมาะสมว่าแหล่งเงินใดเหมาะสมในสถานการณ์ขณะนี้มากที่สุด ซึ่งทั้งหมดจะชัดเจนวันที่ 10 เมษายน และจะแถลงให้ประชาชนทราบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง” นายลวรณ กล่าว
รบ.ยันเดินหน้า-ตัวแทนธปท.เห็นชอบ
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังเปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ผู้ว่าฯธปท.ไม่ได้เข้า แต่เป็นตัวแทนมาประชุม ซึ่งได้รับฟังสิ่งที่มีการเสนอ มีการพิจารณา และให้ความเห็นชอบกับสิ่งที่เราดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาผู้ว่าฯธปท. กลับไปศึกษาข้อมูลต่างๆ ถึงวันนี้ความเห็นยังเหมือนเดิมหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ครั้งที่แล้วที่ผู้ว่าฯธปท.มา และกราบเรียนว่าอยากนำเอกสารความเห็นของ ป.ป.ช. และกฤษฎีกาไปศึกษาอย่างละเอียด ฝ่ายเลขานุการเตรียมเอกสารและส่งมอบไปแล้ว ท่านก็ศึกษาโดยละเอียด แต่ในการประชุมครั้งนี้ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดเหล่านี้ มีเพียงนำรายงานฉบับจริงของป.ป.ช.เข้ามารับทราบในที่ประชุม ก็ไม่มีการแสดงความเห็นในประเด็นนี้ ทุกคนก็ศึกษาโดยละเอียดครบถ้วน
ถามว่าวันที่ 10 เมษายน ไม่ว่าผู้ว่าฯธปท.จะมีความเห็นอย่างไรรัฐบาลจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราเดินหน้าอยู่แล้ว รับฟังความคิดเห็นทุกคน ทุกฝ่าย เราไม่ปัดความเห็นใดๆ และที่ประชุมครั้งนี้ก็ชัดเจน เราจะเดินหน้า ขอให้ประชาชนรอรับฟังข่าวดีวันที่ 10 เมษายน
แหล่งเงินยังเป็นการบ้าน10เมย.ชัดเจน
นายลวรณกล่าวเสริมว่า วันที่ 10 เมษายนรายละเอียดจะครบ วันนี้ทุกกหน่วยงานไปทำการบ้าน ตนเชื่อว่า วันที่ 10 เมษายนจะมีความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้เบื้องต้น แหล่งเงินที่จะมาใช้โครงการนี้ ส่วนหนึ่งอยู่ในงบปี 2568 ใช่หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า วันนี้ได้มอบหมายกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณไปดูร่วมกัน
เมื่อถามว่า ข้อมูลล่าสุดวันนี้ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องกู้เงินทั้งหมดก้อนเดียว 5 แสนล้านบาทใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันประเด็นนี้ ส่วนการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทนั้น จะจ่ายครั้งเดียวเลยหรือไม่ ให้รอดูรายละเอียดวันที่ 10 เมษายน ขณะที่นายลวรณกล่าวเสริมว่า ยังเป็นการบ้านอยู่
แจงเลือก10เมย.เพราะวันมงคล
ผู้สื่อข่าวถามปลัดกระทรวงการคลังในฐานะฝ่ายปฏิบัติ มีอะไรกังวลหรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า จริงๆ เรามีพัฒนาการมาตลอดในโครงการนี้ แต่อาจไม่เร็วทันใจ เพราะเรารับฟังข้อคิดเห็น ข้อท้วงติง ข้อแนะนำ นำไปปรับตลอดเวลา ตนเชื่อว่า วันนี้สิ่งที่ออกมาจะเป็นโครงการที่สมบูรณ์ ตอบโจทย์ข้อกังวลของทุกภาคส่วน
ถามว่า ทำไมถึงเลือกวันที่ 10 เมษายนให้เป็นข่าวดี นายจุลพันธ์กล่าวทันทีว่า เป็นวันมงคล ขณะที่นายลวรณ กล่าวเสริมว่า เพื่อให้ประชาชนไปเที่ยวในช่วงสงกรานต์อย่างมีความสุข
กกต.ไม่มีอำนาจทักท้วงเงินดิจิทัล
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งท้วงติงกกต.ทำไมถึงปล่อยปละนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ตออกมาได้ว่า ตนเคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง สิ่งที่เราทำได้ อยากจะให้ดูที่มาตรา 57 ของพ.ร.ป.พรรค การเมือง ซึ่งกำหนดหน้าที่สำหรับพรรคการเมืองและกกต.ไว้ หน้าที่พรรคการเมืองคือ กำหนดนโยบายที่จะใช้โฆษณา ประกาศ ให้พรรคการเมืองคำนึงถึงความเห็นของตัวแทนพรรคการ เมือง นโยบายใดที่ต้องใช้เงิน ต้องมีรายการค่าใช้จ่าย วงเงิน ประโยชน์ ความคุ้มค่า ความเสี่ยง ผลกระทบ หากส่งข้อมูลไม่ครบตามรายการเหล่านี้ กกต.มีหน้าที่บอกให้ส่งให้ครบได้ แต่กฎหมายไม่ได้บอกว่าให้ กกต.มีอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ
จุรินทร์หยันซื้อเวลาที่มาเงินไม่ชัด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลจะชี้แจงวันที่ 10 เมษายนว่า ตนคิดว่าคนไทยรอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาจนชินแล้ว ยืนรอจน สแตนด์ชินแล้ว เพราะวันนี้ยังซื้อเวลาอยู่ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม และยังติดคำถามเดิมที่ยังไม่มีคำตอบจนวันนี้คือ จะเอาเงินมาจากไหน ถึงทุกวันนี้ยังไม่กล้ายืนยันว่าจะกู้หรือไม่กู้ ความจริงนายกฯไม่ควรหงุดหงิดที่ถูกถามเรื่องนี้ เพราะเป็นคำถามโครงการเรื่องสำคัญ โครงการนี้จะทำไม่ได้ถ้าไม่มีเงิน เพราะจะเอาเงินไปแจก เพราะตรงนี้เป็นคำถามใหญ่ที่รัฐบาลต้องตอบว่าเอาเงินมาจากไหน
ก.ก.จับตารบ.ใช้วิธีทยอยจ่าย
มีความเห็นจากนายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.พรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีรัฐบาลแถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ที่รัฐบาลบอกจะแจกเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดือนตุลาคมครบคนละ 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน แต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะนำเงินมาจากที่ใด โดยหากจะแจกจริง ก็คาดว่ารัฐบาลคงนำเงินรายจ่ายในโครงการไปใส่ไว้ในงบประมาณรายจ่าย ปี 2568 ที่จะเริ่มจ่ายเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นการเริ่มปีงบประมาณพอดี แต่เงินจำนวนมากเช่นนี้คงจะใส่ในงบประมาณรายจ่ายปีเดียวไม่ได้ คงต้องทยอยใส่ในปีงบประมาณต่อๆไปจนกว่าจะครบ ทั้งนี้ หากรัฐบาลจะหาเงินโดยวิธีออกพ.ร.ก.ก็จะไม่เข้าเงื่อนไขการออก พ.ร.ก. ตามรัฐธรรมนูญ หากรัฐบาลจะหาเงินโดยการออก พ.ร.บ.เงินกู้ตามมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 เพราะหากสภาวะทางเศรษฐกิจของไทยทรงตัวในสภาพนี้ ที่ไม่ใช่วิกฤต จะไม่เข้าเงื่อนไขตามมาตราดังกล่าวในการเสนอ พ.ร.บ.เงินกู้ ทั้งนี้ หวังว่ารัฐบาลจะสามารถทำได้หลังจากที่เลื่อนมาหลายครั้ง และขอให้ประชาชนทำใจว่าการรับเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากทำได้ก็อาจไม่ได้รับเงินทีเดียว 10,000 บาท และคงไม่ได้รับเงินครบ 50 ล้านคน
ลงเรือลำเดียวกันต้องดันให้สำเร็จ
นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายของรัฐบาลไปแล้ว ฉะนั้นคนที่อยู่ในองคาพยพก็ต้องเดินหน้าไปตามนโยบายรัฐบาล แน่นอนว่าพรรคภูมิใจไทยต้องเดินหน้าไปตามนโยบายของรัฐบาล แต่ในปี 2567 ยังติดขัดเรื่องงบประมาณที่ยังไม่สามารถเอาไปใช้ได้ ดังนั้น ก็อาจต้องหาช่องทางอื่น เชื่อว่าขณะนี้รัฐบาล กระทรวงการคลังกำลังหาช่องทางนำเงินมาดำเนินนโยบายนี้ได้อย่างไร ตนคิดว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อเป็นนโยบายรัฐบาลก็จำเป็นต้องร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ หากไม่มีอะไรที่หนักหนาสาหัสหรือผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่ผิดกฎหมาย ส่วนความเห็นฝ่ายค้าน หรือพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยก็ว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี