‘เศรษฐา’ยันรบ.314เสียงแน่นปึ้ก
สยบข่าวปรับครม.
ยึดปชช.เป็นที่ตั้งลุยทำงานเต็มที่
‘เพื่อไทย’ดักคอฉะฝ่ายค้าน
ซักฟอกก้าวไม่พ้น‘ทักษิณ’
“เศรษฐา” สยบ! กระแสปรับครม. ลั่น “ข่าวลือก็จบที่ข่าวลือ” ยัน 314 เสียงแข็งแกร่งความสามัคคีไม่ต้องเติมปชป.ยึดปชช.เป็นที่ตั้ง-ทำงานให้เต็มที่ บอกใจเขาใจเราหวั่นรมต.หลุดโฟกัสทำงานแย้มหลักเกณฑ์ปรับครม.ถ้ารมต.ทำงานไร้ประสิทธิภาพก็ต้องพิจารณา นายกฯยัน 10 เมษายนนี้ชัดเจนเงินดิจิทัล“ภูมิธรรม”ชี้ดึงปชป.ข่าวโคมลอยย้ำ 314 เสียง ยังทำงานได้ดี ด้านพรรคร่วมรัฐบาลประสานเสียงยันนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม.‘เพื่อไทย’จวก‘ฝ่ายค้าน’ก้าวไม่ข้าม‘ทักษิณ’อย่าซักฟอกเพื่อสะใจ ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน ย้ำ ควรอภิปรายบริหารแผ่นดิน ย้ำพร้อมรับฟัง นำไปปรับปรุงแก้ไข
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 2 เมษายน 2567ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งนี้ มีรายงานว่าในวันนี้มีรัฐมนตรีแจ้งลาการประชุมครม.3คน ได้แก่ 1.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน 2.นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทยและ 3.นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ
‘เศรษฐา’สยบข่าวปรับครม.
เวลา 11.20 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม.ถึงกระแสข่าวลือการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกรัฐมนตรี ยิ้มก่อนจะบอกว่า“ข่าวลือก็จบที่ข่าวลือ”
เมื่อถามว่าแต่มีข่าวถึงขั้นว่าจะดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า “ไม่เคยมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ผมเรียนแล้วว่า 314 เสียง ก็แข็งแกร่งพอแล้ว เรามีความสามัคคี พูดจากันรู้เรื่องอยู่แล้วและเรื่องร่วมกันทำงานอยู่แล้วอีกทั้งงบประมาณ ยังไม่ออกเลยวันนี้ในที่ประชุมครม.ก็มีการพูดคุยกันถึงการใช้งบประมาณขับเคลื่อนประเทศโดยการใช้งบประมาณซึ่งวันนี้ได้มีการสั่งการไปแล้ว ซึ่งก็มีการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี2567ไปแล้วก็ต้องมีการทำงานอย่างจริงจัง”
ชี้โควตาพปชร.-พท.ยังคงเดิม
เมื่อถามว่าสมมุติว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ยังเหลือโควตาอีก1ที่อาจจะต้องมีการขยับเขยื้อนหรือไม่ นายกฯตอบทันทีว่า“สมมุติก็คือสมมุติเพราะท่านบอกว่าสมมุติ วันนี้เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่า”
เมื่อถามย้ำว่ายังคงสัดส่วนโควตารมต.ของพรรคร่วมรัฐบาลไว้เช่นเดิมใช่หรือไม่นายกฯตอบว่า ใช่ครับ เป็นข้อตกลงที่ชัดเจนอยู่แล้วละโควตาของพรรคพลังประชารัฐก็ยังเป็นคนโควตาเดิมที่อยู่มานานแล้ว เช่นเดียวกับโควตาของพรรคเพื่อไทยก็เป็นโควตาเดิมที่มีมานานแล้ว
เมื่อถามว่าความตั้งใจของนายกฯคือต้องการให้รัฐมนตรีชุดเดิมขับเคลื่อนงบประมาณที่เพิ่งผ่านสภามาแล้วใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่าวันนี้เราจะมีการเน้นย้ำและโฟกัสการใช้งบประมาณ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการดูแลพี่น้องประชาชน
ปัดเรียกรมต.มาคุยปรับครม.
ส่วนที่มีการเรียกรองนายกฯและรัฐมนตรีเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้าเมื่อวานนี้ (1เม.ย.)ได้มีการพูดคุยเรื่องการปรับครม.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เป็นการพูดคุยเรื่องFTAมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายปานปรีย์พหิธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยมีการพูดคุยถึงFTAและ IUU
“ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีเลย ยืนยันได้เลยครับไม่มีการพูดหรือไม่แม้แต่เฉี่ยว แม้แต่นิดเดียว” นายกรัฐมนตรีย้ำ
ยึดปชช.เป็นที่ตั้ง-ทำงานให้เต็มที่
เมื่อถามว่าการวิเคราะห์หรือไม่ทำไมกระแสถึงเกิดมาในช่วงนี้เป็นการปล่อยข่าวเพื่อหยั่งเชิงหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าไม่ทราบ ไม่ได้ให้ความสำคัญด้วยเพราะต้องการให้รัฐมนตรีทุกคนได้ตั้งใจทำงาน ดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุดและเป็นเรื่องของใจเขาใจเรา หากมีกระแสไปแล้วท่านรู้ว่าท่านจะต้องถูกปรับออกไป ก็อาจจะมีความกังวลกังวล จุดโฟกัสก็จะเปลี่ยนไป เชื่อว่าเรื่องนี้เราควรเอาประชาชนเป็นที่ตั้งและควรทำงานให้เต็มที่
เมื่อถามถึงจุดยืนและหลักเกณฑ์ของนายกรัฐมนตรีถ้าจะปรับ ครม. มีอะไรบ้าง นายเศรษฐากล่าวว่า ถ้าเกิดว่าทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องมีการพิจารณาตรงนี้ เมื่อถามว่าตอนนี้อยากได้อยู่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรียิ้ม ก่อนจะตอบว่าก็ยังทำกันอยู่ครับ
ยัน10เมษานี้ชัดเจนเงินดิจิทัล
เมื่อถามกรณีมีการพูดถึงแผนการใช้จ่ายงบประมาณปี2568ซึ่งจะมีการปรับเพื่อนำเงินไปใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่นายกฯตอบว่ายังไม่ได้มีการพูด รอวันที่ 10 เมษายนและนำเข้าที่ประชุม ครม.หนเดียวดีกว่า จะได้ไม่เกิดความสับสน
ภูมิธรรมชี้ดึงปชป.ข่าวโคมลอย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม.ที่มีกระแสข่าวว่าจะมีพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาลด้วยว่า ทำไมถึงไม่ถามนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ซึ่งตนก็คิดว่าไม่มีใครรู้เป็นเรื่องบทบาทและอำนาจของนายกฯว่าจะปรับหรือไม่ปรับ เหมาะสมเมื่อไหร่ เวลาใด
“ข่าวต่างๆที่ออกมา ผมยังไม่เคยได้ยินจากนายกฯอาจจะได้ยินจากสื่อบ้างอะไรบ้างแต่ในความเป็นจริงก็ต้องดูว่านายกฯมองยังไงและเมื่อไหร่ ข่าวออกมาจากตรงไหนเป็นข่าวลือก็เป็นธรรมดาอาจจะมีความตั้งใจหรือไม่แน่ใจ พูดหรือพูดคาดการณ์ไปต่างๆก็ยังไม่เห็น ล่าสุดที่คุยกับนายกฯเมื่อวานนี้ก็ยังไม่มี”นายภูมิธรรม ย้ำ
ยัน 314 เสียง ยังทำงานได้ดี
เมื่อถามว่า 314 เสียง ของรัฐบาลยังไม่พอใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทำไมจะยังไม่พอ เพราะก็เป็นหน้าที่ของมันอยู่แล้ว ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับ ครม.ก็คนละเรื่องกัน และยังไม่รู้ว่าจะปรับหรือไม่ อย่าเพิ่งไปคิดไกล ยืนยันว่าในพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีการพูดคุยกันด้วยดี ไม่มีปัญหา
อนุทินปัดข่าวดึงปชป.ร่วมรัฐบาล
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯเมื่อช่วงเช้านี้ถึงการปรับตำแหน่งรัฐมนตรีโควตาของ นายไผ่ ลิกค์ เข้ามาว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว ส่วนการปรับ ครม.ก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีส่วนกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะมาร่วมรัฐบาลนั้น ตนไม่ทราบเลย เพราะคนที่จะเข้ามาหรือปรับอะไรก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรี
ยันนายกฯไร้ส่งสัญญาณปรับครม.
เมื่อถามย้ำว่ากังวลหรือไม่พรรคประชาธิปัตย์เข้ามาร่วมรัฐบาลแล้วจะต้องมีการเกลี่ยโควตารมต.ใหม่ นายอนุทินตอบว่ายังไม่มีเรื่องนี้ นายกฯยังไม่มีการแจ้งอะไรให้กับพรรคร่วมรัฐบาลฉะนั้น เราอย่าไปคิดอะไรล่วงหน้า
“พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้300กว่าเสียง เป็นพรรคที่โหวตให้ ท่านเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯการที่จะเอาคนที่ไม่ได้โหวตเข้ามาก็ต้องดูว่า จะทำความเป็นธรรมอย่างไงให้กับพรรคร่วมรัฐบาลที่เขาตั้งใจที่เอาท่านนายกฯเศรษฐาเข้ามาเป็นนายกฯ” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
‘พัชรวาท’ลั่นไร้สัญญาณปรับครม.
ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่ายังไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีและยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณมาแต่อย่างใด เมื่อถามว่าโควตาตำแหน่ง รมต.ที่ค้างอยู่ของนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐจะมีการส่งสัญญาณว่าจะปรับหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะมีอะไร
‘ธรรมนัส’ยันโควต้าพปชร.คงเดิม
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่าไม่ทราบและได้ยินข่าวดังกล่าว ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนทราบ เมื่อถามว่าเวลานี้เหมาะสมที่จะปรับ ครม.หรือไม่ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนโควต้าของพรรคพปชร.จะไม่มีการปรับหรือเคลื่อนไหวใช่หรือไม่รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ไม่มี มีแต่จะเพิ่มเมื่อถามอีกว่าแสดงว่าโควต้าพรรคพปชร.ยังอยู่ที่ 4 เก้าอี้เหมือนเดิมใช่หรือไม่ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เหมือนเดิม เพิ่มเติมมาอีกหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามโควต้าเดิมของพรรค ขอย้ำว่าพรรคเรารักกันเหมือนเดิม
ลุ้นคุณสมบัติ‘ไผ่ ลิกค์’พรุ่งนี้
เมื่อถามย้ำว่า ได้รับการการันตีจากนายกฯใช่หรือไม่ว่าจะได้4เก้าอี้เหมือนเดิมร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่านายกฯไม่เกี่ยว เพราะเป็นเรื่องรัฐบาลและนายกฯให้เกียรติพรรคร่วม ส่วนตำแหน่ง รมว.เกษตรฯจะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ ซึ่งต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ก่อนวันที่3เม.ย.ก็รู้เรื่อง ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่อาจมีคนของพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่าพรรคพปชร.จะเสียหนึ่งเก้าอี้ให้กับประชาธิปัตย์ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่ทราบ
‘ประเสริฐ’เตือนสติ‘ก้าวไกล’
สำหรับในการประชุมสภาพิจารณาญัตติของพรรคฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4เม.ย.นั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลออกมาตั้งหัวข้อการอภิปรายตามมาตรา152ว่า”รัฐบาลเพื่อใคร หัวใจไม่ใช่ประชาชน” ว่าคำนี้ดูเหมือนเป็นคำล้อนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่า”พรรคเพื่อไทย หัวใจเพื่อประชาชน”จึงอยากจะฝากไปบอกพรรคฝ่ายค้านว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม มาจากหลายพรรคการเมือง การอภิปรายตามมาตรา152 กำหนดให้มีการเสนอแนะแนะนำรัฐบาลเท่านั้น จึงไม่อยากให้ระบุไปถึงพรรคการเมือง
ติงซักฟอกรัฐบาลไม่ใช่พรรค
“เพราะธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ถ้าเป็นการอภิปรายผลงานรัฐบาล ไม่ใช่อภิปรายพรรคการเมืองแต่ถ้าอภิปรายนโยบายหรือแนะนำการทำงานรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง และพร้อมตอบปัญหาทุกเรื่อง”นายประเสริฐ ย้ำ
เมื่อถามว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นายประเสริฐ กล่าวว่า เขาให้อภิปรายตามหลักการและข้อบังคับ ถ้าอภิปรายนอกญัตติ ตนคิดว่ามันคงจะลำบากในการเดินหน้าอภิปราย
พท.มั่นใจพร้อมแจงทุกปัญหา
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนายประเสริฐกล่าวว่า ยอมรับว่ามีความพยายาม แต่เราไม่ได้หนักใจอะไรเพราะกรณีนายทักษิณเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายทุกอย่าง สามารถตอบคำถามได้ทุกเรื่อง ส่วนการอภิปรายครั้งนี้จะกระทบกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตนเชื่อว่าไม่กระทบความนิยมพรรคเพราะเราสามารถชี้แจงได้ถึงหลักการและเหตุผลที่ไปที่มาได้อย่างชัดเจนไม่ได้ทำอะไรผิดกติกาเลย เรื่องนี้ขอให้สบายใจได้เราพร้อมตอบทุกปัญหาในสภาฯ
รบ.พร้อมรับฟัง นำไปปรับปรุง
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหวังว่าการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152ของพรรคร่ามฝ่ายค้าน จะเป็นการอภิปรายที่เกิดประโยชน์กับประชาชน หากพยายามโยงเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมีความพยายามพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเดินทางกลับประเทศไทยว่ามีลับลมคมในมีดีลพิเศษทั้งที่เป็นการเดินทางกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายของไทย ไม่มีอะไรแอบแฝงแต่ก็จะปั่นให้เป็นประเด็น เพื่อสร้างความสับสนในหมู่ประชาชน
การอภิปรายครั้งนี้อยากให้ฝ่ายค้านพูดถึงการบริหารราชการแผ่นดินว่ารัฐบาลไม่มีฝีมืออย่างไร แล้วมีข้อเสนออย่างไร หากเป็นประโยชน์ รัฐบาลก็พร้อมรับฟัง นำไปปรับปรุงเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน อย่าไปสร้างเงื่อนไขอื่นซึ่งจะนำมาซึ่งความขัดแย้งรอบใหม่ ปัจจุบันรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน เลิกทะเลาะกัน เพราะประเทศเดินไปไม่ได้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ทั้งพันธมิตร ทั้งกปปส. และนปช. ต่างก็ถอยแล้ว เพื่อเริ่มรีสตาร์ตบ้านเมืองใหม่
ก้าวไม่ข้าม‘แม้ว’อย่าพูดเพื่อสะใจ
“พรรคการเมืองฝ่ายค้านก้าวไม่ข้ามนายทักษิณ ไม่เข้าใจเจตนาจะไปพูดเรื่องของท่านทำไม ไปกลัวอะไรกับนายทักษิณทำไมเมื่อท่านกลับมาท่านก็ทำงานของท่าน คุณก็ควรจะทำงานของคุณจะอภิปรายอะไร เสนอแนะอะไร หากมีประโยชน์กับประชาชน รัฐบาลพร้อมรับฟังนำไปปรับแก้จะเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้ประเทศชาติก็เสนอมา อย่าอภิปรายเพื่อสะใจและพูดไปเรื่อยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ไหนบอกเป็นพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่จะมุ่งพัฒนาพรรคการเมืองให้ทันสมัยขึ้น สวนทางกับการกระทำที่ผ่านมาชอบพูดย้อนอดีตพูดแต่เรื่องเดิมๆก็เท่ากับไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ไม่ต่างกับพรรคการเมืองในอดีตเลย”นายสมคิด ย้ำ
ทวี’เมินฝ่ายค้านหยิบปม‘ทักษิณ’
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติว่าไม่มีความหนักใจ การอภิปรายขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152เป็นกระทู้ใหญ่ ที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล เพราะไม่มีการลงมติว่าไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจและมีเวลาให้ฝ่ายรัฐบาลตอบคำถามได้มาก รัฐบาลเพิ่งบริหารงานมาได้ 6 เดือน อาจมีบางอย่างที่ไม่รอบด้าน หรือซุกไว้ใต้พรม ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการตรวจสอบเราต้องชี้แจง บางอย่างอาจอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หรืออยู่ในความคาดหวังของประชาชน รัฐบาลต้องสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดีต่อสังคม ซึ่งนายกฯได้ประกาศจะสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสรวมถึงเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ สิ่งเหล่านี้
ยันรมต.ทุกกระทรวงพร้อมแจง
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยตั้งทีม ส.ส.มาช่วยเรื่องข้อบังคับเพราะมองว่าอาจมีประท้วงเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในความเป็นจริง ควรปล่อยให้นายกฯ รัฐมนตรีตอบ แต่หากมีการพาดพิงเรื่องที่ผิดข้อบังคับ ก็เป็นสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ถ้าถาม ควรให้รัฐมนตรีได้ตอบ เท่าที่ทราบ รัฐมนตรีแต่ละคนพร้อมชี้แจง
‘พิเชษฐ์’นัดถกวิป3ฝ่ายกรอบเวลา
ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยว่าวันที่ 3 เมษายน เวลา 08.00น.ตนได้นัดวิป3 ฝ่ายซึ่งประกอบด้วย คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)และตัวแทนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพูดคุยเรื่องกรอบเวลากันอีกครั้ง หลังวิปรัฐบาลเสนอปรับกรอบเวลาฝ่ายค้านเหลือ18ชั่วโมง จากเดิม 22 ชั่วโมง รัฐบาล 10 ชั่วโมง จาก 6 ชั่วโมง
ย้ำอภิปรายแค่2วันคงยากเพิ่มวัน
ส่วนจะมีมาตรการในการหาข้อสรุปอย่างไรหากตกลงกันไม่ได้นั้น นายพิเชษฐกล่าวว่า ต้องรอดูว่าผลการหารือจะออกมาทิศทางไหน และหาข้อสรุป โดยจะให้เวลาตั้งแต่ 08.00–09.00 น.เพียง 1ชั่วโมงในการหาข้อสรุป ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะอย่างไร ความขัดแย้งแบบนี้ในฐานะที่ตนอยู่การเมืองมานานไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ในวันพรุ่งนี้(3เม.ย.)จะต้องมีการเริ่มอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันแรก และคงยากที่ จะมีการขยายเวลาอภิปรายต่อไปวันที่ 5 เม.ย.อีก1วัน เพราะทุกฝ่ายรับรู้และเตรียมตัวไว้แล้ว จึงจะอภิปรายเพียง 2 วันเท่านั้นคือวันที่ 3-4เมษายนนี้
ปชป.ขอหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไป ไม่ลงมติตามมาตรา 152ว่าพรรคได้เตรียมการมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ การตรวจสอบถ่วงดุลด้วยญัตติอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ฝ่ายค้านต้องนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่า7เดือนที่รัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินนั้นมีข้อบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพ เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง โกหกหลอกลวงพี่น้องประชาชน มีความสำเร็จสูงสุดอย่างเดียวของรัฐบาลคือเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งรัฐบาลอย่ากังวลจนเกินไป เตรียมคำตอบไว้เท่านั้น
ดักคอรบ.อย่ากลัวจนเกินเหตุ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่าสส.พรรคปชป.ก็ไม่กังวลว่าจะมีการประท้วง เพราะการประท้วงก็ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับ การพูดถึงกระบวนการในการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดถ้าอภิปรายไม่ได้เลยก็คงไม่ใช่ หากสส.อภิปรายกระทบบุคคลภายนอกเขาก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้วอย่ากลัวจนเกินเหตุ การอภิปรายครั้งนี้ไม่มีผลถึงขนาดลงมติแต่มติของประชาชนจะสำคัญที่สุดที่จะตัดสินและยังมีข้อมูลอีกมากที่รัฐบาลจะเจอตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เตรียมตัวไว้เลย โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีในวันนี้สส.ของพรรคจะได้มีการเตรียมอภิปราย ซึ่งจะมีการประชุมกลุ่มย่อยตลอดทั้งวัน
‘เฉลิมชัย’ก็สั่งปชป.ลุยเต็มที่
นายราเมศยังกล่าวตอบโต้นายนิพิฏฐ์อินทรสมบัติที่กล่าวหาพรรคนั้นว่าต้องบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ไม่มีหรอกที่จะแก้ผ้ารอใครเพื่อไปร่วมรัฐบาลและหัวหน้าพรรคก็สั่งลุยเต็มที่ การที่ยกเรื่องคดีตีนไก่มากล่าวหาหัวหน้าพรรคว่าคงไม่กล้าอภิปรายนั้นก็ไม่จริงเพราะคดีต่างๆนายเฉลิมชัย ศรีอ่อนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลยในฐานะพรรคไม่เคยรอเป็นอะไหล่ให้กับรัฐบาล หัวหน้าพรรคมาจากกระบวนการเลือกตั้ง ใครไม่ชอบเป็นการส่วนตัวก็ไม่เป็นไร แต่ก็ต้องให้โอกาสในการบริหารพรรคตามระบบ ผมเชื่อว่าการแสดงความเห็นใดๆ ออกมาก็ต้องระลึกถึงพรรคบ้างไม่เช่นนั้นพรรคก็จะเกิดความเสียหาย
ผบ.ทบ.ปัดตอบปมรัฐประหาร
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีนายกฯพูดถึงเรื่องรัฐประหารที่ไม่สามารถควบคุมได้ จะสามารถให้ความสบายใจกับประชาชนในเรื่องนี้ได้หรือไม่ ผบ.ทบ.ไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและบอกว่า มีภารกิจต้องไปทำต่อ
กกต.ต้อนรับ’สิทธิโชติ’กกต.ใหม่
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการการเลือกตั้งนัดประชุมประจำสัปดาห์ เพื่อเตรียมแผนการจัดการเลือกสว.ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้หลังวุฒิสภาชุดปัจจุบันครบวาระ5ปีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระได้กล่าวต้อนรับกกต.คนใหม่หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ เป็นกกต.เมื่อวันที่28 มีนาคมที่ผ่านมาเข้ามารับตำแหน่งแทน นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ที่ครบวาระเนื่องจากอายุครบ 70 ปี ตามกฎหมายกำหนด
ครบ7คนร่วมทำงานเพื่อชาติ
“ตอนนี้ถือว่าครบ7คนแล้ว หลังจากที่ตำแหน่งว่างลงไม่ครบ 7 คน ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2566 หวังจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากยิ่งขึ้น” นายอิทธิพร กล่าว
สำหรับการประชุม กกต.ดังกล่าว มี กกต.ครบทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายอิทธิพร บุญประคอง , นายปกรณ์ มหรรณพ , นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ , นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ , นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ , นายชาย นครชัย และนายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี