"นายกฯ"ประชุมหัวหน้าส่วนราชการสุราษฎร์ธานี เอกชนนำเสนอปัญหาระบบคมนาคม-ลดอัตราดอกเบี้ยแบ่งเบาผู้ประกอบการ หนุนสมุยทัวร์ริสซึมฮับ รองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น ชี้เกาะสมุยติดอันดับป๊อปปูล่าร์การท่องเที่ยว ลั่นปลายปีนี้กลับมาติดตามความคืบหน้าอีก
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางถึงที่เทศบาลนครเกาะสมุย ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP โดยมีประชาชน อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) มารอต้อนรับ พร้อมกับถือป้ายให้กำลังใจ เช่น "โหม๋เรา..ชาวสมุย Welcome นายกรัฐมนตรี" , "ปะการังงาม น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มะพร้าวเยอะ ชาวสมุย..ยินดีต้อนรับ" จากนั้น นายกฯ ได้ชิมน้ำที่ทำมาจากผักคอส ซึ่งนายกฯ บอกว่าอร่อยดี พร้อมกวนกาละแม ก่อนที่จะเซ็นชื่อบนลายผ้าเกาะสมุย
จากนั้น นายกฯ ประชุมหารือบูรณาการ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมด้วย ซึ่งการหารือในประเด็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค ประเด็นปัญหาขยะ ประเด็นเรื่องการท่องเที่ยว ประเด็นความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่สนามบินนานาชาติสมุย และประเด็นการขยายถนนรอบเกาะ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงาน
ทั้งนี้ ได้มีการนำเสนอปัญหาผลกระทบของเกาะสมุย 3 ปัญหา คือ ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำประปา และปัญหาคมนาคมในพื้นที่ โดยใน 2 ประเด็นที่จะขอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล คือ ปัญหาขยะ เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาขยะตกค้างจำนวนมากประมาณ 150,000 ตัน และเตาเผาขยะเดิมปัจจุบันใช้การไม่ได้ ซึ่งแนวทางการแก้ไขในระยะสั้น ต้องเร่งขนขยะออกจากพื้นที่ โดยจะขอสนับสนุนงบประมาณในระยะยาว ให้มีการลงทุนสร้างเตาเผาขยะใหม่ที่มีประสิทธิภาพ ส่วนปัญหาน้ำประปา ปัจจุบันน้ำประปาไม่เพียงพอ ประกอบกับแหล่งน้ำต้นทุนมีจำนวนจำกัด ประชากรเพิ่มขึ้น ดังนั้น แนวทางการแก้ไขคือซ่อมแซมโรงงานผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด โดยการขอสนับสนุนงบการลงทุนในระยะยาว เพื่อขยายท่อส่งน้ำประปา จาก จ.สุราษฎร์ธานี จึงขอให้นายกฯ พิจารณาด้วย
ขณะที่ยังมีการนำเสนอข้อเสนอจากภาคเอกชน โดยนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสมุย กล่าวว่า ในประเด็นที่ 1.มีการนำเสนอประเด็นที่ต้องการส่งเสริมให้เกาะสมุยเป็นทัวร์ลิซึ่ม ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการ และการให้สินเชื่อในภาคธุรกิจท่องเที่ยวในกลไกของรัฐ เพื่อให้สมุยเป็นทัวร์ริสซึมฮับ
นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสมุย กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ 2.การคมนาคมในพื้นที่ หากจะมีการจัดเวิลด์คลาส ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีเที่ยวบินสูงสุดทั้งเข้าและออกเพียง 50 ไฟท์ ซึ่งไม่ว่าปีไหนห้องพักขยายเพิ่มขึ้น แต่การเดินทางไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ หรือทางอากาศยังมีเท่าเดิม สำหรับการเดินทางทางน้ำไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสำราญ (มารีน่า) ในการส่งเสริมให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามา และเรื่องของท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งปัจจุบันเต็มทุกบริษัท แต่สร้างท่าเรือสำราญ ถือเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยแบ่งเบาภาระ ขณะที่ 3.เรื่องการระบบจราจร อยากให้มีการศึกษาถนนบายพาสที่มีอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งการศึกษาเรื่องของสะพานด้วย
จากนั้น นายกฯ กล่าวมอบนโยบาย ว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งมาตนมีความใกล้ชิด รมว.อุตสาหกรรม และ น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้มาบอกปัญหาให้ฟังหลายหนว่าควรจะลงมา จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช บ้าง และตนก็ทราบดีถึงการมาในวันนี้เกาะสมุยมีศักยภาพสูงมาก ทุกท่านที่อยู่ตรงนี้ ก่อนนี้ได้รับการจัดลำดับที่มีความป๊อปปูล่าร์หรือความนิยมสูงใน Top 10 ทุกครั้งที่มีการจัดระดับเมืองน่าท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ แต่อย่างที่ทราบกันดี พวกท่านให้ตนมาที่นี่มารับฟังปัญหา เพื่อที่จะแก้ปัญหาทำให้เกาะสมุยสามารถมีศักยภาพ ซึ่งตนได้ให้ KPI ไปกับ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ว่าเกาะสมุยต้องขยับไปจุด Top 10 เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก จากลำดับ Top 20 ตรงนี้ต้องทำหลายๆ อย่าง ซึ่งปัญหาแรกเรื่องขยะ เตาเผาขยะสร้างมากว่า 20 ปีแล้ว และเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีชำรุดไม่สามารถเผาขยะได้ทำให้เกิดการสะสม ในเกาะสมุยถึง 3 แสนตัน เราได้มีการบริหารจัดการ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี 150,000 ตัน เหลืออีก 150,000 ตัน ท่านบอกขอให้ใช้งบกลาง 237 ล้านบาท เพื่อขนไปทำลาย ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่เอาเป็นว่าตนรับทราบปัญหา และรับปากว่าจะจัดการให้ 150,000 ตัน จะต้องถูกบริหารจัดการไปจะด้วยวิธีการฝังหรือขนก็ตาม ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาระยะยาว จึงต้องมีการทำโรงเผาขยะ และได้พยายามพูดคุยเรื่องเทคโนโลยีปัจจุบันให้สามารถเผาขยะได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 ตันต่อวัน ซึ่งจะต้องมีการจัดการระยะยาวตรงนี้
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องน้ำประปา ต้องบอกข่าวดี เพราะน้ำที่จะทำเข้ามาอยู่ในงบปี 2568 แล้วฉะนั้นเดือน ต.ค.ปีนี้สามารถที่จะเดินท่อที่ 2 เพราะส่งน้ำประปามาได้ เริ่มดำเนินการเดือน ต.ค.ปีนี้ แต่ในระยะสั้นเข้าใจมีความจำเป็น ฉะนั้น ต้องมีการนำน้ำทะเลมาทำน้ำประปา ซึ่งใช้งบไม่กี่สิบล้านบาท ตรงนี้ก็จัดการกันไป ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 เดือนเสร็จ หรือเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นควบคู่กับการแก้ไขปัญหาระยะยาว สำหรับการสร้างถนน ได้สั่งการกรมทางหลวงไปแล้ว ต้องทำด้วยความละเอียดอ่อนและระมัดระวัง สิ่งที่จะกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งจะต้องมีการประสานกับหลายหน่วยงาน แต่ขอให้มั่นใจเราตระหนักดีอาจจะยกระดับสมุยเป็นเกาะระดับโลก ก็ต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี อย่างไรก็ตาม การขนส่งสินค้าเข้าเมืองมีปัญหา คนที่จะมาเกาะก็ยากลำบาก เพราะมีเรือมีน้อย ดังนั้น จะต้องมีการขยายเวลาเรือในการรับขนส่งให้มีมากขึ้น เพื่อให้การขนย้ายสินค้าจากเกาะเข้าเมืองได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาระยะยาวในการสร้างสะพานต้องศึกษากันต่อไป ต้องดูให้รอบคอบ คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ขอให้มั่นใจเราทุกคนทราบดีทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก อะไรก็ตามที่มาขวางเราก็พยายามจัดการและทำให้พี่น้องมีรายได้สูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
นายกฯ กล่าวต่อว่า สุดท้ายนี้เรื่องที่ภาคเอกชน เสนอลดดอกเบี้ย ตนไม่อยากพูดต่อ แต่ทุกคนทราบดีการที่ดอกเบี้ยสูงเราเดือดร้อนมากอย่างไร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยกันดูแล เพราะทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกัน การเดินทางเข้าเมืองวีซ่า การอำนวยความสะดวกในเรื่องสำคัญ ตนแถมให้ด้วยเรื่องความมั่นคง ได้ทานข้าวกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำเรื่องมาเฟีย การตรวจคนเข้าเมือง การขอขยายเวลาวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว ให้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และขอแถมในเรื่องของการท่องเที่ยว ทราบกันดีว่าสมุยเป็นเกาะติดอันดับTop 10 ของโลกทะเล หาดทรายสวย รอยยิ้มที่เป็นมิตรภาพกับนักท่องเที่ยว แต่เชื่อว่ายังมีสิ่งดีงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในเกาะสมุยอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเชิงวัฒนธรรมศาสนา จึงได้ขอร้องไปยัง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ช่วยกันทำงานให้หนักขึ้น โฆษณาให้เยอะขึ้น ให้นักท่องเที่ยวอยู่ยาวขึ้น เพื่อซึมซับวัฒนธรรมสิ่งดีๆ บนเกาะสมุย สรุป จากสิ่งที่ได้ฟัง ครบถ้วน ซึ่งทีมงานจะกลับมาดูความคืบหน้าปลายปีนี้ ทั้งนี้ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น
ด้าน นายพิพิธ รัตนรักษ์ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวขอบคุณนายกฯ ว่า วันนี้เป็นวันที่ดีใจของชาวสมุย ที่นายกฯ ให้ความสำคัญลงพื้นที่ด้วยตัวเอง มาดูปัญหาด้วยตนเอง เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาของเรารอคอยการแก้ปัญหามาหลายปี วันนี้ดีใจและอิ่มเอิบใจที่นายกฯ ให้สิ่งดีๆ ให้ขวัญและกำลังใจ และเตรียมจะมอบของขวัญปีใหม่ให้ชาวสมุย วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับสมุย เพื่อยกระดับสมุยสู่สากล
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี