‘เศรษฐา’ขอลุยงานเพื่อชีวิตปชช.ดีขึ้น
3ปีครึ่งที่เหลือ
ลั่น‘เพื่อไทย’ต้องชนะเลือกตั้ง
ทัวร์‘สมุย’โชว์ชิมแกงไตปลา
พท.โดดอุ้ม‘อุ๊งอิ๊ง’ผลงานล้น
สับฝ่ายค้าน/นักวิชาการด่วนติง
นายกฯเศรษฐา บินไปเกาะสมุย โชว์รับประทานแกงไตปลาระรื่น ทั้งโปรยยาหอมสร้างท่าเทียบเรือสำราญ บอก 3 ปีครึ่งจากนี้เร่งทำงานเพื่อให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ขณะที่สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยกอุ้งอิ้งมีผลงาน สับฝ่ายค้านนักวิชาการอย่าด่วนตำหนิ ด้าน”สามารถ เจนชัยจิตรวนิช”ชี้สัญญาณยุบก้าวไกลไม่เกิน 21 เมษายนนี้
เมื่อวันที่ 7เมษายน2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ตรวจราชการติดตามงานในภาคใต้ ปฏิบัติภารกิจแรก เวลา 10.30น. ติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ณ แหลมนิคม ต.ตลิ่งงาม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เล็งผุดท่าเทียบเรือสำราญ
เมื่อมาถึง นายกฯ เศรษฐา รับฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ จากนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการเปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน และเมื่อผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2570-2572 และเปิดให้บริการได้ในปี 2572 เพื่อเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ จะสามารถรองรับนักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี รองรับเรือ Cruise 120 เที่ยวเรือต่อปี นักท่องเที่ยวใช้จ่าย 5,000 บาทต่อคน
แนะเปิด Duty Freeด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างรับฟังบรรยายสรุป นายกฯ กล่าวแนะนำให้ ทำการเปิด Duty Free หลังจากที่ท่าเทียบเรือเสร็จเรียบร้อย เพื่อเป็นการบริการนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เกาะสมุย ทั้งภาคเกษตรและการท่องเที่ยว ทั้งนี้ หากดูจากตัวเลขเรือสำราญที่เข้ามาตอนที่สูงสุดปี 2561 ประมาณ 74 ลำ ปีนี้ไตรมาสแรกครึ่งหนึ่งแล้ว จริงๆ แล้วปีนี้น่าจะมีสถิติสูงสุด โดยพี่น้องชาวสมุยอยากให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา และในเรื่องของการทำลายธรรมชาติไม่มีใช่หรือไม่ อยากให้โครงการดังกล่าวเข้า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสิ้นปี 2567 และตั้งเป็น KPI เพื่อเป็นของขวัญให้กับชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี
จากนั้นนายกฯ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกริ่นมาแล้วอยากให้มีเรื่องของมารีน่า (ท่าเทียบเรือสำราญ) ตรงนี้น่าจะทำได้ คิดว่าควรมี ซึ่งแถวนี้มีเกาะหลายเกาะ เหมาะกับการให้นักท่องเที่ยวมาเหมือนภูเก็ต สิมิลัน และอยากให้ทำเกี่ยวกับเรื่องเครื่องบินน้ำด้วย เพื่อบินจากเกาะต่างๆ มาจุดนี้ได้ เพราะแถวนี้มีเกาะท่องเที่ยวหลายเกาะ ต้องทำให้ครบวงจร บริการนักท่องเที่ยว เป็นที่รู้จัก
แนะโปรโมทเกาะสมุย
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรีได้เดินดูพื้นที่จริงในการก่อสร้างท่าเทียบเรือ และได้ถ่ายภาพร่วมกัน พร้อมกล่าวว่า การดำเนินโครงการอะไรก็ตามขอให้ฟังเสียงพี่น้องประชาชนก่อนทุกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ก่อนพูดคุยกับ ส.ส.ในพื้นที่ และเรียกผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้ามาสั่งการ โดยนายกฯ ระบุว่า การเดินทางมาของตนในครั้งนี้ไม่ใช่การพูดลอยๆ จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน และขอให้ ส.ส.ช่วยกันโปรโมตเกาะสมุย หลังการสร้างท่าเรือแล้วควรจะเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องของวัด แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ โดยร่วมมือกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีแผนแล้วเพราะระบุว่าสมุย
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากเราจะมี Sun (พระอาทิตย์) Sea (ทะเล) และ Sand (ทราย) แล้ว ยังมีเรื่องของวัฒนธรรม ตนในฐานะนักท่องเที่ยวก็เชื่อว่าจะมีอย่างอื่นมาประกอบ เพราะเวลาคนมาเที่ยวอยากได้ท่องเที่ยวทุกๆ ด้าน ทั้งวัฒนธรรม วัดวาอาราม อาหาร ภูมิทัศน์ ซึ่งอยากให้นักท่องเที่ยวมาอยู่ยาวมากขึ้น จำนวนคนที่มาไม่สำคัญเท่ากับระยะเวลาที่อยู่ หากอยู่นานก็จะใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจพื้นเมืองจะดีขึ้น เมื่อเราลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับหมื่นล้านก็อยากให้นักท่องเที่ยวได้อยู่นานๆ ไม่ใช่มาแป๊บเดียวแล้วกลับ ส.ส.ทุกคนต้องช่วยรัฐบาลตรงนี้ด้วย ร่วมมือกับภาคท่องเที่ยว ฝากรัฐมนตรี สส.และผู้ว่าการท่องเที่ยวด้วย
รับฟังปัญหาชาวสวนทุเรียน
เวลา 11.15น.ที่สวนทุเรียนนายชัยณรงค์ ทองสุข ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายเศรษฐา ทวีสิน เดินชมแปลงทุเรียนสาธิต โดยตัวเกษตรกรสวนทุเรียน ได้สะท้อนปัญหาเรื่องการสร้างถนน เรื่องไฟฟ้า สะพาน และอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการสร้างถนนให้มีการเชื่อมโยง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชาวสวนได้ประโยชน์ แต่เป็นนักท่องเที่ยว ก็จะได้ประโยชน์จากการทำถนนด้วย แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ โดยเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ด้านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรับว่า เดี๋ยวจะจัดการให้ ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ให้สร้างถนนเส้นที่ได้ประโยชน์สูงสุดก่อน ตัวเกษตรกรสวนทุเรียน ยังสะท้อนปัญหาเรื่องเรือ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการขนส่งสินค้าทุเรียน เนื่องจากเรือจะต้องรองรับนักท่องเที่ยว จึงขอให้มีการเพิ่มเที่ยวเดินเรือ
ร้องนายกฯไฟฟ้าไม่เพียงพอ
ขณะเดียวกันตัวเกษตรกรสวนทุเรียน ยังสะท้อนปัญหาเรื่องไฟฟ้าแสงสว่างไม่เพียงพอในพื้นที่ทำสวนให้มีทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องระบบชลประทานที่ใช้ในการกักเก็บน้ำ เรื่องสัญญาณโทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต แต่ปัญหาหลักทุเรียนปีนี้ออกไป 30,000 ตันจากสมุย โดยปีที่แล้วออกไม่เยอะ คิดว่าน้อยกว่าปีนี้ แต่ทำรายได้ให้เกาะสมุยไม่ต่ำกว่าปีละ 5 พันล้านบาททั้งทุเรียนและมังคุด
ตั้งเป้าส่งออกทุเรียน5หมื่นล.
นายกฯ สอบถามว่า ทุเรียนปีดีขึ้นหรือไม่ โดยตัวเกษตรกรสวนทุเรียน ตอบว่า ราคาดีขึ้น จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า ทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ และให้ความสำคัญกับเกษตรกรชาวสวนทุเรียน อะไรที่เป็นอุปสรรคเราจำเป็นต้องช่วยกันแก้ไขกันไป ตามความถูกต้อง ขอเรียนว่าการเลือกตั้งจบไปแล้ว ตนไม่ได้มาหาเสียง แต่ตนอยากมาช่วยแก้ปัญหาจริง ตัวเลข 1 ล้านล้านบาท เป็น 1 ใน 3 ของงบประมาณ ฉะนั้นถ้าตนช่วยได้ตนก็จะช่วย ยืนยันตรงนี้ไม่ต้องห่วง
ทั้งนี้ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนทุเรียน ตั้งเป้าในปีนี้ให้ได้ผลผลิต ทั้งทุเรียนและมังคุด 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า 1 หมื่นล้านบาท แค่ 1 % เป้าหมายของเราที่ตั้งไว้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเฉพาะสมุย 5% ก็ 5 หมื่นล้านบาท จึงไม่อยากให้อย่ามองแค่ 1 หมื่นล้านบาท ขอให้มองไกลกว่า ซึ่งถ้าหากท่านมอง ตัวเลข 5 หมื่นล้านบาท ถนนก็ต้องขยายไฟฟ้าก็ต้องมา และการขนส่งทางเรือเราก็จะไม่หยุดยั้ง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมสวนทุเรียน และพูดติดตลกว่าเรามาผิดฤดูกาล จึงทำให้ไม่ได้เห็นผลทุเรียนและไม่ได้ชิมทุเรียนทุเรียนสมุย ซึ่งเกษตรกรบอกว่าหากอยากมาถูกฤดู ต้องมาช่วง ช่วงเดือนกันยายน และเดือนตุลาคม
โชว์กินแกงไตปลาสมุย
เวลา 12.10น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารชื่อดังของเกาะสมุย (เสบียงเล) โดยหนึ่งในเมนูคือ โปรด ที่ทางร้านจัดให้คือ แกงไตปลา โดยนายกฯได้นั่งร่วมโต๊ะกับบรรดารัฐมนตรีพร้อมชิมแกงไตปลา ก่อนจะพูดว่า “อร่อยมากครับ” ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ รสชาติที่ถูกปาก ทั้งนีั เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารับประทานแล้วจะบอกอะไรกับคนที่จัดอันดับแกงไตปลาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่ขอตอบโต้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ แต่ผมชอบ อย่างที่บอกว่าฝรั่งก็มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเรา ซึ่งเราก็ยอมรับได้ ไม่ใช่ว่าเค้าชอบบางอย่างหรือไม่ชอบบางอย่าง เราไปบอกเขาไม่ได้ และย้ำว่าอาหารไทยมีเยอะ ต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ก็ติดอันดับโลกทั้งนั้น”
เมื่อถามว่า การรับประทานแกงไตปลาจำเป็นจะต้อง รับประทานกับข้าวสวย หรือรับประทานเปล่าได้เลย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ผมทานได้ พยายามไม่ทานข้าว เพราะลดน้ำหนักอยู่ ที่ชอบเพราะผมชอบทานอาหารรสจัด” จากนั้นรัฐมนตรีก็กินโชว์ พร้อมกับชมไม่ขาดปากว่าอร่อยจริงๆ ไม่ได้อร่อยเล่นๆ
ถกปัญหาเกาะสมุย
เมื่อเวลา 13.45น.นายกฯเศรษฐา เดินทางถึงที่เทศบาลนครเกาะสมุย ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP โดยมีประชาชนอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) มารอต้อนรับ พร้อมกับถือป้ายให้กำลังใจ เช่น โหม๋เรา.. ชาวสมุย Welcome นายกรัฐมนตรี, “ ปะการังงาม น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มะพร้าวเยอะ“ ชาวสมุย.. ยินดีต้อนรับ
จากนั้นนายกฯ ได้ชิมน้ำที่ทำมาจากผักคอส ซึ่งนายกฯ บอกว่าอร่อยดี พร้อมกวนกาละแม ก่อนที่จะเซ็นชื่อบนลายผ้าเกาะสมุย จากนั้นนายกฯ ประชุมหารือบูรณาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมด้วย ซึ่งการหารือในประเด็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค ประเด็นปัญหาขยะ ประเด็นเรื่องการท่องเที่ยว ประเด็นความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่สนามบินนานาชาติสมุย และประเด็นการขยายถนนรอบเกาะโดยนายกฯรับปากจะผลักดันช่วยอย่างเต็มที่
นายกฯ กล่าวต่อว่า สุดท้ายนี้เรื่องที่ภาคเอกชน เสนอลดดอกเบี้ย ตนไม่อยากพูดต่อ แต่ทุกคนทราบดีการที่ดอกเบี้ยสูงเราเดือดร้อนมากอย่างไร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปช่วยกันดูแล เพราะทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกัน
นายกฯลั่น’พท.’ต้องชนะเลือกตั้ง
ช่วงหนึ่งผุ้สื่อข่าวรายงานว่านายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยระบุพรรคเพื่อไทยต้องไม่แพ้ตลอดไป การเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้ชนะว่า จริงๆแล้วที่ตนพูดไปในวันนั้นพูดตกไปนิดนึง เพราะไม่ได้มีโพย เป็นการพูดจากใจ ซึ่งต้องขอเรียนตรงๆว่าชีวิตของตนอายุ 62 ปีแล้ว มีครบทุกอย่าง ประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัวตนก็ดีแล้ว ลูกทั้ง 3 คนเรียนจบมีงานทำที่มั่นคงแล้ว ฉะนั้นตนเหลืออย่างเดียวในชีวิตที่จะต้องทำให้ได้ ซึ่งตนพูดข้ามไปนิดนึง
“ผมต้องนำชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น 3 ปีครึ่งที่เหลือ ผมมุมานะทำอยู่อย่างเดียวคือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และหวังว่าผลที่จะตามมาคือ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง”
ไว้ใจ”อุ๊งอิ๊ง”นำทัพเพื่อไทย
ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร ระบุชม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.มีดีเอ็นเอความเป็นผู้นำมาจากบิดามารดา และสามารถประสบความสำเร็จทางการเมืองได้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น ว่า การประสบความสำเร็จของพรรค พท. อยู่ที่นโยบายที่เข้าถึงพี่น้องประชาชนตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย นโยบายหลายนโยบาย ไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่พรรค พท.ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นจริงมาแล้ว ทั้งในอดีต 30 บาทรักษาทุกโรค มาถึงปัจจุบันที่ยกระดับเป็น 30 บาท รักษาทุกที่ และดิจิทัลวอลเล็ต 10,000บาท ที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประเทศ ซึ่งจะมีการแถลงในวันที่ 10 เมษายนนี้
เชื่อสมาชิกพรรคยอมรับ
น.ส.ลิณธิภรณ์กล่าวต่อว่า ผลสำเร็จของนโยบายพรรค พท. เกิดจากการทำงานของบุคคลภายในพรรค บวกกับบุคลิกของผู้นำที่เปิดกว้าง รับฟังและเน้นการมีส่วนร่วม นี่หัวใจสำคัญของคนเป็นผู้นำอย่างนายทักษิณ และ น.ส.แพทองธาร ที่ทุกคนในพรรคสัมผัสได้ และตั้งแต่ที่ น.ส.แพทองธาร เข้ามาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงความเสียสละ ความทุ่มเท อย่างต่อเนื่อง จนสมาชิกพรรคยอมรับ ไม่เกี่ยวว่าจะกำเนิดจากใคร แต่ทั้งหมดมาจากผลงานที่ทำ และวันนี้ น.ส.แพทองธารก็ได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้ผลักดันนโยบายและขับเคลื่อน Thailand Creative Culture Agency (THACCA) ที่จะทำให้เห็นว่าซอฟต์พาวเวอร์ในชีวิตประจำวันที่คนไทยเองอาจไม่เห็นว่ามีคุณค่า ทั้งดนตรี ภาพยนตร์ สิ่งทอ และอีกหลายแขนง จะมีมูลค่าในสายตานานาชาติอย่างไร
ให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก
“การที่ผู้นำฝ่ายค้าน และนักวิชาการบางคน ตีความความสำเร็จของคนเพียงมองจากการเป็นลูกของใครนั้น ไม่สามารถมองเป็นอื่นได้ นอกจากการดิสเครดิตด้อยค่าความสำเร็จของพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนสัมผัสได้ โดยเชื่อมโยงกับตัวบุคคล ไม่สนใจผลงานที่ผู้นำแต่ละท่านผลักดันและทำให้เกิดขึ้น จนนำไปสู่การยอมรับของสมาชิกพรรค ซึ่งดีเอ็นเอของอดีตนายกฯทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่หล่อหลอม น.ส.แพทองธาร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้นั้น ไม่ได้อยู่ที่นามสกุลชินวัตร หรือชาติกำเนิดจากใคร แต่อยู่ที่การเลี้ยงดูให้เป็นบุคคลที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ แม้จะเคยผ่านประสบการณ์ดูถูกดูแคลนและเป็นเหยื่อหลังการรัฐประหาร แต่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนนี้คือ ผู้ที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยมั่นใจและไว้วางใจให้ถือธงนำพรรค เพราะหัวใจเราคือประชาชน” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
ยุบก้าวไกลไม่เกิน21เมษายน67
วันเดียวกันนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ไม่มีข้อไหนให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมือง ว่า ตนขอย้อนถามนายชัยธวัชว่าหากศาลรัฐธรรมนูญไม่ทีอำนาจยุบพรรร แล้วใครคือคนที่มีอำนาจยุบพรรคการเมืองที่คิดจะกัดเซาะ บ่อนทำลาย สร้างความแตกแยกให้กับประเทศ จ้องแต่จะทำร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ใครละที่จะเป็นคนตัดสิน ในเมื่อ กกต.มีความเห็นยื่นยุบพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ
“การยุบพรรคก้าวไกลมันควรที่จะแล้วเสร็จไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะการหาเสียงมันสิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.66 ดังนั้น การกระทำความผิดมันสำเร็จไปแล้ว ซึ่งเดือนหน้าก็จะครบ 1 ปีแล้ว ในความจริงแล้ว บุคคลใดที่กระทำการล้มล้างการปกครองไม่สามารถเหยียบสภาฯได้หรอก ไม่สามารถเข้าไปมีตำแหน่งเป็น สส.แต่เราก็เห็นว่ามีกระบวนการเลี้ยงพรรคก้าวไกลไว้ องค์กรอิสระ ก็ไม่ได้อิสระจริง ๆ อย่าง กกต.ที่เก็บเรื่องนี้ไว้ยาวนาน ปล่อยให้เขาหาเสียง ไม่เคยยื่นยุบพรรค ตอนที่เขาเอาเป็นนโยบายหาเสียง กกต.ก็ตรวจสอบให้ผ่าน จากน้ันก็ถูกคนร้องมาอีก พอมาถึงวันที่จะส่งเอกสารจาก กกต.ก็ไม่ครบอีก จึงทำให้ศาลรัฐธรรมนูญต้องเลื่อนการพิจารณา ซึ่งวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้พรรคก้าวไกล ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาใน 15 วัน ซึ่งถ้าเกิดว่าพรรคก้าวไกลขอขยายระยะเวลา แล้วศาลรัฐธรรมนูญรับ เรื่องนี้มีดีลว่า จะดึงเวลายุบพรรคก้าวไกลให้นานที่สุด เพื่อที่จะให้ สว.หมดอายุ โดยทั้งนี้ตนเชื่อว่าจะยุบพรรคก้าวไกล ไม่เกิน 21 เมษายนนี้ ถ้าเกินยอมโกนหัวไว้อาลัย...กับสังคมไร้มาตรฐานกระบวนยุติธรรมไร้มาตรฐาน ยกประเทศให้พวกเขาเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี