นายกฯเผย‘บัวแก้ว’

เตรียมแผนไว้รับมือ

ถ้าอิสราเอล-อิหร่าน

ยกระดับเหตุรุนแรง

นายกฯเผย กต.เตรียมพร้อมแผนรับมือแล้ว หากอิสราเอล-อิหร่าน ยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น ยันเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องดูแลคนไทย ด้านโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงใย สั่งการติดตามสถานการณ์อิสราเอลและอิหร่าน โดยให้ประกาศแจ้งเตือนประชาชน ในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 13เมษายน2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่กำลังมีความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ว่าออกหมายเตือนไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวจากนานาประเทศเยอะพอสมควร ซึ่งเราต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมถ้ามีการยกระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ต้องดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยเป็นหลัก

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานว่า คนไทยที่นั่นมีความกังวลบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง หากจำได้เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ที่มีปัญหาอิสราเอลกับฮามาส เราก็ไปรับแรงงานไทยประมาณ 8,000 คน ซึ่งที่จริงแล้วเป็นปัญหาพื้นฐานว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแกร่งก็มีแรงงานไทยอีกหลายคนที่กลับไปอีก แต่เป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องช่วยดูแล หากมีเรื่องการยกระดับความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดูแลพี่น้องคนไทยทุกคน เมื่อถามย้ำว่าแผนรับมือพร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า พร้อมแน่นอน

ด้าน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความห่วงใยที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีถึงประชาชน โดยได้สั่งการ และประกาศเตือนประชาชน ดังนี้ ตามที่มีเหตุความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง จึงได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดทำประกาศแจ้งเตือนคนไทยให้เตรียมความพร้อม รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินด้วยแล้ว จึงขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสถานทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีฉุกเฉินพี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ทุกแห่ง