‘เศรษฐา’เข้าจันทร์ส่องหล้ารดน้ำอดีตนายกฯ

กราบขอพร‘ทักษิณ’

ไม่ติดใจรมต.แห่พบ‘แม้ว’

เตือนคนหลุดโผไม่ต้องวิ่งเต้น

จับตาโผครม.เศรษฐา2

แจ้งพรรคร่วม18เม.ย.

นายกฯ“เศรษฐา”เข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า รดน้ำ-กราบขอพร“ทักษิณ”ผู้ใหญ่ที่เคารพ ในเทศกาลสงกรานต์ ชื่นมื่นท่ามกลางกระแสปรับครม.-รถเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าคึกคัก จับตาโผครม.เศรษฐา2 ‘เศรษฐา’นั่งควบเก้าอี้รมว.กลาโหม ลือหึ่ง!‘บิ๊กเล็ก’ณัฐพล อดีตผบ.ทบ. มีชื่อผงาดอีกครั้ง‘รมช.กลาโหม’ ส่วน‘สุดาวรรณ’ยังเหนียวอยู่ที่เดิมวาง‘สุทิน-ชลน่าน’ช่วยงานสภา จับตาถกครม.18เม.ย.นายกฯแจ้งพรรคร่วมฯรับทราบปรับครม.

เมื่อวันที่ 16เมษายน2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่ได้ออกมาระบุว่ามีหลังเทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ในวันนี้(16เม.ย.)เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีรายงานว่านายเศรษฐาจะเดินทางเข้าไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า ย่านจรัญสนิทวงศ์ เพื่อรดน้ำอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องจับตาว่าจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)ด้วยหรือไม่

‘เศรษฐา’เข้ารดน้ำ‘ทักษิณ’ชื่นมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.50 น.ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ใช้วันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันสุดท้ายได้เดินทางเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรดน้ำขอพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับ ครม.รัฐบาลเศรษฐา 2

โดยใช้รถยนต์ประจำตำแหน่ง Lexus สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน สร 30 กรุงเทพมหานคร โดยนายเศรษฐา ได้แต่งตัวสวมเสื้อโปโลสีขาว และสวมกางเกงยีนส์โดยได้ลดกระจกลงเพื่อทักทายสื่อมวลชนที่รอรายงานข่าวอยู่หน้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส

ทั้งนี้ เมื่อเข้าไปในบ้านพักนายเศรษฐาเข้าไปไหว้และรดน้ำขอพรในช่วงเทศกาลสงกรานต์

พร้อมมอบพวงมาลัยให้แก่นายทักษิณ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่นายทักษิณ ที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายสีฟ้า ที่คอยให้การต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มโดยได้รับไหว้และกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นก่อนจะพูดคุยเป็นการส่วนตัว

กราบขอพร‘ทักษิณ’ผู้ใหญ่ที่เคารพ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเวลา 10.12 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความและรูปภาพผ่านเฟซบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน - SretthaThavisin”ระบุว่า “มากราบขอพรและสวัสดีปีใหม่ไทยท่านนายกฯทักษิณผู้ใหญ่ที่เคารพครับ”

รถเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าคึกคัก

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในบ้านจันทร์ส่องหล้าของนายทักษิณปรากฎว่าในช่วงเช้าได้มีแขกเดินทางเข้าพบและเดินทางออกไป ในเวลาประมาณ 09.40 น. ได้มีรถยนต์ Lexusสีขาวหมายเลขทะเบียน 5 กน 1159 กรุงเทพและ รถตู้ Alphardสีขาวหมายเลขทะเบียน 3 กม 4165 กรุงเทพมหานคร

จับตาโผปรับครม.เศรษฐา 2

ล่าสุดมีรายงานว่าการปรับคณะรัฐมนตรี ‘เศรษฐา 2’จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ หรืออย่างช้าไม่เกินต้นเดือนพฤษภาคม หลังนายกรัฐมนตรีได้หารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

ในส่วนของพรรคเพื่อไทยซึ่งครั้งแรกจะมีการปรับเพิ่มเพียงเก้าอี้เดียวต่ล่าสุดมีรายงานข่าวว่านายเศรษฐาจะถือโอกาสปรับรัฐมนตรี เพื่อให้ถูกคนถูกที่และเหมาะสม หลังรัฐบาลได้ทำงานมาครบ 7 เดือน และได้มีการส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้วเช่นกัน

‘เศรษฐา’นั่งควบคุม‘กลาโหม’

ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า นายเศรษฐาจะนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมให้นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังแทน

‘บิ๊กเล็ก’มีชื่อนั่ง‘รมช.กลาโหม’

อีกทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเพิ่ม เพื่อมาช่วยงานโดยมีชื่อของพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก เตรียมทหารรุ่นที่ 20 เต็งหนึ่งนอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวการดันให้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ลูกหม้อพรรคเพื่อไทยคนสนิทของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เข้ามาเป็น รมช.คลัง อีกคน

วาง‘สุทิน-ชลน่าน’ช่วยงานสภา

ส่วนนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ถูกวางให้ไปทำงานในสภาร่วมกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว. สาธารณสุข เนื่องจากมีความรู้ความสามารถและความถนัด นอกจากนี้ยังมีชื่อนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่อาจหลุดออกจากเก้าอี้ในครั้งนี้ด้วย

‘สุดาวรรณ’ยังเหนียวเก้าอี้รมต.

สำหรับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่มีการปล่อยข่าวอยู่เป็นระยะว่าอาจจะถูกปรับออกจากเก้าอี้นั้น ล่าสุดนายเศรษฐายังคงให้ความไว้วางใจทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิม ขณะที่หลายฝ่าย ยังจับตาดูว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี คนสนิทของนายทักษิณจะได้รับการพิจารณานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยหรือไม่

รทสช.ลุ้นปรับเปลี่ยน‘อนุชา’

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ มีแรงกระเพื่อมภายในถึงการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีพอสมควร โดยเฉพาะเก้าอี้ของนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ถูกจับตาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรวมถึงเก้าอี้ของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง ด้วย โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ยังคงนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เช่นเดียวกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ที่ยังคงรั้งเก้าอี้ รมว.อุตสาหกรรม ตามเดิม

ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย จะไม่มีการขยับเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ที่น่าจับตาคือ พลังประชารัฐ ที่ยังมีเก้าอี้ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐ จะตัดสินใจส่งใครเข้านั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ล่าสุดไม่มีชื่อนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เข้ามาเป็นรัฐมนตรี

ถกครม.18เม.ย.แจ้งพรรคร่วมฯ

ทั้งนี้ คาดว่าความชัดเจนในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ วันที่ 18เมษายน ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่เลื่อนมาจากวันอังคารที่16 เมษายน นายกรัฐมนตรี จะแจ้งอย่างเป็นทางการให้พรรคร่วมรัฐบาลรับทราบ จากนั้นคาดว่าจะมีการพิจารณาและเสนอรายชื่อรัฐมนตรีที่จะปรับต่อนายกรัฐมนตรีรวมทั้งขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติและการประชุม ครม.ครั้งต่อไป ในวันอังคารที่ 23 เมษายนคาดว่า จะมีความชัดเจนหากไม่มีเหตุขัดข้อง

ได้พร‘ทักษิณ’-พท.มีกำลังใจเพิ่ม

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมสงกรานต์ที่จ.เชียงใหม่โดยมีรัฐมนตรีรวมถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนมากร่วมกิจกรรมว่าการได้ร่วมกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์กับนายทักษิณทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยได้รับกำลังใจในการทำงาน เพราะนายทักษิณเป็นผู้ใหญ่ที่คนพรรคเพื่อไทยให้การเคารพรักเป็นธรรมดาเมื่อได้พรจากผู้ใหญ่ที่เคารพรักก็จะมีแรงมากยิ่งขึ้น

ประสบการณ์‘แม้ว’/ปท.ได้ประโยชน์

“ยิ่งได้ยินท่านบอกว่าตัวท่านเป็นอดีตนายกฯ คนหนึ่งที่ยังรักบ้านเมือง เป็นห่วงบ้านเมือง ก็ต้องมาช่วยกัน ยิ่งทำให้เราอยากทำงานให้ประชาชนได้สำเร็จมากยิ่งขึ้นและผมหวังว่าจากประสบการณ์ของนายทักษิณ ที่เป็นนักสังเกตและอยู่ต่างประเทศมานาน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ประสบการณ์เหล่านี้เชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศของเราได้มาก ขณะนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เรามีโอกาสได้พูดคุยฟังความคิดเห็นของนายทักษิณ บ่อยครั้งก็จะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้เพื่อพัฒนาประเทศ”นายประเสริฐ ย้ำ

นายฯเปิดใจ7เดือน/ยังไม่ได้ดั่งใจ

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 เม.ย.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงการทำงานในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมาว่ามีเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจเยอะ เพราะหลายปัญหาของประชาชน ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร ที่แม้จะดีแล้วแต่ยังสามารถดีกว่านี้ได้อีก

นายกฯยังยอมรับว่า“ผมไม่สบายใจหรือพึงพอใจ ผมขอใช้คำว่ายังไม่พึงพอใจสำหรับการทำงาน 7เดือนแต่ก็ต้องพยายามต่อไปและทำให้ทุกอย่างดียิ่งขึ้นไป รวมไปถึงเรื่องของการดึงดูดนักลงทุนเรื่องการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า ปัญหายาเสพติด”

ปลื้ม!นักท่องเที่ยวพุ่งสูง140%

เรื่องการท่องเที่ยว ข้อมูล ณ วันที่ 12 เมษายน 2567 ตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงกว่าแล้ว 140% ถือว่าดีมาก แต่ก่อนสถานการณ์โควิด-19ในปี 2562 ณ เวลานี้ จากเดือนมกราคม-เมษายน เราได้ประมาณ 60% หากคิดเป็น 100% วันนี้เราได้ประมาณ 90% ตนมั่นใจสถิติคนมาเที่ยวไทย 39.4 ล้านคน เราสามารถดันตัวเลขให้สูงขึ้นได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งการเปิดตลาดวีซ่าฟรี การ อำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมืองกับนักท่องเที่ยว รวมถึงการจัดการปัญหาไกด์เถื่อน ไรเดอร์ถื่อนทำให้การเดินทางเข้าประเทศสะดวกสบายมากขึ้น ก็สามารถทำได้

ส่วนเรื่องของกรมศุลกากรที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษี จากรายได้ของประเทศ ปีละประมาณ 3 ล้านล้านบาท กรมศุลกากรเป็นหนึ่งใน3 กรมภาษีหลัก จัดเก็บภาษีได้ปีละ1 แสนล้าน คิดเป็น ประมาณ3%ของรายได้ประเทศ ถือว่าต่ำ แต่แม้เก็บได้3%แต่ก็เป็นกรมหลักในการควบคุมสินค้าเถื่อน ที่มากระทบชีวิตประชาชน หนึ่งในนั้นคือการควบคุมยางพาราเถื่อนจนส่งผลให้ราคายางในประเทศสูงขึ้น แต่เป็นเรื่องแปลกที่มีคนมาวิ่งเต้นกับกรมศุลกากรมากที่สุดซึ่งตนได้พูดหลายครั้งว่ากรมศุลกากรมีการวิ่งเต้นสูงสุด แต่แปลกที่มีการจัดเก็บรายได้ได้แค่3%ถือเป็นเรื่องที่น่าสงสัยจึงเป็นที่มาที่ต้องพัฒนากรมศุลกากรให้เป็นกรมศุลกากรที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ ช่วยเหลือประชาชนได้จริงๆในหลายมิติ หรือเรื่องภาษีนำเข้าที่เป็นจุดรั่วไหลทำให้การจัดเก็บภาษีในประเทศไม่ดีเท่าที่ควร

รับอยู่การเมืองต้องปรับตัวเยอะ

นายเศรษฐายอมรับว่าต้องปรับตัวมากจริงๆจากการเป็นธุรกิจสู่วงการการเมืองการเป็นซีอีโอของบริษัทมีผู้ร่วมงาน คนรอบตัว ทั้งลูกค้า ผู้ถือหุ้น พนักงาน สังคม เวลาบริหารจัดการต้องคำนึงถึง 4 เสาหลักนี้ เป็นผู้บริหารบริษัทก็ได้รับการซัพพอร์ตเต็มที่จากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นแต่มาอยู่ในบริบทของนักการเมืองและเป็นนายกรัฐมนตรีที่มี141เสียง เป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค141เสียง จาก 500 เสียง และมีผู้ร่วมงานที่ต่างกัน ทั้งประชาชน,ส.ส. ,สว. ,สถาบันความมั่นคง, NGO, นักข่าว หลายภาคส่วนต้องการการพูดคุยและการอธิบาย

ดังนั้นตนขอใช้คำว่าหุ้นส่วนในการช่วยเหลือประชาชนซึ่งแต่ละพรรคส.ส.แต่ละคนก็ไปสัญญากับประชาชนแตกต่างกันไปบ้าง การบริหารจัดการงบประมาณก็มีส่วน ทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ช้าไปบ้างแต่การทำงานร่วมกันมา 7 เดือน เชื่อว่าเรารู้ใจกัน มีการให้เกียรติกันและกัน เชื่อว่าการขับเคลื่อนและบริหารจัดการประเทศ และการช่วยเหลือประชาชนก็จะค่อยๆ ดีขึ้น

มั่นใจไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อถามว่าการเป็นนักธุรกิจแล้วมาเป็นนายกฯมีเพื่อนเป็นนักธุรกิจย่อมหนีไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเอื้อประโยชน์มีวิธีปกป้องตัวเองไม่ให้มีคนเข้ามาขอผลประโยชน์อย่างไรนายกฯตอบว่า”หน้าที่ของผมไม่ใช่การเซฟตัวเอง ผมมั่นใจอยู่แล้วที่เดินมาสู่การเมืองมีจุดมุ่งหมายเดียวคือการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในทุกมิติให้ดีขึ้น หากจะเซฟตัวเอง ผมไม่มีตรงนี้มั่นใจได้ว่าเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ผมไม่มีแน่นอน”

ลั่นยกระดับชีวิตปชช.ให้ดีขึ้น

นายเศรษฐากล่าวถึงเรื่องทรัพย์สินเรื่องของชีวิตส่วนตัวว่าส่วนตัวลงตัวแล้ว ตนมีรายได้ในอดีตที่ดีพอสมควร มีทรัพย์สินที่ทำให้อยู่ได้อย่างสบายๆ เรื่องการที่จะมาเอาผลประโยชน์ทางการเมือง ตนไม่มี คนในครอบครัวมีความสุข มีหน้าที่การงานที่เหมาะสมแล้วตนย้ำในวันแถลงนโยบายไปแล้วว่า3ปีครึ่งจากนี้ไป ตนมีเรื่องเดียวคือยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น

โวหวังพาพท.ชนะลต.สมัยหน้า

“และหวังว่าจะทำให้เพื่อไทยชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งผมได้ การที่มีเพื่อนเป็นนักธุรกิจเยอะและตอนนี้ก็มีเพื่อนเป็นนักการเมืองเยอะ การที่จะต้องไปเก็บข้อมูลและรู้ลึกทุกเรื่องและประสบการณ์ในวงการธุรกิจอีก40กว่าปี เชื่อว่ามีประสบการณ์มาเยอะพอที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเหมาะสมเพื่อประชาชน”

อุทิศตนเพื่อปชช./พร้อมเสียเพื่อน

เมื่อถามต่อว่าการมานั่งเป็นผู้นำอาจจะต้องเสียเพื่อนไปบ้างในกรณีที่ไม่มีการสมประโยชน์กัน นายกฯเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรนายกฯกล่าวว่าตนเจอเพื่อนทุกคนก็คุยกันว่าคนอายุ60ปีแล้ว อยากทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ตนอยากไปดูฟุตบอลลิเวอร์พูลทุกนัดอยากเดินทางไปประเทศที่ไม่เคย ไปทานอาหารอร่อยในทุกประเทศ อยากหาความสุขให้ตัวเอง แต่การเข้ามาในเวทีการเมือง อยากดูแลความเป็นอยู่ประชาชนให้ดีขึ้น

“เมื่อได้ประกาศว่าอุทิศตนแล้วและบอกเพื่อนฝูงว่าเรื่องต่างๆที่จะมาขัดขวางในการทำให้ชีวิตความ เป็นอยู่ประชาชนดีขึ้นหรือสภาพจิตใจ การถูกเอาเปรียบจากผู้ที่ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย หากเพื่อนผมทำตัวแบบนั้นก็พร้อมที่จะเสียเพื่อนและมั่นใจว่าหากอีก3ปีครึ่ง ต้องมีเพื่อนน้อยลงแลกกับการที่ทำให้คนที่อยู่ในฐานพีระมิดดีขึ้น ผมก็พร้อม”นายกฯ ระบุ

รับต้องปรับจูนส.ส.เพื่อไทย’

นายเศรษฐายังกล่าวถึงความสัมพันธ์กับส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ยังมีเสียงสะท้อนจากภายในพรรคว่าระหว่างนายกฯกับส.ส.ยังมีระยะห่างกันมากและส่วนหนึ่งมาจากการเข้มงวดเรื่องงบประมาณว่าหลายโครงการที่ขอมาก็มีได้ อย่างที่บอกงบประมาณมีจำกัดในฐานะนายกฯมีหน้าที่ดูแลภาษีของประชาชนและมีหน้าที่ตอบกับรัฐสภาว่าภาษีนั้นมีการใช้อย่างเหมาะสมหรือไม่เช่นการสร้างสนามบิน ด่านชายแดนต่างๆ ต้องดูให้ดีเพราะมีการพูดคุยและดูองค์ประกอบหลายๆอย่างอยากค่อยๆทำค่อยๆ เป็นค่อยๆไปขอให้ถึงเวลาก่อน

“หน้าที่ของผมก็ต้องปรับจูนระหว่างผมกับส.ส.ของพรรคตลอดเวลาเพราะผมต้องหลังพิงประชาชนเพราะเป็นคนที่ส่งให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้และต้องผ่าน ส.ส.ที่มีถึง 141 คนยังไงก็ต้องโน้มน้าวเข้าหาตลอดเวลาและพยายามอธิบายให้เข้าใจว่าเรื่องคืออะไรประเด็นคืออะไรเหตุผลที่ให้ได้และให้ไม่ได้หรือทำไมต้องได้งบประมาณน้อยลง หรือเพิ่มขึ้นซึ่งเรื่องของการพูดคุยเป็นเรื่องสำคัญ”นายกฯระบุ

ลั่นไม่น้อยใจ ไม่โกรธ ไม่งอน

นายเศรษฐายืนยัน“ไม่ได้น้อยใจ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้งอน ยังต้องพยายามไปพบปะพูดคุย หาวิธีสื่อสารให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่ส.ส.พรรคเพื่อไทยอย่างเดียวเพราะผมเป็นนายกฯของคนไทยทุกคนซึ่งในสัปดาห์หน้า ผมจะลงพื้นที่ใน จ.ภูเก็ตไปดูการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสที่ 4”

รับยังคุมอารมณ์ไม่ดี-ต้องปรับ

ส่วนเรื่องการบริหารอารมณ์นั้นนายกฯระบุว่าคิดว่าคนเราก็เป็นคนก็มีอารมณ์บ้าง และตนไม่ได้เป็นนักการเมืองอาชีพ ตนเข้าใจว่าถ้าเป็นนายกฯต้องไม่มีสิทธิ์เลือกโกรธ ต้องพยายามรับฟัง ต้องพยายามควบคุมอารมณ์ให้ดี ตรงนี้ก็พยายามทำให้ดียิ่งขึ้นอยู่ บางเรื่องก็เข้าใจได้ก็พยายามฝึกกันต่อไป ส่วนที่ก่อนหน้านี้เป็นนักธุรกิจแล้วใจร้อนมากเมื่อเป็นนายกฯแล้วใจเย็นขึ้นเยอะจนเพื่อนบ่น นายเศรษฐากล่าวว่าเรื่องนี้ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ หรือให้สื่อมวลชนเป็นคนสะท้อนว่ามีการพัฒนาอย่างไร ถ้าถามว่าทำได้ดีพอหรือยัง ต้องตอบว่ายังไม่ดี ต้องพยายามกันต่อไป เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะแล้วก็ ต้องรับฟังทุกๆ คำถาม

เชียงใหม่คึกคัก!รดน้ำดำหัว‘แม้ว’

สำหรับความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงเช้าได้ร่วมทำบุญขึ้นบ้านใหม่บ้านของนางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ บรรยากาศมีเฉพาะคนในครอบครัวชินวัตรและบรรดาคนสนิทในพื้นที่มาร่วมพิธีกันอย่างคึกคัก ทั้งนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว,นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ,นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย โดยนิมนต์พระจากวัดโรงธรรมสามัคคีมาทำพิธี

ช่วงบ่ายที่บ้านพักกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ของนายสมชายและนางเยาวภาได้เปิดโอกาสให้รัฐมนตรี สส.ข้าราชการ ข้าราชการท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เข้ารดน้ำขอพรนายทักษิณ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ใช้ชื่องานว่า”สระเกล้าดำหัวประเพณีปี๋ใหม่เมือง”มีซุ้มอาหารคอยบริการผู้มาร่วมงาน

รมต.สส.พท.ตบเท้าร่วมงานพรึบ

บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก บรรดารัฐมนตรี สส. และอดีต สส.ของพรรคเพื่อไทย ต่างทยอยเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่เวลา15.00 น.ท่ามกลางบรรยากาศที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เต็นท์ซุ้มอาหารปลิว ยังมีประชาชนได้จัดเครื่องบายศรี กลองสะบัดชัย มาร่วมงานด้วยและกลุ่มคนเสื้อแดงได้นำธงที่โบกในการชุมนุมของคนเสื้อแดงมาโบกที่งานนี้ด้วย

สำหรับผู้ที่มาร่วมงาน อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม,นายเกรียง กัลป์ตินันท์รมช.มหาดไทย, นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2,นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค,นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี จากนั้นบรรดารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยทยอยเดินทางมาสมทบได้ทำบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง เมื่อฝนตกทำให้ผู้มาร่วมงานต้องมารวมตัวกันในห้องพักรับรองพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

‘ทักษิณ’มาถึงคึกคักแห่รดน้ำ

ทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึงได้มีขบวนแห่น้ำเพื่อมารดน้ำดำหัวนายทักษิณซึ่งเป็นตัวแทนจากอำเภอใกล้เคียงพร้อมทั้งประกอบพิธีทางล้านนา ซึ่งหลังจากเปิดให้รัฐมนตรี,สส.อดีต สส.และประชาชนรดน้ำดำหัวแล้ว นายทักษิณได้ออกมาพบปะประชาชนบริเวณลานด้านหน้าห้องรับรองซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดเตรียมไว้สำหรับให้ผู้มาร่วมงานได้รดน้ำดำหัวโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้รดน้ำดำหัวนายทักษิณเป็นคนแรก

บอกเดี๋ยวดิจิทัลวอลเล็ตก็มาแล้ว

จากนั้น เวลา 16.15 น.นายทักษิณได้กล่าวกับผู้ที่มาร่วมงานว่าวันนี้ถือเป็นยุคดิจิทัล เดี๋ยวดิจิทัลวอลเล็ตก็มาแล้ว วันนี้ถือว่าเป็นวันที่มีความสุขมากได้มาร่วมประเพณีรดน้ำดำหัวในวันสงกรานต์เป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี หลายคนมาจับตัวแล้วถามว่านี่ตัวเป็นๆใช่หรือไม่ บางทีตนก็งงเหมือนกันว่าเป็นตัวเป็นๆจริงหรือก็ขอขอบคุณรัฐมนตรี สส.และเพื่อนพี่น้อง ที่วันนี้มารดน้ำดำหัว ดูแลอาจจะไม่ทั่วถึง แต่ก็ได้เห็นหน้าเห็นตา ขอบคุณนักการเมืองท้องถิ่นทั้งหลาย อบจ.ก็มาหลายคน วันนี้ดีใจ ตนไม่ได้พูดเหนือมานานเลยพูดไม่ค่อยคล่อง แต่อยากบอกพี่น้องทุกคนว่าตนเคารพรักพี่น้องและบ้านเกิดเมืองนอน

ปีหน้าบ้านเมืองดีขึ้นแน่/ขอมั่นใจรบ.

นายทักษิณกล่าวอีกว่าวันนี้ได้มีโอกาสมาอวยพรให้พี่น้องทุกคน ตนอายุ 75 ปีแล้ว คนส่วนใหญ่ในนี้อ่อนกว่าตน มีแก่กว่าตนไม่กี่คน ก็ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรงซึ่งสำคัญที่สุด ขอให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต และขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ขอให้ทุกคนมีโชคมีชัย

“ผมก็มั่นใจว่ารัฐบาลและผมก็จะพยายามแนะนำสิ่งที่ดีๆแก้ปัญหาให้บ้านเมือง เชื่อว่านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ปีนี้อาจจะช้าหน่อยเพราะว่าต้นปีรัฐบาลใช้งบไม่ได้ต้องใช้งบประจำ งบลงทุนยังไม่มี แต่ว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปก็เริ่มจะดีขึ้นปีหน้ามั่นใจว่าบ้านเมืองก็จะดีขึ้น

ขอทำหน้าที่อดีตนายกฯช่วยรบ.

”นายทักษิณ ย้ำทิ้งท้ายว่าตนไปไหนเห็นความแห้งแล้งก็เห็นเอ็นดูประชาชนและตนก็คิดว่ามันเป็นหน้าที่ที่อดีตนายกฯคนหนึ่งที่ยังรักบ้านเมืองเป็นห่วงบ้านเมืองก็ต้องมาช่วยกัน ก็อยากจะขอให้พี่น้องประชาชนมีกำลังใจว่าไม่นานทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ก็ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ มีความสุขทุกคน