คอลัมน์บุคคลแนวหน้าฉบับเมื่อวานนี้ เขียนว่ามีคำถามว่า ถ้านายกฯเศรษฐา ทวีสิน ตกเก้าอี้นายกฯก่อนวัยอันสมควร เพราะเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลไม่ได้ และต้องแสดงความรับผิดชอบแล้วใครเหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นมาเป็นนายกฯคนใหม่ คำตอบ คือ บิ๊กป้อม- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเนื่องจากเคยปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯมาแล้ว ทำงานรวดเร็วฉับไว ได้ข่าวว่าทีมงานของบิ๊กป้อม ทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น ตามเก็บข้อมูลงานของนายกฯเศรษฐา ทุกเม็ดที่ทำไม่สำเร็จ พร้อมจะพลิกโอกาสให้ประชาชนได้รับประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยทันทีถ้าบิ๊กป้อมได้เป็นนายกฯ

วันก่อน สามารถ เจนชัยจิตรวนิช โฆษกประจำตัวบิ๊กป้อม อดีต ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม ซึ่งมีพรรคพวกมากไปเยือนญี่ปุ่น พร้อม สส.พรรคก้าวไกลอีก 1 คันรถบัส สร้างมิตรภาพอย่างอบอุ่น ทริปต่อมาไปเยือนฮ่องกง หนนี้มีสส.ทุกพรรค เพราะ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช มีเพื่อนมากเป็นที่ไว้วางใจของบิ๊กป้อม

ปริศนานี้ในทางการเมืองเขาเข้าใจกัน

หัวข้อ “บิ๊กป้อม” บารมีเหลือล้น ชวนให้คิด!!!

เพราะพรรคพลังประชารัฐจัดประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2567 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่ารมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค ชุดใหญ่ไฟกะพริบ ณ ที่ทำการพรรคอาคารรัชดา วัน ถนนรัชดาภิเษก กทม.

ทั้งนี้ทันทีที่พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงลงรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สวมใส่เสื้อผ้าสีขาวทั้งชุด เป็นเสื้อแจ๊กเกตสีขาวโลโก้พรรค กางเกงสแล็คสีขาว และรองเท้าผ้าใบสีขาว

รวดเร็วฉับไวปานกามนิตหนุ่ม

พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นกล่าวเปิดการประชุมว่า หนึ่งปีที่ผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์และสส. ได้ขับเคลื่อนการทำงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรค โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ให้มีสวัสดิการ รายได้ที่ดี มีความสุขทุกครอบครัว เพื่อเร่งพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น

“เพื่อให้พรรคเป็นที่ศรัทธาของประชาชนมากขึ้น พรรคจึงได้เตรียมปรับตัวเองให้สอดรับกับสถานการณ์และเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง และเป็นที่ยอมรับของประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพมากยิ่งขึ้น”

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐขอประกาศตัวเองว่าเราขอเป็นพรรคอนุรักษนิยมทันสมัย ที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ในการปกป้องสถาบัน และบริหารเศรษฐกิจที่ทันสมัย เพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้กับคนไทยทั้งประเทศ ด้วยสโลแกนใหม่ที่ว่า “ปกป้องสถาบัน ทันสมัยเศรษฐกิจ มีชีวิตที่สดใส”และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมซึ่งอีกไม่นานพรรคจะได้ประกาศรายละเอียดทั้งหมดอีกต่อไป

ต่อมา ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณจัดเลี้ยงอาหารบรรดาแกนนำและสมาชิกพรรค ทั้งได้กำชับและมอบหมายให้ สส.ทุกคนลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาของประชาชนในทุกแง่มุม รวมทั้งรับฟังเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน ในช่วงปิดสมัยการประชุมสภา เพื่อที่จะนำปัญหาของประชาชนมาขับเคลื่อนสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกลไกของรัฐสภาในการเปิดสมัยประชุมช่วงเดือน ก.ค.นี้

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังย้ำให้รัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ตั้งใจทำหน้าที่เพื่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป โดยขอให้เอาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลักในการทำงาน เนื่องจากที่ผ่านมา พปชร.ได้เดินหน้าทำตามนโยบายที่ได้ประกาศหาเสียงกับประชาชนได้ครบเกือบทุกเรื่องแล้ว จึงอยากจะให้ทุกคนในพรรคสานต่อสิ่งดีๆ ที่พรรคของเราได้ตั้งใจและตั้งมั่นเอาไว้

“บารมีเหลือล้น” เหมาะสมมาก สำหรับคนชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ