‘เศรษฐา’ฟิตเรียกรมต.พท.เข้าทำเนียบ
ติวเข้มรมต.ป้ายแดง
มอบนโยบายงานกระทรวง
กำชับ‘ธรรมนัส’แก้ภัยแล้ง
ทหารหาที่ดินทำกินให้ปชช.
‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’รมว.ตปท.
“เศรษฐา” นำรายชื่อ“มาริษ เสงี่ยมพงษ์”นั่ง รมว.การต่างประเทศ ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ขณะที่ทำเนียบฯคึกคัก แม้งดประชุมครม.นายกฯเรียกรมต.เพื่อไทย“ป้ายแดง”ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าติวเข้ม มอบนโยบาย-งานกระทรวง ‘พิชัย-จุลพันธ์’ฝาก‘ธรรมนัส’แก้ปัญหาภัยแล้งเรียก‘ผบ.ทบ.-เลขาฯสมช.’ถกสถานการณ์ความมั่นคง ‘เลขาฯรมว.กห.’รายงานแหล่งน้ำ-ที่ดินของทหารช่วยปชช. ด้าน”มาริษ”ดอดขึ้นตึกไทย พบนายกฯส่วน‘สุริยะ’รุดดูห้องทำงานใหม่ สส.เพื่อไทย แห่ตบเท้าให้กำลังใจ รอ‘นายกฯแบ่งงานดูกระทรวง
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้นำชื่อ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(นายปานปรีย์พหิทธานุกร)ขึ้นทูลเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ แทนที่นายปานปรีย์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ เมื่อวานนี้(29เม.ย.67)ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า นายเศรษฐาได้เรียกนายมาริษ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า คาดการณ์ว่าอาจจะไปกรอกประวัติ เพื่อตรวจคุณสมบัติ
‘อดีตทูตปู’มีสัมพันธ์ใกล้ชิด‘ชินวัตร’
สำหรับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ หรือ“อดีตทูตปู”จบการศึกษาปริญญาตรี ศิลปะศาสตร์บัณฑิตรัฐศาสตร์ การเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท ศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต รัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกาเคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตเอกอัครราชทูต ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและในสมัย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและเป็นที่ปรึกษานายปานปรีย์พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศคนล่าสุด โดยภายหลังนายปานปรีย์ลาออกทำให้นายมาริษ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ทันที
เส้นทางข้าราชการ เคยรับราชการกระทรวงการต่างประเทศ โดยดำรงตำแหน่งสำคัญอาทิ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำเครือรัฐออสเตรเลีย,อดีตเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสาธารณรัฐฟิจิ และอดีตเอกอัครราชทูตกรุงกาฐมาณฑุ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นต้น
ทั้งนี้ในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้แต่งตั้งนายมาริษให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตฯสาธารณรัฐวานูอาตู โดยนายมาริษเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯตั้งแต่สมัยที่นายทักษิณ ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ(รัฐบาลชวน หลีกภัย )
‘มาริษ’ยื่นลาออกพ้นกก.อิสระ
ด้านนายกิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทธนูลักษณ์ จำกัด(มหาชน) หรือ TNLแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระบุว่านายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ได้มีหนังสือลงวันที่ 29เมษายน 2567ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของบริษัทเนื่องจากติดภารกิจส่วนตัวโดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 29เมษายน2567เป็นต้นไป คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาสรรหาและแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพื่อเข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบแทนตำแหน่งที่ว่างลง และบริษัทจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไปโดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์เข้ารับตำแหน่งกรรมการ TNL ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563
นายกฯเรียก‘รมต.ป้ายแดง’ติวเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคักแม้จะมีการงดประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งในเวลา09.10น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าปฏิบัติงานตามปกติ
จากนั้นเวลา 09.45น.นายกฯได้เรียกรัฐมนตรีใหม่สัดส่วนของพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อรับมอบนโยบายและแนวทางการทำงานของแต่ละกระทรวงให้สอดคล้องกับรัฐบาล
โดยน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯเดินทางเข้าพบนายกฯเป็นคนแรกตามด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขและน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม
นายกฯฝาก‘ธรรมนัส’แก้ภัยแล้ง
เวลา10.30น.นายกฯได้เรียกร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าพบ
โดยร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยหลังเข้าพบนายกฯว่าตนได้เข้ามาพบนายกฯเรื่องปัญหาภัยแล้งโดยนายกฯฝากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้งโดยเฉพาะเรื่องของการขุดลอกคูคลองดูภาพรวมทั้งหมดทั้งประเทศ ส่วนเรื่องของราคาสินค้าเกษตรตกต่ำก็เป็นไปตามฤดูกาล
ต่อมาเวลา 10.59น.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ตามด้วยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าด้วย
นายกฯเรียกผบ.ทบ.-เลขาสมช.ถก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 12.30น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า โดยมีพล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ,พล.ต.อ.รอยอิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ , พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรมว.กลาโหม ใช้เวลาประมาณ30นาทีจึงเดินทางกลับซึ่งคาดว่าเป็นการติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคง
ขณะที่พล.อ.ณัฐพลได้เข้ารายงานความคืบหน้าเรื่องของการเตรียมพร้อมแหล่งน้ำ เพื่อรองรับในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงที่ดินของทหารที่จะช่วยเหลือประชาชน
‘มาริษ’เข้าพบนายกฯบนตึกไทย
ทั้งนี้ เวลา 12.42 น.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ผู้มีรายชื่อถูกเสนอเป็น รมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลก่อนเดินทางกลับในเวลา 14.10 น.
จากนั้นในเวลา 13.18 น.นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี,นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังได้ทางเดินกลับออกจากทำเนียบฯ เช่นเดียวกัน
‘เสริมศักดิ์-สุดาวรรณ’รับนโยบาย
เวลา 09.45น.นายเสริมศักดิ์พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาเผยว่านายกฯได้เรียกตนและน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรมเข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อหารือถึงการทำงานด้านการท่องเที่ยวและงานในกระทรวงวัฒนธรรมและรับทราบนโยบายจากนายกฯส่วนตัวได้ทำการบ้านมาแล้วบางส่วนตามแผนงานที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้วางไว้ ตนจึงต้องรีบศึกษางานเพื่อจะทำให้เกิดความต่อเนื่อง
พร้อมต่อยอด ซอฟต์พาวเวอร์
เมื่อถามว่างานกระทรวงการท่องเที่ยวฯถือว่าเป็นงานถนัดหรือไม่ นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่าคิดว่าทำได้ ตนจะมุ่งมั่นทำงานในส่วนนี้เพราะถือว่าเป็นงานที่สร้างงานสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน ซึ่งเนื้องานของกระทรวงวัฒนธรรมที่ตนเคยดำรงตำแหน่งอยู่กับงานกระทรวงการท่องเที่ยวฯเป็นกระทรวงใหม่ถือว่ามีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกัน สามารถต่อยอดกันได้
“เพราะกระทรวงวัฒนธรรมเป็นฐานของคำว่าซอฟต์พาวเวอร์และนำคุณค่ามาต่อยอดเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงซึ่งผมจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวให้มากที่สุดทำให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้ แก้จนตามนโยบายของรัฐบาล”
ลั่นไม่กดดัน-ภูมิใจนายกฯไว้ใจ
เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ที่ต้องมาทำงานในส่วนของกระทรวงเศรษฐกิจหลักของประเทศนายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่กดดัน แต่รู้สึกภูมิใจที่นายกฯให้ความไว้วางใจว่าตนสามารถทำงานนี้ได้ ซึ่งในการปรับครม.ทุกครั้งก็มีทั้งผู้ที่พอใจและไม่พอใจมาโดยตลอด
เมื่อถามว่ามองการสลับกระทรวงกับน.ส.สุดาวรรณ อย่างไร นายเสริมศักดิ์ ตอบว่าในทางนโยบายแล้วคงต้องร่วมกันทำงาน ล่าสุดยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงการส่งมอบงานระหว่าง2กระทรวง เนื่องจากทั้งตนและน.ส.สุดาวรรณเพิ่งจะมาเจอกันในวันเดียวกันนี้ แต่ในเบื้องต้นตนมองน.ส.สุดาวรรณ เหมือนลูก เหมือนน้อง ทำงานกันมาด้วยดีมาโดยตลอดและคงจะเป็นไปด้วยความราบรื่นเกื้อกูลสนับสนุนซึ่งกันและกันต่อไป
แบ่งห้องทำงานรัฐมนตรีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังโปรดเกล้าฯรัฐมนตรีใหม่‘เศรษฐา 1/1’บรรดารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้ทยอยมาดูห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว สำหรับห้องทำงานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคมจะใช้ห้องทำงานเดิมของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขซึ่งอยู่ชั้น3 ของตึกบัญชาการ 1
ส่วนห้องทำงานของรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 คน จะอยู่ชั้น2ของตึกบัญชาการ 1 โดยห้องของนายพิชิต ชื่นบาน รมต.จะอยู่ห้องเดิมของตนเอง ส่วน น.ส.จิราพร และนายจักรพงษ์ แสงมณี จะใช้ห้องทำงานเดิมของนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งจะแบ่งซอยเป็น 2ห้อง สำหรับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 2คน ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่29 เม.ย.ซึ่งน.ส.จิราพร สินธุไพรได้เข้ามาดูห้องทำงานบนตึกบัญชาการ1 แล้ว
‘สุริยะ’รุดเข้าดูห้องทำงานใหม่
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงเช้าเวลา 08.40 น.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อดูห้องทำงานรองนายกฯที่ตึกบัญชาการ ซึ่งเป็นห้องเดิมของนายสมศักดิ์ เทพสุทินที่ย้ายไปเป็น รมว.สาธารณสุข
สส.เพื่อไทยแห่ให้กำลังใจแน่น
โดยมีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคมพร้อมด้วยบรรดา สส.เพื่อไทยจำนวนมากอาทิ นายครูมานิต สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ , นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา,น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย , นางพรรณศิริกุลณสิริ สส.สุโขทัย , น.ส.ธัญธารีย์สันตพันธ์ สส.อุบลราชธานี และนายนพดล เรืองทองนารา สส.พิษณุโลก นำกระเช้าดอกไม้มาแสดงความยินดีกับนายสุริยะที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯเพิ่มอีก 1 ตำแหน่ง
ยันส.ส.เพื่อไทยกลมเกลียวกันดี’
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคมกล่าวภายหลังเข้าดูสถานที่ทำงานตึกบัญชาการ 1ของรองนายกรัฐมนตรีโดยมีส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมแสดงความยินดี
โดยได้กล่าวฝากส.ส.ที่มาในวันนี้ ต้องเป็นกำลังสำคัญในการทำงานของรัฐบาลและช่วยกันลงพื้นที่ เพื่อช่วยงานนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายต่างๆ ของนายกฯ ซึ่งตนพร้อมที่จะลงพื้นที่ช่วยกันทำงานร่วมกับ ส.ส.ของพรรค และจากการที่ ส.ส.เดินทางมาในวันนี้ ถือว่ายังมีความกลมเกลียวกันดี ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างผลงานรัฐบาล
ให้รอ‘นายกฯ’แบ่งงานดูกระทรวง
นายสุริยะให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯยังไม่มีการแบ่งงานในตำแหน่งรองนายกฯ ส่วนจะได้กำกับดูแลกระทรวงอะไรหรือไม่นั้น ขอให้รอนายกฯมอบหมายแบ่งงานก่อน จะพูดก่อนคงไม่เหมาะยอมรับว่าได้มีการพูดคุยแบบคร่าวๆ แต่หากไม่ถึงวัน ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้ พร้อมปฏิเสธว่าตนไม่ได้ดูโครงการโคแสนล้าน
และยืนยันว่าตนสามารถบริหารจัดการเวลาในการทำงานระหว่างตำแหน่งรองนายกฯและรมว.คมนาคม ได้ โดยส่วนใหญ่ตนจะเข้ากระทรวงคมนาคม เป็นหลักประมาณ 80%
มั่นใจช่วยแบ่งเบางานนายกฯได้
เมื่อถามว่าการมานั่งตำแหน่งรองนายกฯตั้งใจจะทำอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่าจริงๆแล้ว ตนก็เคยเป็นรองนายกฯควบรมว.อุตสาหกรรม ไม่ใช่การดำรงตำแหน่งรองนายกฯครั้งแรก และคิดว่าน่าจะช่วยในเรื่องภาพรวมของงานที่จะช่วยประสานกับกระทรวงอื่นๆที่จะเป็นการช่วยแบ่งเบางานนายกรัฐมนตรี
แทงกั๊กดึง‘อนุชา’เข้ามาช่วยงาน
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ นายอนุชา นาคาศัย อดีต รมช.เกษตรฯสมาชิกกลุ่มสามมิตรที่หลุดจากตำแหน่งรมต.หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอนุชาบ้าง และได้ให้กำลังใจ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางผู้บริหารพรรคเมื่อถามย้ำว่าจะมีการดึงนายอนุชา มาช่วยงานด้วยหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า การที่จะมาช่วยในลักษณะงานทั่วๆไปก็คงไม่มีปัญหา ตนพร้อมที่จะรับฟังท่านอยู่แล้ว
‘อรรถกร’เข้าก.เกษตรฯขรก.แห่รับ
วันเดียวกัน ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นวันแรก เพื่อดูห้องทำงาน โดยจะใช้ห้องทำงานเดิมของนายอนุชา นาคาศัย อดีตรมช.เกษตรฯ เป็นห้องทำงาน ในการเดินทางมาเข้ามากระทรวงเกษตรฯครั้งนี้ มีข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ นำโดย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหารระดับสูง มอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี ในการรับตำแหน่งใหม่
โดย นายอรรถกร กล่าวขอบคุณข้าราชการที่แสดงความยินดีในการรับตำแหน่งใหม่ ในโอกาสที่เข้ามาทำงานร่วมกันในฐานะรมช.เกษตรฯทั้งนี้นายอรรถกรยังไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆเนื่องจากครม.ชุดใหม่ยังไม่ได้เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงการเข้ามาดูห้องทำงานอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี