‘ไทยสร้างไทย’ตอกกลับหัวหน้าพรรคแกนนำรัฐบาล ชี้‘ธนาคารชาติ’ต้องคงความเป็นอิสระ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาเสถียรภาพทางการเงิน แนะฟังเสียงเตือนองค์กรอิสระ หาวิธีประสานงานให้เกิดความราบรื่นต่อการบริหารประเทศดีกว่าการตัดพ้อต่อว่า
6 พฤษภาคม 2567 นายศรัณยู อึ๊งภากรณ์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงการแถลงผลงานรัฐบาล โดยแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาว่ามีประเด็นที่น่าสนใจและเกิดคำถามเป็นวงกว้างในสังคม หลังจากที่หัวหน้าพรรคดังกล่าวได้แสดงทัศนะคติถึง “ความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยว่าเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ หากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ยอมให้ความร่วมมือ จะไม่สามารถลดเพดานหนี้ได้เลย” นั้น ทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ได้แสดงความกังวลและไม่เห็นด้วยต่อทัศนคติอันแปลกประหลาดโดยได้ออกมาต่อว่าถึงบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย
นายศรัณยู กล่าวว่า หากย้อนกลับไปพิจารณา ตามพันธกิจของธนาคารแห่งประเทศไทยจะพบว่ามีหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมถึงการรักษาเสถียรภาพด้านราคา การป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจมีความผันผวนมากเกินไป พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในบางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งกับเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ เพราะในบางกรณี รัฐบาลอาจมีเป้าหมายที่ต้องการเห็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ซึ่งอาจขัดแย้งกับเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของธนาคารกลางได้ เช่น การดำเนินนโยบายการเงินที่ขยายตัวมากเกินไปนั้น อาจมีผลดีต่อการแก้ไขปัญหาการว่างงานและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ แต่อาจล้มเหลวต่อการสภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวเนื่องจากอาจสร้างสภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายศรัณยู กล่าวว่า แม้แต่ในด้านการพิมพ์ธนบัตรซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานที่สามารถพิมพ์ธนบัตร ได้ซึ่งสวนทางกับรัฐบาลที่มีความต้องการเข้าถึงแหล่งเงิน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมานั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีความเป็นอิสระเพื่อให้สามารถรักษาความมั่นคงของการเงินและไม่เป็นปัจจัยที่กีดกันในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายศรัณยู กล่าวว่า ไม่เพียงเท่านั้น ความเป็นอิสระของธนาคารกลางยังมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนต่างชาติด้วยอันเห็นตัวอย่างได้จากประเทศตุรกีที่มีการแทรกแซงเชิงนโยบายการเงินของธนาคารกลางโดยรัฐบาลตุรกี ที่เน้นนโยบายการเงินที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งท้ายที่สุด ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นถึง 60% และทำให้มูลค่าของเงินลดต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญซึ่งทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติเป็นจำนวนมากขนเงินออกนอกประเทศ
“ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทย ขออ้างอิงจากผลการวิจัยขององค์กรนานาชาติอย่าง IMF ที่แสดงผลเชิงประจักษ์ในการใช้กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 50 ประเทศจากทุก ๆ กลุ่มเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 2550 ถึง 2564 ซึ่งพบว่าความอิสระของธนาคารกลางมีผลกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีผลต่อการเสถียรภาพทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเสถียรภาพทางการเงินมีผลต่อการเติบโตของประเทศในทุกมิติอย่างต่อเนื่องระยะยาว” นายศรัณยู กล่าว
นายศรัณยู กล่าวว่า ดังนั้น คำถามสำคัญที่ควรกลับไปถามตัวเองคือ ทุกวันนี้ ท่านได้ฟังเสียงแจ้งเตือนขององค์กรอิสระหรือไม่ พร้อมทั้งหาวิธีประสานงานให้เกิดความราบรื่นต่อการบริหารประเทศมากกว่าที่จะทำการตัดพ้อต่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคการดำเนินนโยบายของตนนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ การแก้ไขปัญหาระยะยาวไม่ควรจบลงที่การจะเข้าไปก้าวก่ายองค์กรอิสระแต่ควรเป็นการหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตในปัจจุบัน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี