"กมธ.ความมั่นคงฯ"เชื่อทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมืองคอน เอี่ยวนักการเมืองในพื้นที่ ฝ่าย ตร.อ้างขอเวลา 1 สัปดาห์ รู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลัง ด้าน"มานพ"เรียกร้องเร่งบริหารจัดการกลุ่มผู้หนีภัยจากความไม่สงบเมียนมา
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าว การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า ครั้งนี้ได้มีการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งใหญ่ ที่อยู่ภายในประเทศไทย และเลือก จ.นครศรีธรรมราช เป็นที่ตั้ง จึงมีคำถามว่า เหตุใดจึงเป็นพื้นที่ของ จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นตอนนี้ได้ข้อมูลมาแล้วว่า มีการจับกุมชาวจีนหลายสิบคน คนไทย 12 คน และมีการดำเนินคดีร่วมกับทูตของจีนและทูตของญี่ปุ่น ร่วมด้วยกับเจ้าหน้าที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีผู้เสียหายอย่างน้อย 2 รายเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งถูกหลอกลวงโดยมีฐานการหลอกลวงอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งวันนี้ได้รับคำตอบจากตำรวจว่าจะมีการขยายผลแน่นอน ขอเวลาเพียง 1 สัปดาห์ จะได้มีการแถลงและนำการจับกุมต่อไปว่ามีใครบ้างอยู่เบื้องหลัง ซึ่ง กมธ.ก็จะมีการติดตามเรื่องนี้ต่อไป หลังจากนี้กรณีเกี่ยวกับ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่เกิดขึ้นในประเทศไทยของเรา และมีการเสียหายมูลค่านับล้านๆ จึงอยากให้ประชาชนได้ติดตามรายละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ ทาง กมธ.กล่าวต่อว่า การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใน จ.นครศรีธรรมราช ทาง กมธ.ได้เชิญตำรวจไซเบอร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในรายละเอียดขณะนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับได้เป็นคนจีน 51 คน คนไทย 12 คน ใน 12 คน เป็นคนนครศรีธรรมราช 4 คน ทั้งหมดทุกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำทุ่งสง
ส่วนความคืบหน้าของคดีได้มีการออกสำนวนให้ทางตำรวจไซเบอร์ส่วนกลางได้พิจารณา และทางตำรวจไซเบอร์ได้แจ้งในที่ประชุมว่าความคืบหน้าในคดีไม่เกิน 1 สัปดาห์ ก็จะมีความชัดเจน ในส่วนของการขยายผลไปที่นักการเมืองในพื้นที่ทราบตัวแล้ว ตอนนี้ข้อมูลต่างๆ น่าจะได้มีการแถลงต่อสาธารณชนประมาณ 1 สัปดาห์ข้างหน้า ในเรื่องนี้ทางรองผู้ว่า จ.นครศรีธรรมราช ได้พูดในเชิงว่าการที่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกเป็นพื้นที่เป้าหมายของแก๊งอาชญากรข้ามชาติในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว ต.จันดี อ.ฉวาง เป็นชุมชนชาวจีนดั้งเดิมการที่มีคนจีนเข้ามา 50 กว่าคน มากลมกลืนกับคนจีนในพื้นที่ แต่ก็ได้มีการติดตามพบว่าพื้นที่ที่แก๊งเหล่านี้มาพำนักอยู่มีการใช้น้ำ และไฟเป็นจำนวนมาก เป็นส่วนที่ทำให้เกิดการจับกุม จากนี้ก็จะมีการกวดขันในพื้นที่อย่างเข้มงวด
นอกจากนี้ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.ความมั่นคงฯ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าจากการติดตามผลกระทบที่เกิดจากความไม่สงบในเมียนมา โดยตั้งคำถามถึงการบริหารจัดการผู้หนีภัยในระดับพื้นที่ พร้อมเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานความมั่นคง ที่อยู่หน้าด่าน ยึดปฏิบัติตามแผนงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในกรณีเกิดสถานการณ์สู้รบในเมืองทวาย รัฐกะเหรี่ยง เมียนมา ที่อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดกาญจนบุรี ของประเทศไทย โดยขณะนี้มีความพยายามผลักดันผู้หนีภัยสู้รบกลับไป ทั้งๆ ที่สถานการณ์การสู้รบยังคงเกิดขึ้นอยู่ ซึ่งขัดกับคำแถลงและแผนงานของรัฐบาล ที่ระบุว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์สู้รบเราจะดูแลผู้หนีภัยตามหลักมนุษยชน ว่าเพราะเหตุใด จึงไม่ดำเนินการเหมือนในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หรือ อ.แม่สอด จ.ตาก รวมไปถึงการบริหารจัดการกลุ่มผู้หนีภัยทางการเมืองและกลุ่มผู้หนีภัยทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่มีระบบการดูแลที่ชัดเจนด้วย
นายมานพ ยังกล่าวถึงความพยายามในการหาทางพยายามเจรจาในรูปแบบต่างๆ ว่า กมธ.มีข้อเสนอที่ชัดเจนว่า ประเทศไทยจำเป็นจะต้องประกาศตัวอย่างชัดเจนที่จะเป็นตัวกลางเพื่อทำให้เกิดการพูดคุยในพื้นที่ปลอดภัยกับทุกๆ กลุ่มที่เกี่ยวข้อง เพราะตลอดแนวชายแดน ประเทศไทย เราเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้รับผลกระทบ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี