หวั่นเกิดขึ้นถี่! ‘มท1.’กำชับเข้มเฝ้าระวังเพลิงไหม้โรงงาน เผยไฟไหม้ถังโซลีนควบคุมเพลิงได้แล้ว
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ที่ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ว่า ตนได้รับรายงานตั้งแต่เกิดเหตุ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยระดับสอง และผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นผู้บัญชาการพื้นที่ ซึ่งได้มีการระดมอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้มาบตาพุดก็เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งมีมาตรการบริหารจัดการเหล่านี้อยู่แล้ว และล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยองว่าควบคุมเพลิงได้แล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือมีผู้เสียชีวิตหรือไม่ คาดว่าจะมีการรายงานมาอีกครั้ง โดยตนได้สั่งให้รายงานกลับมาโดยด่วน แต่ถึงอย่างไรแม้จะดับเพลิงได้แล้วแต่ต้องอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง เพราะเหตุดังกล่าวเป็นโรงงานปิโตรเลียมเคมี ซึ่งมีสารวัตถุไวไฟ ฉะนั้นต้องมีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการเยียวยาและฟื้นฟูทรัพยากรในพื้นที่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งตนมั่นใจว่าบริษัทดังกล่าวมีความปลอดภัยชั้นหนึ่งอยู่แล้ว เพราะเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีสูง
เมื่อถามถึงการติดตามว่าจะสร้างมลภาวะมากน้อยเพียงใด นายอนุทิน กล่าวว่า กำลังรอรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่ตนเชื่อว่าโรงงานเหล่านี้มีแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว ยืนยันว่า ช่วงนี้ต้องมีมาตรการเฝ้าระวังโรงงานอื่นๆ ด้วย เพราะมีเหตุเพลิงไหม้เยอะ ซึ่งตนเชื่อว่าจากสภาพอากาศอบอ้าวอาจมีส่วนด้วย โดยขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้งไปยังทุกหน่วยงานทุกจังหวัด คอยตรวจตราเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกับคนในจังหวัดเหล่านั้นให้ระมัดระวัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี