นายกฯเศรษฐา พร้อมรับประทานข้าวรมยา 10 ปี จากสต๊อกโครงการรับจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ ที่ภูมิธรรมจัดให้ ขณะที่เสี่ยหนูบอก “ถ้านายกฯกล้ากิน ผมก็กล้ากินด้วย” ด้าน “สุทิน”ยันกองทัพพร้อมซื้อข้าว10ปี โครงการรับจำนำ หากมีคุณภาพ ประกอบเลี้ยงกำลังพล ด้าน’ภูมิธรรม’เผยส่งออกยกโกดังไม่แบ่งขายในประเทศ
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวสั้นๆถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เตรียมจะนำข้าว 10 ปีจากโครงการรับจำนำข้าวในโกดังที่ จ.สุรินทร์ มาให้นายกฯรับประทาน ว่า “ผมไม่ทราบเลยครับ เดี๋ยวเขาก็จัดมาให้ทาน ยังไงก็อย่างนั้นแหละครับ”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะกินข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บมา 10 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจแล้วจะกินด้วยหรือไม่ ว่า“ท่านนายกฯกล้า ผมก็กล้า ผู้นำกล้า เราต้องกล้าดิ“
“สุทิน”จ่อซื้อให้ทหารรับประทาน
นายสุทิน คลังแสงรมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวทางร่วมรับซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมระบายข้าวจากโกดังมาประกอบเลี้ยงกำลังพลในกองทัพว่า ในส่วนของกองทัพพร้อมสนับสนุนรัฐบาล หากเป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล ในส่วนของงบประมาณของกองทัพ ยินดีที่จะรับและช่วย ซึ่งที่ผ่านมากองทัพก็ช่วยอยู่แล้ว ทั้งกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ ในการซื้อข้าวให้กับกำลังพล ผลไม้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในช่วงที่ผลผลิตออกมาเป็นจำนวนมากทำให้ราคาตกต่ำ หรือหากจะทำเป็นโครงการอย่างที่พูดคุยกัน เราก็ไม่ขัดข้อง “สำหรับคุณภาพข้าว ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ก็ต้องไปดูกันอีกครั้งว่าข้าวมีคุณภาพจริงหรือไม่ การชิมของท่านภูมิธรรม ถือเป็นการรับรองมาตรฐานระดับหนึ่ง แต่หากเราจะมั่นใจกว่านั้น อาจจะมีระบบที่ตรวจสอบได้อีก ก็ไม่เป็นไร”นานสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าหากข้าวผ่านขั้นตอนการตรวจสอบทุกอย่างและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายเราก็สามารถรับซื้อและมาแจกจ่ายให้กำลังพลได้ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนก็ต้องสอบถามไปยังผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เพราะว่าการจัดซื้ออาหารมาให้กำลังพลก็ต้องดูถึงคุณภาพ ถ้าหากมั่นใจแล้วว่าโอเคคุณภาพดีก็ไม่ต้องไปตรวจสอบแต่ถ้าคิดว่าอาจจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความมั่นใจทางด้านวิทยาศาสตร์ก็สามารถทำได้
‘ภูมิธรรม’ไม่แบ่งขายในประเทศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่มีนักวิชาการออกมาแสดงความเป็นห่วงข้าวหอมมะลิในโครงการรับนำจำข้าวนาน 10 ปี อาจมีสารปนเปื้อนสะสมจนทำให้เกิดมะเร็งในอนาคตได้ว่า ตนเองได้พิสูจน์ให้เห็นในขั้นตอนแรกแล้วว่า สภาพทางกายภาพข้าวยังดีอยู่ แม้สีจะเปลี่ยนไปบ้าง คุณภาพข้าวอาจไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่สามารถรับประทานได้ จึงขออย่าดรามาเรื่องนี้อีกเลย เพราะเป็นเพียงการสรุปสภาพทางกายภาพของข้าว และหากใครต้องการจะตรวจสอบ ก็สามารถมาตรวจสอบได้ การตรวจพิสูจน์ดังกล่าวมีทั้งสื่อมวลชน ข้าราชการ รวมถึงเซอร์เวย์เยอร์ ที่เป็นผู้ลงทะเบียนตรวจข้าวไปต่างประเทศ ที่ต่างชาติยอมรับตามมาตรฐาน รวมถึงผู้ส่งออก และโรงสีต่าง ๆ ที่มั่นใจว่า สามารถทำได้ และพร้อมประมูล ซึ่งในกระบวนการส่งออก เอกชนมีขั้นตอนในการปรับปรุงข้าวอยู่
ต้องมั่นใจก่อนขายให้ตปท.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เพื่อให้เกิดความมั่นใจและไม่มีดรามา ควรให้ทางสาธารณสุข หรือนักโภชนาการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะการวิจารณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับข้าวกว่า 150,000 กระสอบ และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ท้าทายใคร เพียงแต่ต้องการพิสูจน์เพื่อเตรียมเปิดประมูลให้ได้ราคา โดยคาดว่าจัสามารถผระมูลได้ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ และหากยังดรามากันไม่จบตนก็กังวลว่า เราจะเสียโอกาส และไม่สามารถประมูลได้
“ขอให้เชื่อว่า ประเทศที่รับซื้อ หรือผู้ค้า-ผู้ส่งออก เจ้าของโรงสี เขาคงไม่นำข้าวเน่าไปขายแน่นอน และหากจะขายต้องมั่นใจ ไม่เช่นนั้น ขายไปแล้วก็จะไม่มีใครมาซื้ออีก และประเทศที่รับซื้อ ก็จะต้องตรวจสอบอย่างเต็มที่ จึงขออย่าดรามาไปมากกว่านี้ ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ผมก็เคารพ เพราะถือว่าได้ทำตามขั้นตอนกระบวนการแรกเสร็จสิ้นแล้ว”
อคส.เตรียมเปิดประมูลข้าว 10 ปี
นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อคส.อยู่ระหว่างการทำทีโออาร์ เพื่อประมูลข้าวใน 2 โกดังสุดท้ายในโครงการรับจำนำที่จังหวัดสุรินทร์ ปริมาณข้าวรวม 15,000 ตัน เพื่อการบริโภคเป็นการทั่วไป เบื้องต้นคาดว่า จะออกประกาศเงื่อนไขการประมูลหรือทีโออาร์ได้กลางเดือนพฤษภาคมนี้ โดยเป็นข้าวหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ของโครงการรับจำนำปี 2556/57 ราคาประมูลเบื้องต้นจะอยู่ที่ 18 บาท ขั้นตอนของการประมูลจะเริ่มจากออกประกาศทีโออาร์/ชี้แจงรายละเอียดการประมูล/เปิดให้ผู้สนใจดูข้าวในโกดัง จากนั้นเปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติ ตรวจสอบคุณสมบัติปู้ผ่านเกณฑ์/หลังจากนั้นจะเปิดให้ยื่นซองเสรอราคา สรุปผลและประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลต้องทำสัญญาภายใน 15 วัน หากระบายได้ทั้งหมดจะทำให้รัฐมีรายได้ ราว 270 ล้านบาท ช่วยลดภาระค่าเช่าโกดัง การดูแลรักษาข้าวเดือนละ 380,000บาท ยืนยันว่า ข้าวดังกล่าวยังบริโภคได้ แต่ผู้ซื้อที่ชนะประมูลต้องปรับปรุงคุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี