สิ้นข้อสงสัย!‘ชนินทร์’ขอบคุณ‘กรมวิทย์ฯ’สร้างความกระจ่าง‘ข้าว’โครงการรับจำนำ วอนคนดิสเครดิตหยุดพฤติกรรมทำร้ายประเทศ ‘มูฟออน’ขายข้าวสร้างรายได้ ด้าน‘หมอชัย’ย้ำทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดและต่อเนื่อง ขณะที่‘องค์การคลังสินค้า’พร้อมนำข้าวทั้งหมดประกาศจำหน่ายเป็นการทั่วไป คาดไม่เกินสิ้น‘เดือนพฤษภาคม’นี้
20 พฤษภาคม 2567 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ให้ความชัดเจนต่อกรณีข้าวในโกดังที่จังหวัดสุรินทร์ ในโครงการรับจำนำข้าว ว่ามีคุณภาพตามมาตรฐานสามารถจำหน่ายได้ มีสารอาหารเทียบเท่าข้าวที่ขายตามท้องตลาดปัจจุบัน ไม่มีสารเคมีตกค้าง และการปนเปื้อนจากเชื้อรา สอดคล้องกับที่มีสื่อมวลชนได้นำไปทดสอบกับห้องตรวจเอกชนก่อนหน้านี้ จึงสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวทั้ง 2 โกดังนี้อย่างเต็มที่ เพื่อนำรายได้กลับเข้ารัฐในราคาที่เหมาะสม และคลี่คลายปัญหาการระบายข้าวที่ค้างคาเกินความจำเป็นมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ทำให้ประเทศเสียโอกาสไปมาก
นายชนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลทราบดีตั้งแต่ต้นว่าข้าวใน 2 โกดังนี้ ไม่ได้มีคุณภาพ 100% เหมือนข้าวใหม่ แต่ก็ต้องยืนยันว่ายังจัดเป็นข้าวดีที่มีคุณภาพเพียงพอจะจำหน่ายได้ และไม่เคยมีความคิดปกปิด ซ่อนเร้นสิ่งใด จึงได้แสดงความจริงใจผ่านการเชิญสื่อมวลชนเข้าติดตามทั้งกระบวนการมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่มีข้อเรียกร้องให้สะสางคดีในอดีตนั้น ตนเห็นว่า ปรากฏเป็นข่าวชัดเจนอยู่แล้วว่ามีการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อกรณีต่างๆอยู่ ทั้งโกดังที่มีการปล่อยปละละเลยการจัดเก็บตามมาตรฐานสัญญา หรือกรณีที่มีการประเมินข้าวเกรดสูงตัดเกรดเป็นข้าวเกรดต่ำเพื่อระบายในราคาถูก เป็นต้น เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความชัดเจนและความเป็นธรรมต่อไป
“ผลการตรวจสอบข้าวทั้งจากรัฐและเอกชนยืนยันตรงกันแล้ว ว่าข้าวมีมาตรฐานเพียงพอจะจำหน่ายได้ อยากให้กลุ่มที่มีอคติกับโครงการรับจำนำข้าวมูฟออน เลิกวิพากษ์วิจารณ์ข้าวเสียๆหายๆ เลิกทำลายความน่าเชื่อถือของข้าว และทำร้ายชาวนาไทย เพียงเพื่อหวังจะดิสเครดิตรัฐบาล แล้วเปิดใจรับทราบความตั้งใจดีในการทำงานของรัฐบาล และช่วยกันประชาสัมพันธ์ประเทศในแง่บวกจะดีกว่า” นายชนินทร์ กล่าว
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยจากกรณีข้อวิจารณ์ถึงคุณภาพของข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าว จำนวนกว่า 15,000 พันตัน ใน 2 โกดังข้าว ณ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งล่าสุดทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เผยผลการตรวจสอบข้าวแล้ว พบว่า ข้าวทั้ง 2 โกดังจากโครงการรับจำนำข้าว จังหวัดสุรินทร์ ปลอดภัย ไม่พบสารอะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) ตกค้าง และยังมีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมย้ำมีการทำงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียดต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้ได้รับผลการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล
โฆษกฯ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบดังกล่าว กรมวิทย์ฯ ดำเนินการตามระบบคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. ISO/IEC 17025 ในห้องแล็บที่ได้มาตรฐานของโลกและเอเชีย ใช้บุคลากร นักวิทยาศาสตร์กว่า 10 ท่านที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญสูง โดยได้รับตัวอย่างข้าวทั้ง 2 โกดัง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 จากกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเก็บตัวอย่าง (Surveyor) คือ บริษัท โคเทคนา อินสเปคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าต่างประเทศ มีมาตรฐานในการปฏิบัติ เเละมีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยแบ่งเป็น การเก็บข้าวตัวอย่างจากการผ่ากรอง 15 ชั้น จำนวน 3 กิโลกรัม และ จำนวน 5 กิโลกรัม รวมทั้งยังได้นำข้าวตัวอย่างที่ซื้อจากท้องตลาดมาเปรียบเทียบกันด้วย ซึ่งผลการตรวจจำแนกเป็น 3 ด้านหลัก โดยสรุป ดังนี้
1.) ด้านกายภาพ และสิ่งแปลกปลอม ตั้งแต่การใช้ตาเปล่า และกล้องจุลทรรศน์ขยาย 30 เท่า พบว่า ทั้งข้าวตัวอย่างที่ 1 และข้าวตัวอย่างที่ 2 พบเมล็ดข้าวทั้งเมล็ดสีเหลือง มีกลิ่นอับ พบมอดมีชีวิต และชิ้นส่วนแมลงปีกด้วงมากกว่าที่จำหน่ายตามท้องตลาด
2.) ด้านความปลอดภัย ใช้การตรวจซ้ำใหม่ (Retest) ถึง 3 ครั้ง และมีการควบคุมคุณภาพภายในห้องปฏิบัติการ (IQC) ผ่านเกณฑ์การยอมรับ พบว่า ไม่พบสารอะฟลาท็อกซิน ในข้าวตัวอย่างที่ 1 และข้าวตัวอย่างที่ 2 เช่นเดียวกับสารรมข้าว และสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด ก็ไม่พบมีสารตกค้างด้วยเช่นกัน แต่กลับกันพบสารอะฟลาท็อกซิน ในตัวอย่างที่ซื้อมาเปรียบเทียบ ซึ่งไม่ใช่ข้าว 10 ปีที่นำมาตรวจแต่พบในปริมาณที่น้อยมาก
3.) ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งกรมวิทย์ฯ ได้นำตัวอย่างข้าวสารในท้องตลาดมาตรวจเปรียบเทียบกับข้าว 2 ตัวอย่างดังกล่าว พบว่า มีคุณค่าทางอาหารไม่แตกต่างกับข้าวตัวอย่างที่ซื้อจากท้องตลาดมาเปรียบเทียบกัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผลการตรวจสอบดังกล่าว ทางกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุเพิ่มเติมว่า ข้าวทั้งหมดมีจำนวน 15,013.24 ตัน คิดเป็น 145,590 กระสอบ จะบูรณาการทำงานร่วมกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการตรวจสอบและจัดทำ TOR เพื่อประกาศจำหน่ายข้าวทั้งหมด โดยจะประกาศจำหน่ายข้าวในสต๊อกเป็นการทั่วไป ซึ่งคาดการณ์ว่าไม่เกินสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 นี้
“ผลการตรวจสอบครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทำงานอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่พร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนโดยละเอียด เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้วยความโปร่งใส จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า ข้าวดังกล่าวพร้อมสำหรับการขายให้กับตลาดที่ต้องการ ซึ่งจะมีกระบวนการปรับปรุงคุณภาพข้าวให้สอดคล้องมาตรฐานและความต้องการของผู้ซื้อต่อไป เพื่อนำรายได้กลับคืนสู่คลังประเทศอย่างคุ้มค่าที่สุด” นายชัย กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี