17 พ.ค.67 ที่ทำเนียบฯ  นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่จะมีการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ว่าเท่าที่ติดตามมีหลายภาคส่วนไม่เห็นด้วยกับการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ต้องคิดให้ละเอียด ถ้าเรามีกฎหมายที่ดีในการควบคุมก็จะเป็นประโยชน์ เพราะจะเห็นว่าทุกที่มีการนำกัญชามาใช้เพื่อสุขภาพ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข ควรมีการสำรวจหลังจากปลดล็อคกัญชา ว่าจะเป็นประโยชน์ได้มากกว่าหรือไม่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กัญชาส่อเดือด!! 'อนุทิน'ลั่นเห็นยิ้มๆแต่ไม่ได้ยอมดึงกลับไปเป็นยาเสพติด ถามตรงๆจะเยียวยาไหวมั้ย?)

นายคารม กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องของยาบ้านั้น ตนเห็นด้วยในหลักการที่พบเพียง 1 เม็ด สามารถดำเนินคดีและยึดทรัพย์ได้ทันที แต่สำหรับกัญชา หากนำกลับไปเป็นยาเสพติด ก็ต้องมีการประกันตัว ถ้าไม่ประกันตัวก็ต้องติดคุก แล้วคนที่ลงทุนไปจะให้เขาไปยืนตรงไหน ดังนั้นตนจึงเห็นว่าแนวทางของพรรคภูมิใจไทยที่ให้ใช้ความระมัดระวัง เพราะกัญชามีส่วนดีที่เป็นพืชสมุนไพรและพืชเศรษฐกิจ ถ้าเรามีความรอบคอบก็จะเป็นประโยชน์มากกว่า

เมื่อถามว่า ประเด็นนี้จะกลายเป็นเรื่องบาดหมางในรัฐบาลหรือไม่ นายคารม กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีนโยบายของแต่ละพรรค นำมารวมเป็นนโยบายรัฐบาล แต่จะดำเนินการอย่างไรก็ต้องเป็นการตัดสินใจของรัฐบาลเพื่อไทย หากเราไม่พูด แล้วมีการนำกลับไปเป็นยาเสพติด น่าจะเป็นผลร้ายมากกว่า ตนจึงอยากจะแจ้งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.)  ชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ก่อนที่จะนำกลับไปเป็นยาเสพติดน่าจะมีการสำรวจ ว่าหลังจากมีการปลดล็อคมาแล้ว จะเป็นประโยชน์มากกว่าหรือไม่

"เรื่องนี้ผมคิดว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ใช้ความรอบคอบดีแล้ว เพราะท่านก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการ ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่ไม่ดี แต่น่าจะเป็นเรื่องดีมากกว่าที่จะทำให้เกิดข้อระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

-001