'เลขา กกต.'ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับสมัคร สว. เผยพร้อมทั้ง 76 จังหวัด เข้มจนท.ดูแล ป้องกันฮั้ว-ซื้อเสียง

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจเยี่ยมสถานที่รับสมัคร สว. ที่สำนักงานเขตคันนายาว และสำนักงานเขตบางกะปิ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานเขต และผู้ที่ได้รับมอบเป็นผู้อำนวยการเป็นผู้อำนวยการเลือก สว. ให้การต้อนรับ ซึ่งยืนยันถึงความพร้อมสถานที่รับสมัคร ที่กำหนดไว้เป็น 5 จุด จะเริ่มจากจุดตรวจสอบเอกสาร โต๊ะรับสมัคร บันทึกข้อมูล ชำระค่าธรรมเนียม และออกใบรับสมัคร

โดยนายแสวง ให้แนวทางสำหรับการรับสมัครว่า ให้ดำเนินการรับสมัครไปก่อน เพราะถือว่าผู้สมัครแต่ละคนรับรองคุณสมบัติของตนเอง เนื่องจากมีการประกาศคุณสมบัติและข้อห้ามในการลงรับสมัคร สว. อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ในอนาคตหากมีการตรวจสอบหรือร้องเรียนกันเองของผู้สมัครก็ให้ส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา และหากพบว่าขาดคุณสมบัติผู้สมัครก็จะต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังให้ระมัดระวังเรื่องของตัวเลขที่อาจจะมีความคล้ายกัน เช่นเลข 1 กับเลข 7 เลข 6 กับเลข 9 และเลข 8

นายแสวง ยังเชื่อว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีผู้สมัครมากกว่าพื้นที่อื่น เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่มีบุคคลสนใจเป็นจำนวน และคาดหวังว่าวันสมัครตลอด 5 วันระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค.นี้ จะมีผู้สมัครเพิ่มขึ้น และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่ากทม. จะเป็นพื้นที่จุดแข็งที่สุดในการรับสมัคร พร้อมขอบคุณสำนักงานเขตที่สนับสนุนงาน กกต. ส่วนตัวมั่นใจศักยภาพในพื้นที่ กทม. จะไม่เกิดปัญหาโดยเฉพาะในระดับอำเภอหรือเขต ก่อนที่จะส่งต่อไปยังระดับจังหวัด ซึ่งผู้อำนวยการรับสมัคร อาจจะเจอความยุ่งยากในเรื่องของการตรวจสอบ เพราะหากมีผู้สมัครจำนวนมากก็จะใช้เวลาในการตรวจสอบนาน โดยเฉพาะในช่วงลงคะแนนหากมีผู้สมัครจำนวนมากก็จะเกิดการทักท้วงกัน

ดังนั้นจึงขอให้สำนักงานเขตแต่ละเขตเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ไว้ อย่าให้ประชาชนต้องเกิดความกังวลกับขั้นตอนการรับสมัคร แต่ให้ประชาชนกังวลว่าจะได้สว. ที่ถูกใจหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่แล้ว แต่เป็นหน้าที่ของผู้สมัครด้วยกันเอง ที่จะต้องเลือกกันเองเพื่อให้ได้สว. ตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ 200 คน จึงถือเป็นความร่วมมือของทุกคนไม่ใช่แค่ กกต. หรือเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนในเรื่องของงบประมาณในการดำเนินการ ยืนยันว่าทาง กกต. ได้จัดสรรไว้ให้แล้วแต่ละพื้นที่ไม่ต้องกังวลใจ

ทั้งนี้ นายแสวง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ยืนยันนอกจากสองเขตที่มาตรวจความพร้อมในวันนี้แล้วทุกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศมีความพร้อมในการรับสมัครสว. ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเกรงจะมีการฮั้วกันของผู้สมัคร ขณะนี้ กกต. ได้ติดตามความเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันหลังการรับสมัครจะมีการเผยแพร่ข้อมูลของผู้ลงรับสมัครผ่านเว็บไซต์ของ กกต. ซึ่งหากประชาชนพบผู้สมัครรายใดขาดคุณสมบัติหรือทำผิดกฎหมาย เช่น มีการฮั้วกันหรือจ้างวานให้ลงคะแนนก็สามารถร้องเรียนหรือให้ข้อมูลกับกกต. ได้ ซึ่งจะมีรางวัลให้กับผู้ให้ข้อมูลด้วย ทั้งนี้ในภาพรวมยังเชื่อว่าจะได้ สว. ชุดใหม่ 200 คนตามกรอบเวลาที่วางไว้

สำหรับเรื่องร้องเรียน นายแสวง กล่าวว่า มี 3 ประเภท คือเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เมื่อประกาศไปแล้ว ผู้สมัครเห็นว่าสมัครได้แต่ประชาชนอาจเห็นว่าไม่มีคุณสมบัติ ก็อาจยื่นเรื่องต่อ ผอ.เขตเพื่อยื่นต่อให้ศาลฎีกาพิจารณา นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการจำกัดสิทธิ เช่นไม่ได้เลือกส่วนท้องถิ่น 2 ปีหรือลงสมัครมากกว่า 2 กลุ่มก็ต้องลบชื่อออก และจะส่งต่อให้ศาลฎีกาพิจารณาให้เสร็จก่อน1 วัน แต่หากไม่เสร็จให้ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ยังมีเรื่องร้องระหว่างกระบวนการลงคะแนนเลือก ที่ยังสามารถทักท้วงกรรมการวินิจฉัยได้ทันที และยังร้อง กกต. ได้อีกช่องทางหากไม่พอใจ ซึ่งคำวินิจฉัยของกกต.เป็นที่สิ้นสุด

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องร้องเกี่ยวกับการซื้อเสียง การฮั้วการจ้างคนมาลงสมัคร ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณา อาจไม่แล้วเสร็จตามกระบวนการเลือกระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลา เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อยากให้สบายใจว่าทั้ง 3 เรื่อง จะไม่กระทบกับไทม์ไลน์หรือโรดแมปในการประกาศให้ได้สว. 200 คน

เลขาธิการ กกต. ยังเชื่อว่าประชาชนตื่นตัว กับการเลือก สว. ครั้งนี้หลังมีการรณรงค์จาก กกต. และกลุ่มอื่นๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความสนใจที่จะมาลงสมัคร มีเงื่อนไขจำนวนมาก เช่น เกณฑ์อายุ และกลุ่มอาชีพ ที่ต้องมีประสบการณ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้สมัครเหลือน้อย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าจะยังคงมีผู้สมัครจำนวนมาก และช่วงนี้อาจยังชั่งใจ รอการตัดสินใจลงสมัคร ดังนั้นจึงต้องรอดูวันรับสมัคร ซึ่งวันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกว่าจะมีผู้สนใจมากแค่ไหน