"เจิมศักดิ์"บอกถือเป็นโชคดีโครงการจำนำข้าวเจ๊ง เกือบทำลายกลุ่มชาวนาข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ จี้รัฐควรเปลี่ยนวิธีคิดเน้นแค่ราคาสูง-แจกเงิน ควรปรับโดยนำเทคโนโลยีมาพัฒนา ดิน น้ำ แสงแดด มาใช้ช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยผลิตผลต่ำสุด เพื่อแข่งขันประเทศอื่น เพราะข้าวไทยผลิตส่งขายแค่ 1% เศษของตลาดโลก ขณะที่ข้าวไทยคุณภาพตรงความต้องการตลาดยุโรปได้ราคาสูงเพิ่ม 3 เท่าตัว
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดสินค้าเกษตร อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านทางรายการ WATCHDOG CHANNEL ในประเด็น "ส่องอนาคตข้าวไทย" นโยบายจำนำข้าวทำลายการผลิตข้าวคุณภาพ และการรวมตัวของเกษตรกรกลุ่มอินทรีย์ อนาคตข้าวไทยควรจะมุ่งสู่หนทางใด โดยระบุว่า
โครงการจำนำข้าวนอกจากโกง และเกิดความสูญเสียในโกดังทั้งหลายแล้ว ยังเกิดผลเสียกับประเทศ โดยทำให้ข้าวคุณภาพ ข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษของประเทศได้รับความเสียหายไปด้วย และยิ่งไปกว่านั้นเกือบจะทำลายตลาดของกลุ่มชาวนาปลูกข้าว คุณภาพปลอดสารพิษที่ส่งขายตลาดยุโรป แต่โชคดีว่าโครงการรับจำนำข้าวเจ๊งไปก่อน
ขณะที่ตลาดขายข้าวมีการแข่งขันกันระหว่างประเทศสูง แต่วิธีการโครงการรับจำนำข้าวทำให้คนคิดว่าปลูกข้าวอะไรก็ได้ เพราะรัฐคิดเน้นเฉพาะแค่การรับซื้อข้าวราคาสูง นี่คือการทำลายตัวเองชัดๆ แทนที่รัฐบาลจะสร้างชาวนาอาชีพให้ทำผลิตผลตรงตามความต้องการของตลาดผู้บริโภคข้าวราคาสูง ตัวอย่างเช่น กลุ่มชาวนาปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษ ในจังหวัดยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ นั้น มีตลาดยุโรป มีคนบินมาดีลซื้อข้าวถึงที่ โดยตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าว ต้องไม่มีสารเคมี ยาฆ่าแมลง ปุ๋ยอย่างน้อย 3 ปี และสีข้าวในโรงสีเฉพาะข้าวปลอดสารพิษเท่านั้น ซึ่งกลุ่มเกษตรกรปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารพิษขายตลาดยุโรปได้ราคาสูงกว่าที่ชาวนาเคยขาย 3 เท่าตัว
อนาคตข้าวไทยที่ตนอยากจะเห็นพัฒนานั้น การเพิ่มผลผลิตให้ข้าวอินทรีย์ที่ปลอดสารพิษ โดยการนำเทคโนโลยี ดิน น้ำ แสงแดด มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถ ลดต้นทุนผลิตผลต่อหน่วยลงให้ได้ต่ำมากที่สุด เมื่อต้นทุนการผลิตต่ำลงได้มากที่สุด เพราะเราส่งออกข้าวเพียง 1% เศษๆ ของผลผลิตข้าวทั้งโลก ซึ่งเราไม่สามารถเป็นผู้กำหนดราคาข้าวในตลาดโลกได้ ดังนั้น ข้าวไทยที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ ปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่ได้ผลิตผลมาก แต่มีต้นทุนลดลงต่ำสุดต่อหน่วยผลิตผลที่ได้มาก ก็จะสามารถช่วยให้ข้าวไทยส่งขายแข่งขันในตลาดโลกสู้ข้าวประเทศอื่นได้
ทั้งนี้ ข้าวมีคุณภาพ 3 ประการ คือ 1) TASTY ข้าวกินอร่อย กลิ่นหอม มีความเหนียวนุ่ม 2) SAFETY กินแล้วปลอดภัย ปลอดสารพิษ ซึ่งตลาดยุโรปยินดีซื้อราคาแพง 3) HEALTHY คนเชื่อว่า ข้าวมีคาร์โบไฮเดรตสูง น้ำตาลสูงจะเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการทำวิจัยข้าวน้ำตาลไม่สูง มีวิตามิน มีโปรตีน มีไฟเบอร์ ซึ่งรัฐควรจะส่งเสริมการผลิตให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการตลาดที่รับซื้อข้าวราคาสูง
ซึ่งโครงการจำนำข้าว การประกันรายได้ คือการที่รัฐแจกเงินให้อย่างมีระบบนั้น ไม่สามารถทำให้ชาวนาพึ่งพาตนเองได้ ไม่ใช่เอะอะๆอะไรก็รัฐ เรามักจะนึกแค่เรื่องราคาดี โดยไม่ได้หาวิธีการทำอย่างไรให้ได้ผลผลิตสูง แต่ต้นทุนต่ำสุด เพื่อให้ได้ข้าวตรงตามความต้องการตลาดกลุ่มประเทศยุโรป หรือผู้ซื้อยินดีจ่ายราคาสูงเพื่อกินข้าวดีต่อสุขภาพของเขา ดังนั้น รัฐควรจะปรับวิธีคิดแจกเงินอย่างที่ผ่านมา แต่หันส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาการผลิตข้าวโดยลดต้นทุนของชาวนามืออาชีพ เพื่อให้ได้ผลิตผลข้าวที่มีคุณภาพและปลอดภัย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี