วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘เศรษฐา’นัดถกทีมก.ม.สู้คดีศาลรธน. ไม่ได้เตรียมแผน2 รัฐบาลยังเดินหน้าทำงานต่อ

‘เศรษฐา’นัดถกทีมก.ม.สู้คดีศาลรธน. ไม่ได้เตรียมแผน2 รัฐบาลยังเดินหน้าทำงานต่อ

วันเสาร์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : เศรษฐา ศาลรธน.
  •  

‘เศรษฐา’นัดถกทีมก.ม.สู้คดีศาลรธน.

ไม่ได้เตรียมแผน2

รัฐบาลยังเดินหน้าทำงานต่อ

ยอมรับกังวลทุกเรื่องอยู่แล้ว

‘อุ๊งอิ๊ง’ยังไม่พร้อมนั่งนายกฯ

เชื่อ‘เศรษฐา’ทำหน้าที่ต่อได้

นายกฯเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 เสนอ 3 แนวทางเพื่อแก้ไขความท้าทาย 3 ประการ มุ่งมั่นส่งเสริมการค้า-การลงทุนการเปลี่ยนผ่านสีเขียว และดิจิทัล ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เผยนัดถกทีมก.ม.เตรียมข้อมูลแจงศาลรธน.เสาร์-อาทิตย์นี้ มั่นใจทำถูกต้อง ไม่มีแผนสอง ยัง “มูฟออน” เดินหน้าทำงานต่อ ชี้ปรับครม.ขอคุยพรรคร่วมก่อน รับกังวลทุกเรื่องอยู่แล้ว“สว.ดิเรกฤทธิ์”

โต้ข้อครหา แจงไม่เปิดชื่อ40สว.ยื่นถอดถอนนายกฯ หวั่นถูกโยงการเมือง-กดดันศาล ย้ำสว.มีสิทธิยื่นร้องยันไม่มีใบสั่งระบุกฎหมายบอกให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีสว.ชุดใหม่ เรามีอำนาจเต็ม ด้าน40สว. คาดไม่เกิน3เดือน ศาลตัดสิน’เศรษฐา’รอดหรือร่วง


เมื่อวันที่ 24พฤษภาคม2567 ผู้ข่าวรายงานภารกิจในวันสุดท้าย ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางเข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 22-24 พ.ค.ที่กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น ว่า เวลา 09.40น.(ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโตเกียว ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ที่ห้องฟูจิ โรงแรม Imperial กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุม Nikkei Forum Future of Asia ครั้งที่ 29 พร้อมกล่าวปาฐกถาภายใต้หัวข้อ “Asian Leadership in an Uncertain World” (การเป็นผู้นำของเอเชียในบริบทโลกที่มีความผันผวน)

‘เศรษฐา’เดินทางกลับไทย24พ.ค.

นายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งถึงโลกที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายพร้อมนำเสนอว่า ความท้าทายเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือสามประการ ได้แก่ ความท้าทายประการแรก เอเชียเปรียบเสมือนจุดสมดุล ซึ่งมหาอำนาจพยายามรักษาความสมดุลที่เหมาะสมกับภูมิภาคเอเชีย สำหรับความท้าทายที่สอง นายกรัฐมนตรีเห็นโอกาสฟื้นฟูจิตวิญญาณของความร่วมมือและโอกาสเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคเอเชียควรร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ความท้าทายที่สาม คือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ที่ต้องเตรียมความพร้อมรับมือ ด้วยสามความท้าทายนี้ นายกรัฐมนตรีเสนอความร่วมมือเร่งด่วนสามประการ ประกอบด้วย หนึ่ง ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนเพราะเศรษฐกิจเป็นฐานรากของสันติภาพและเสถียรภาพ เอเชียต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ปรากฏการณ์การย้ายฐานการผลิต ,สอง การเปลี่ยนผ่านสีเขียว การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายและเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ,สาม การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โลกที่เชื่อมต่อกันทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเต็มรูปแบบ เอเชียต้องรักษาบทบาทนำร่วมกัน ฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งในยุค Asian Century และไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรขอให้มั่นใจว่าไทยจะยืนเคียงข้างญี่ปุ่น

หอบความสำเร็จกลับประเทศไทย

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เวลา 11.30น.นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องบินของบริษัทการบินไทยจำกัดมหาชน Boeing 787-8 เที่ยวบินพิเศษที่ TG 8847 กลับประเทศไทย โดยมีนายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูตณกรุงโตเกียวพร้อมข้าราชการรอส่ง โดยมีกำหนดเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจังหวัดสมุทรปราการในเวลาประมาณ 16.00 น. ถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจของนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ในการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส สาธารณรัฐอิตาลีและประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15-24พ.ค.รวมเวลา 10วัน

นัดถกทีมกม.แจงศาลเสาร์-อาทิตย์นี้

เวลา 16.30น.ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากรับคำร้องของ 40สว.กรณียื่นถอดถอนจากตำแหน่งปมเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯได้ดูเอกสารเรื่องดังกล่าวแล้วหรือยัง ว่า ได้ดูแล้ว เดี๋ยวจะต้องคุยกับทนายในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ ต้องคุยกับทีมงานที่จะทำเรื่องให้ไปตอบศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า นายกฯมองหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือเป็นการวางยา นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะมองอย่างนั้น ตนมองว่าเราเข้าสู่การเมืองแล้ว อย่างที่บอกเมื่อวันที่ 23 พ.ค.นี้ ฝ่ายบริหารมีหน้าที่ตอบคำถามฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการ ถ้าเขามีข้อสงสัยก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องตอบ และตนก็มั่นใจในเรื่องที่เราทำมาว่าถูกต้อง แต่ก็ไม่อยากจะพูดเยอะไป ต้องให้เกียรติศาลรัฐธรรมนูญด้วยเหมือนกัน ขอเตรียมข้อมูลก่อน

ยอมรับกังวลทุกเรื่องรวมทั้งร้องศาล

เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลอะไรใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของความกังวลตนตอบหลายครั้งแล้ว มีคนถามเยอะ ซึ่งตนกังวลทุกเรื่อง เพราะอยู่ตรงนี้เป็นเรื่องของความเป็นอยู่ประชาชน เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ไม่เท่าเทียมและปัญหาที่ สว.ไปร้องกับศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นความกังวลแน่นอน

รบ.เดินหน้าต่อไป-ว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่า ทางสภาอุตสาหกรรมได้ออกมาแสดงความกังวลว่าอาจจะกระทบต่อความเชื่อมั่น ตรงนี้นายกฯจะทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรม นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นประเด็นเหมือนกัน เรื่องที่จะทำได้ปัจจุบันคือต้องทำงานต่อไป และชี้แจงว่ารัฐบาลก็ยังมูฟออนกับนโยบายต่างๆที่เราทำอยู่ เมื่อถามว่า นายกฯจะใช้ฝ่ายกฎหมายจากส่วนไหนบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ก็คงใช้หลายส่วน หลายคน เดี๋ยวต้องขอไปปรึกษากันก่อนในวันที่ 25 พ.ค. เพราะยังไม่ได้เจอกันเลยตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อถามว่า นายกฯจะมีแนวทางต่อสู้อย่างไรถ้าดูข้อกฎหมายแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าจริงๆแล้วเรื่องกฎหมายหรือแนวทางทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงอยู่แล้ว และเจตนารมณ์ด้วย เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนายกฯมีแผนรองรับอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า “อุบัติเหตุอย่างไรครับต้องถามก่อน ก็ต้องว่าไปตามกฏหมาย เราเคารพทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องของการที่เดินเข้าสู่ถนนของการเมืองอยู่แล้ว”

เมื่อถามว่า ได้มีโอกาสพูดคุยให้กำลังใจนายพิชิตหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วันนั้นที่ท่านลาออก ก็มีการให้สัมภาษณ์สื่อไป และตอนกลางคืนตนก็โทรหาท่าน และขอบคุณที่ท่านลาออก เห็นแก่ประเทศชาติ ก็เท่านั้นเอง ยังไม่ได้พูดคุยอะไรต่อ

ปรับครม.2เก้าอี้ว่างรอคุยพรรตร่วม

เมื่อถามว่า เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ขณะนี้เก้าอี้ว่างลง 2 ตำแหน่ง นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องขอไปคุยกับทุกๆพรรคก่อน ถือโอกาสนี้นั่งคุยกันดีกว่า มีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน เมื่อถามว่า จะให้ใครมาแทนนายพิชิต นายกฯกล่าวว่า เป็นคำถามเดียวกับเรื่องปรับ ครม.คงไม่ใช่คนเดียว คงต้องรวมทั้งหมดและเวลาที่เหมาะสมด้วย เพราะทางพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ว่าง 1 ตำแหน่ง ก็ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยกัน แต่ตนยังไม่ได้คุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

ไม่มีแผนสอง-ทำหน้าที่นายกฯต่อไป

เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าเรื่องนี้อาจจะกระทบถึงตำแหน่งของนายกฯ ได้เตรียมแผนไว้หรือไม่

นายเศรษฐา กล่าวว่า“ที่บอกว่าผมเตรียมแผนไว้อย่างไรผมไม่ได้เตรียม ผมได้เตรียมตอบเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยมากกว่า และคู่ขนานก็ต้องบริหารบ้านเมืองต่อไป ต้องทำหน้าที่นายกฯต่อไป มีงานอะไรก็ทำเหมือนเดิมทุกอย่าง อย่างวันจันทร์นี้จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจ ว่าเราจะมากระตุ้นเศรษฐกิจกันอย่างไร“

‘อุ๊งอิ๊ง’ยังไม่พร้อมนั่งเก้าอี้นายกฯ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ 40สว.ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ เนื่องจากแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีโดยขาดคุณสมบัตินั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่ว่า จะเป็นการแต่งตั้ง ครม.หรือปรับ ครม.นอกจากนายกรัฐมนตรีจะดูเรื่องความรู้ความสามารถ แล้ว ก็ยังดูเรื่องของคุณสมบัติด้วยอย่างถี่ถ้วน จึงคิดว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถอธิบายเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนแล้วส่วนเรื่องของแผนสำรอง ส่วนตัวคิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคิดว่านายกรัฐมนตรีจะยังปฏิบัติหน้าที่ต่อ และยังคงสู้ในเรื่องของเศรษฐกิจและปากท้องของพี่น้องประชาชนต่อไป

การตรวจสอบเป็นไปตามกลไก

เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ เพราะ นายพิชิต ก็เคยใช้คำว่าเรื่องนี้เป็นวงจรอุบาทว์ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า การตรวจสอบคงต้องเป็นไปตามกลไกอยู่แล้ว ส่วนที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล มองว่าเป็นการวางยา นายกฯ น.ส.แพทองธาร ย้ำอีกว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไก ถ้าคิดว่าเป็นการวางยา ยาอะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน ทุกอย่างต้องเข้าระบบ ไม่เช่นนั้นประเทศก็จะไปต่อไม่ได้ เมื่อถามว่าการที่มีหลายฝ่ายประเมินว่า ตำแหน่งนายกฯ อาจกลับมาเป็นของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรค ส่วนตัวมีความพร้อมหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องนี้เลย เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็น นายกฯยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วนตัวเองก็ยังเป็นหัวหน้าพรรค และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ หน้าที่ตรงนี้ของตนก็ทำให้ดีที่สุด

มั่นใจ’เศรษฐา’ยังทำหน้าที่ต่อไปได้

เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมรายชื่อผู้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทนนายพิชิต ให้นายกฯ พิจารณาแล้วหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาอย่างเป็นทางการ และเรื่องเกี่ยวกับ ครม.ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรี และตนก็มั่นใจว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาเป็นคุณต่อ นายเศรษฐาและมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ

‘ดิเรกฤทธิ์’โต้ครหายื่นถอดถอนนายกฯ

ด้าน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม หนึ่งใน40 สว.ให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้ร้องลายเซ็นต์40ส.ว.ที่ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นลายเซ็นต์ปลอม ในรายการ กรรมกรข่าว‘คุยนอกจอ’ทางยูทูบช่อง สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าวว่าเขาใช้สติปัญญาส่วนไหน เรื่องอะไร ยังไง ถึงมาคิดได้ว่าควรจะมาฟ้องอย่างนี้ ซึ่งมันเป็นไปได้ยาก ตามคำฟ้องของเขา เป็นการทำงานของสภา มีระบบชัดเจน เวลาเราเป็น สว.เราต้องไปทำประวัติไว้ เวลาเราใช้สิทธิทำอะไรต่อประธาน ยื่นเสนอญัตติให้มีการพิจารณาในวุฒิสภา ก็ต้องนับจำนวน ดูลายเซ็น เป็นเรื่องพื้นฐานมากๆเลย ถ้าเทียบลายเซ็นแล้วถูกต้อง ท่านประธานวุฒิฯถึงจะดำเนินการต่อ เรื่องนี้ผ่านหลายขั้นตอนมาก ศาลท่านก็รับ ก็แปลว่า ตรวจสอบ2ชั้นแล้ว กระทั่งมีการพิจารณา เมื่อถามว่า มีเค้าลางมาจากไหนไหม นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่รู้ เรายังตรวจสอบคนอื่นเลย ถ้าคนอื่นอยากตรวจสอบเรา ถ้าคนอื่นทำให้คนอื่นเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ เขากล่าวหารุนแรงว่าเราทำผิด ถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้นเราก็ฟ้องกลับได้ เขาจะใช้ไหวหรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ

ไม่เปิดชื่อ40สว.หวั่นคุกคาม-ล็อบบี้

เมื่อถามอีกว่าทำไม 40สว.จึงไม่เปิดชื่อนั้น นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า เขาเห็นผมเหนื่อยก็บอกว่าจะช่วยออกมาช่วยอธิบาย เราอธิบายได้อยู่แล้ว เป็นผู้ใหญ่มีเหตุมีผล แต่ในขั้นตอนแรกเป็นเรื่องกระบวนการไปสู่ศาล ไม่อยากเปิดให้เป็นปัญหา เปิดมาก คนนู้นคนนี้ตอบไม่ตรงกัน รัฐบาลยังมีโฆษกเลย กรรมาธิการก็มี เขาก็มอบหมายตนว่า ให้ช่วยหน่อย ก็อธิบายไปเบื้องต้น ถ้ามาถึงจุดหนึ่ง ศาลตัดสินแล้ว ก็ต้องเปิดชื่อทั้งหมดอยู่ดี เพราะเราทำงานในหน้าที่ เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การเปิดระหว่างทาง จะเป็นผลดีต่อตัวเองหรือเปล่า หรือมีคนมาคุกคาม ล็อบบี้ ต่อว่า ก็จะได้รับผลกระทบ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดมั้ง พอเปิด ก็มีกระแสทางการเมืองว่าไปแกล้งหรือไม่แกล้งใคร สุจริตไหม จะเป็นกระแสสังคมที่อาจจะคลาดเคลื่อน เรื่องเหล่านี้เนี่ยอาจจะไปมีผล ไปกดดันศาล หรือมีผลต่อความเป็นอิสระของท่าน ก็ไม่ควรที่จะไปให้ข้อมูลแบบนี้

“ณ วันนี้ก็มีหลายท่าน ก็จะให้ชื่อแล้ว ไปสัมภาษณ์ ส่วนชื่อ40ท่าน ก็ต้องไปถามก่อน ใจผมก็อยากจะให้เปิด ไม่ยากอะไร มีสว.หลากหลาย มี นพ.อาจารย์ นักวิชาการ ทนายความ ด้านกฎหมาย ข้าราชการเก่า ผู้ว่าฯ อธิบดี เยอะแยะ”นายดิเรกฤทธิ์ ย้ำ

โต้สาย’ลุงป้อม’จินตนาการไปเอง

เมื่อถามว่าไม่เป็นไปตามข้อครหาใช่ไหม ที่ว่าเปิดมาแล้วเป็นสายลุงป้อม นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า นั่นแหละ มันอาจจะคลาดเคลื่อนในแง่ของความเข้าใจได้ ถ้าคุณไปคิดเอง ไปมีฉากทัศน์ทางการเมือง และไปกล่าวหาว่า คนนี้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคนนี้ คนนี้เคยเป็นลูกน้องคนนี้ ซึ่งก็รู้จักกันทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นเขาจะเชื่อมั่นว่าคนนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ จะสรรหาให้เป็น สว.ได้อย่างไร ตนคิดว่าไม่ใช่สาระหลักของข้อมูลที่ควรเปิด สิ่งที่ควรเปิดก็คือ ประเด็นเนื้อหา ข้อกล่าวหา หากคุณเคยเป็นใครมา แล้วเนื้อหาอย่างนี้ควรทำ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอดีต ต้องแยกกัน

ไม่มีใบสั่งการเมือง-มีอำนาจทำได้

เมื่อถามว่า เพราะอะไรสว.อีกกลุ่มถึงไม่คิดว่าควรจะทำ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ เขาวิเคราะห์ทั้ง 2ประเด็นว่ามันพ้นไปแล้ว ควรอยู่เฉยๆ อย่าใช้หน้าที่ตรงนี้เลย เขาตีความกฎหมายต่างจากเรา กฎหมายบอกให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมีส.ว.ชุดใหม่ เรามีอำนาจเต็ม ข้อที่ 2 เขาคิดว่า ไม่จำเป็น เขาอาจจะคลุกคลีกับการเมือง เขาใช้คำว่า สร้างปัญหาให้บ้านเมือง ตนก็เห็นต่างก็อธิบายว่าเป็นหลักการปกครอง การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาล ต้องไม่มีสิ่งที่คลางแคลงสงสัย เห็นต่างได้ ก็ไปอธิบายกับสื่อ แต่อย่าไปกล่าวหาให้คนอื่นเสียหาย ไปต่อว่า ต่อขาน พูดไปให้ข้อมูลในทำนองที่ว่า เรามีเป้าหมายทางการเมือง มีผลประโยชน์ ก็ต้องออกมาบอกว่าไม่ได้นะ ออกมาอธิบายว่าส.ว.ต้องเป็นกลางทางการเมืองและไม่ต้องไปคิดว่าใครจะได้ประโยชน์ ต้องดูปัญหาทางรัฐธรรมนูญ ที่เกิดขึ้นจริงก็แค่นั้นเอง “งานนี้ ไม่มีใบสั่งถ้าไปจินตนาการแบบนั้น ทุกคนก็เห็นแก่ตัวหมด บ้านเมืองอยู่ไม่ได้ แล้วไม่เชื่อมั่นในเหตุผล และการทำงานของใครเลย บ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร”

40สว.คาดไม่เกิน3เดือนรู้ผลวินิจฉัย

นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะหนึ่งในกลุ่ม 40 สว.ที่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี วิเคราะห์ว่า กระบวนการพิจารณาไต่สวนคำร้องคดีดังกล่าวของศาลรัฐธรรมนูญต่อจากนี้ คิดว่าไม่น่าจะเกิน 3เดือน ก็น่าจะมีการนัดอ่านคำวินิจฉัย เพราะคำร้องคดีลักษณะดังกล่าว ไม่ใช่คดีที่มีความสลับซับซ้อนเท่าใดนัก ข้อเท็จจริงที่เป็นพยานหลักฐานในคดี ปรากฏอยู่ในคำร้องค่อนข้างครบถ้วนอยู่แล้ว แต่อาจมีพยานที่อาจเข้ามาเพิ่มเติมบ้างในคดีจากการพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ หรือจากการฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา หรือเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก่อนที่นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องจะนำชื่อ (พิชิต ชื่นบาน) ขึ้นกราบบังคับทูลฯ คิดว่าการพิจารณาไต่สวนคำร้องไม่เกิน 3เดือน ก็น่าจะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตามไทม์ไลน์ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยพิจารณามาก่อนหน้านี้

“ส่วนการที่จะมีการเปิดห้องไต่สวนพิจารณาคำร้องเพื่อเรียกบุคคลต่างๆ มาให้ถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผมคิดว่า อาจเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีการเปิดห้องพิจารณาไต่สวนคดี เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญก็คงต้องการให้การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างรอบคอบและให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนมากที่สุด เพราะว่าประเด็นตามคำร้อง มีผลกระทบต่อสถานะ ตำแหน่งหน้าที่ของบุคคลสำคัญที่เป็นถึงระดับนายกรัฐมนตรี ดังนั้น การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยให้ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ก็คงต้องการให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ เพียงพอที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยได้” นายประพันธ์ ระบุ

ปชป.แนะลาราชการจนกว่าวินิจฉัย

นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)และสส.พัทลุง กล่าวว่า จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ 40สว.ที่ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กรณีที่ตั้งนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง ๆ ที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า นายพิชิต ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากนายพิชิตเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่ง จำคุกเป็นเวลา 6เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงและศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้ผู้ถูกร้อง (นายเศรษฐา) ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง และมีมติไม่สั่งให้ผู้ถูกร้อง (นายเศรษฐา) หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ดังนั้นจึงทำให้ นายเศรษฐา นายกฯ คนที่ 30 มีเวลา 15 วันในการยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2516 มาตรา 54 แต่สามารถขอขยายเวลาได้

นายร่มธรรม กล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ท้ายที่สุดหากผลของคดีนี้ออกมาไม่เป็นคุณกับประมุขฝ่ายบริหาร ด้วยการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐาสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ก็จะไม่ทำให้ ครม.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ แต่รัฐมนตรีที่เหลือยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่และตั้ง ครม.ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่“ผมจึงเสนอว่า ในช่วงนี้หากให้สง่างามที่สุด นายกรัฐมนตรีควรลาราชการเพื่อหยุดการปฏิบัติหน้าที่ หยุดการสั่งราชการใดๆทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย จะได้ไม่มีปัญหาโต้แย้งภายหลังอีก”นายร่มธรรม กล่าว

‘พิชิต’เชื่อ’เศรษฐา’รอดยาก!

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กว่ายังไม่สิ้นกระบวนความแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับฟ้อง พิชิต ชื่นบาน เพราะลาออกไปก่อนและแม้ไม่สั่งให้เศรษฐาหยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ใช่ว่า เศรษฐา จะรอดได้ ประเด็นพิจารณา 1.แม้ไม่รับฟ้อง พิชิต ชื่นบาน เหตุเพราะท้ายสุดการบังคับโทษคือให้ออกนั้นก็ลาออกไปแล้ว แต่ ใช่ว่าศาลจะไม่รับเอามาพิจารณาพฤติกรรมแห่งคดี เพื่ออธิบายความผิดของ เศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 เหตุเพราะว่า ตามร้องพฤติกรรมแห่งคดีหลักเกิดจากความไม่มีคุณสมบัติของ พิชิต ชื่นบาน ประเด็นที่ต้องวินิจฉัยแรกก็คือ มีหรือไม่มีคุณสมบัติ ก่อนจะนำมาสู่นายกฯผิดหรือไม่ผิด พฤติกรรมแห่งคดีจึงมาจาก พิชิต ชื่นบาน ศาลนำมาพิจารณาได้แต่ไม่ได้ลงโทษ พิชิต ชื่นบาน เพราะลาออกไปแล้ว 2.แม้ตุลาการจะมีมติ 5:4 ไม่สั่งให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ไว้ก่อน แต่ก็ใช่ว่ามติแห่งการทำผิดจะไปเป็นเช่นนั้น ดังนั้นจึงอยู่ที่ นายกฯจะอธิบายต่อศาลเช่นไร

ชวนจับตา เอกสาร สลค.สำคัญที่สุด

หลักฐานทางราชการที่สำคัญคือ เอกสารที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)สอบถามไปนั้นเป็นเอกสารพยานที่สำคัญที่สุดในการเข้าข่ายเลี่ยงกฎหมาย สมการตัวเลขของมติต่างๆของศาลรัฐธรรมนูญว่ารับไม่รับคำร้องและหยุดหรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ได้เป็นตัวกำหนดความถูกต้องหรือกำหนดคำตัดสิน คำตัดสินในอนาคต อาจจะ 5:4 เหมือนเดิม แต่ 5 อาจเป็นฝ่ายให้หลุดจากตำแหน่งนายกฯก็เป็นไปได้เศรษฐา รอดยาก ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า สลค.ถามกฤษฎีกาประเด็นเดียวเรื่อง โทษจำคุก ซึ่งรับโทษพ้น 10 ปีมาแล้ว จึงไม่ขัดต่อ รธน.มาตรา160 (6) ประกอบมาตรา 98 (7) ส่วนคุณสมบัติตาม มาตรา 160 (4) “มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”และ(5)”ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”ไม่ได้ถามแต่อย่างใด

‘เทพไท’ฟันธงล่วงหน้ารอดยาก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ฟันธงล่วงหน้า เศรษฐา รอดยาก ไม่เกี่ยวกับดีลการเมืองสถานการณ์การเมืองหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6:3 รับคำร้องของ 40สว.ไว้พิจารณาและมีมติ 5:4 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอนาคตทางการเมืองของรัฐบาลเศรษฐากันอย่างกว้างขวางในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง ขอวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในช่วงนี้ ออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.มติของศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ 2.นายทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มอนุรักษ์ ยังแนบแน่น หรือพร้อมจะแตกหักทางการเมืองกันแล้วหรือยัง

ประเด็นแรก ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าหากดูจากมติการรับคำร้อง และมติการหยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว หากพิจารณาลงในรายละเอียดของผลการลงมติ และคำวินิจฉัยส่วนบุคคลของตุลาการเสียงข้างน้อย ในประเด็นให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว เห็นได้ว่าข้อต่อสู้ของนายเศรษฐาเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะประเด็นที่นายเศรษฐาควรรู้ว่า นายพิชิต ชื่นบาน ขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรี รวมถึงรายละเอียดในหนังสือสอบถามของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และหนังสือตอบข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความชัดเจนว่าจงใจจะสอบถามในบางประเด็น และไม่ต้องการคำตอบในบางประเด็น เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทูลเกล้าฯ เสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อดูข้อกฎหมายและเจตนาความต้องการของนายเศรษฐาแล้ว เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติให้นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ก.ก.ป้องนายกฯขวางศาลรธน.ฟัน

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน แพลตฟอร์มทวิตเตอร์ (X) ชื่อ Wiroj77@wirojlakกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า“ ถ้าคุณเศรษฐา ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ก็ต้องพ้นด้วยกลไกของรัฐสภา ที่ยึดโยงกับประชาชนผมไม่เห็นด้วยกับการสถาปนาอำนาจให้กับองค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญ ให้มาก้าวล่วงอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ อย่างที่สังคมกำลังคลางแคลงใจกันอยู่”

เสื้อแดงโคราชแห่รับ’แม้ว’25พ.ค.

นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ แกนนำกลุ่มโคราชเลือดใหม่ในฐานะผู้ประสานงานชมรมคนโคราชรักทักษิณ ซึ่งได้รับมอบหมายจากจาก สส.เขต จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ให้รับผิดชอบการเตรียมสถานที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี นครราชสีมา เพื่อต้อนรับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมีกำหนดการช่วงเย็นวันที่ 25พ.ค.นี้ จะเดินทางมากราบสักการะย่าโม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราชและคนไทย รวมทั้งจัดอาหารมื้อเที่ยงต้อนรับ ดร.ทักษิณและคณะที่ร้านส้มตำพันล้าน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่สำนักช่างเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ได้มารื้อเต้นท์หน้าศาลาทรงไทยข้างลานย่าโม ได้เตรียมเมนูอาหารท้องถิ่นรองรับจำนวนผู้มารับประทานในห้องปรับอากาศและในร้านซึ่งมีทั้งเสิร์ฟและบุตเฟ่ต์ประมาณ 300 คน ส่วนที่ลานย่าโม เนื่องจากต้องพบปะมวลชนหลายพันคน จัดเป็นพิธีเรียบง่าย เครื่องบวงสรวงกราบไหว้สักการะไม่ต้องใช้พราหมณ์แต่อย่างใด ขอเชิญชวนประชาชนชาวโคราช และคนรักทักษิณมาร่วมต้อนรับนายกในดวงใจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • บุกร้องปปช.ส่งศาลรธน.ถอดถอน ฟันครม.‘เศรษฐา-อิ๊งค์’ ทำผิดรธน.ปรับใช้งบฯปี’68 บุกร้องปปช.ส่งศาลรธน.ถอดถอน ฟันครม.‘เศรษฐา-อิ๊งค์’ ทำผิดรธน.ปรับใช้งบฯปี’68
  • แท็กทีมยื่นป.ป.ช.ส่งศาลรธน.ถอดถอนครม.‘เศรษฐา-แพทองธาร’พ่วง‘สส.- สว.’ปัจจุบัน แท็กทีมยื่นป.ป.ช.ส่งศาลรธน.ถอดถอนครม.‘เศรษฐา-แพทองธาร’พ่วง‘สส.- สว.’ปัจจุบัน
  • ยุติสอบ‘ฮั้วเลือก สว.’! ผู้ตรวจการแผ่นดินแจงไม่เข้าเงื่อนไขส่ง‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ ยุติสอบ‘ฮั้วเลือก สว.’! ผู้ตรวจการแผ่นดินแจงไม่เข้าเงื่อนไขส่ง‘ศาลรัฐธรรมนูญ’
  • \'เศรษฐา\'ก็จอย!! นั่งรถกะป๊อเล่นฉีดน้ำสงกรานต์กับชาวหัวหินชื่นมื่น 'เศรษฐา'ก็จอย!! นั่งรถกะป๊อเล่นฉีดน้ำสงกรานต์กับชาวหัวหินชื่นมื่น
  • มติเอกฉันท์! ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ตีตกคำร้อง‘ณฐพร’ ยื่นฟันกกต.ปม‘ฮั้วเลือกสว.’ มติเอกฉันท์! ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ตีตกคำร้อง‘ณฐพร’ ยื่นฟันกกต.ปม‘ฮั้วเลือกสว.’
  • \'สุระ\'ฟันฉับนายกฯอิ๊งค์เตรียมปรับ ครม.หลังจบศึกซักฟอก จี้เขี่ย รมต.สังคมกังขาออกไป 'สุระ'ฟันฉับนายกฯอิ๊งค์เตรียมปรับ ครม.หลังจบศึกซักฟอก จี้เขี่ย รมต.สังคมกังขาออกไป
  •  

Breaking News

แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ

'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน

สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ

ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved