กกต.เปิดแอปให้ตรวจสอบรายชื่อ
ลงชิงสว.48,117คน
‘แสวง บุญมี’เผยยอดไม่เข้าเป้า
‘ศรีสะเกษ’มากสุด-‘น่าน’รั้งท้าย
ถกคำพิพากษาศาลปค.วันจันทร์นี้
กกต.เผยยอดผู้สมัคร สว.ทั่วประเทศมีทั้งหมด 48,117 คน “จังหวัดศรีสะเกษ” สมัครมากสุด 2,764 คน “กรุงเทพฯ” มาอันดับสอง 2,489 คน ส่วนจังหวัดน่านน้อยสุด 98 คน เลขาฯกกต.รับคนสมัครน้อยไม่ถึงเป้า เหตุระเบียบกำหนดสเปกไว้สูง แต่ถึงคนสมัครน้อยก็เดินหน้าเลือก ไม่กระทบไทม์ไลน์ ยันมีมาตรการสกัดฮั้ว ทุจริต ลั่นไม่รอช้าพร้อมนำคำพิพากษาศาลปกครองเสนอ กกต.พิจารณาจันทร์นี้
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงภาพรวมการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งปิดการรับสมัครไปเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานไม่เป็นทางการเบื้องต้นจากกรมการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ที่เปิดรับสมัครวันแรกจนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการรับสมัคร มีผู้มาสมัครทั้งหมด 48,226 คน และตรวจสอบเบื้องต้นในวันสมัครแล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มีเอกสารครบจึงรับสมัครไว้ก่อนจำนวน 48,117 คน ซึ่งผอ. การเลือกระดับอำเภอจะได้ตรวจสอบ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามโดยละเอียดอีกครั้งว่าจะประกาศเป็นผู้สมัครหรือไม่ ภายใน 5 วัน นับจากวันสิ้นสุดวันรับสมัคร ส่วนผู้สมัครที่ตรวจเบื้องต้น ณ ที่รับสมัครแล้วไม่มีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม จึงไม่รับสมัครไว้ มีจำนวน 109 คน
นายแสวงกล่าวต่อว่า มีหลายอำเภอที่ไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม และเบื้องต้นมี 2 อำเภอที่ไม่มีผู้มาสมัครเลย และมี 7 อำเภอที่สมัครเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งการที่มีบางอำเภอสมัครเพียงกลุ่มเดียวหรือไม่มีผู้สมัครเลย หรือสมัครไม่ครบทุกกลุ่ม ไม่กระทบการเลือกตามไทม์ไลน์แต่อย่างใด เพราะได้เขียนรองรับไว้แล้วในพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.มาตรา 19 และมาตรา 40 ว่าการเลือกระดับอำเภอให้ทำได้ แม้จะไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่ม กลุ่มใดไม่มีผู้สมัครให้งดการดำเนินการให้เลือกในกลุ่มนั้น และไม่มีผลกระทบต่อการ เลือกในกลุ่มอื่น และในเขตอำเภอใดมีผู้สมัครไม่เกิน 5 กลุ่มไม่ต้องจัดให้มีการแบ่งสาย
ทั้งนี้ สำนักงาน กกต. อำนวยความสะดวกให้สามรถติดตามรายชื่อผู้สมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับ อำเภอ ผู้ได้รับเลือกในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ผ่านแอปพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต (SmartVote) ได้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม เวลา 22.00 น. เป็นต้นไป
“จำนวนผู้สมัครอาจน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ อาจเนื่องจากกำหนดคุณสมบัติไว้สูง หาคนรับรองไม่มี การจัดตั้งเป็นหมู่ เป็นคณะ บริหารจัดการได้อยาก เพราะระบบออกแบบป้องกันไว้ ทั้งการจัดตั้งและการฮั้วในระดับหนึ่ง รวมทั้งขาดแรงจูงใจในการสมัครที่ระบบการเลือกมีความซับซ้อนหลายชั้น ซึ่งจำนวนผู้สมัครประมาณนี้ น่าจะเอื้อให้การบริหารจัดการในการเลือก และการควบคุมทำให้การเลือกเป็นไปได้ด้วยความเรียบร้อย”นายแสวงกล่าว และว่า ส่วนมาตรการจัดการฮั้วนั้น กกต.เฝ้าระวัง ติดตาม ทุกความเคลื่อนไหวมาตลอด ส่วนประชาชนที่ให้ข่าวว่ามีการฮั้ว แจ้งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นตาสัปรด หรือสมาร์ทโหวต ได้ หรือสำนักงาน กกต.อาจส่งพนักงานไปขอบันทึกข้อมูลจากคนให้ข่าวอีกทางด้วย เพื่อให้การเลือกเป็นไปด้วยความสุจริต และเที่ยงธรรม
นายแสวงยังกล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาระเบียบ กกต ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัครเป็น สว. สำนักงาน กกต.ได้ตรวจสอบคำพิพากษาและกฎหมายเบื้องต้นแล้ว ระเบียบ กกต.ดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้อยู่ ตามมาตรา 70 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯที่กำหนดว่า ในกรณีคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้รอการปฏิบัติตามคำบังคับจนกว่าจะพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์ หรือในกรณีที่มีการอุทธรณ์ให้รอการบังคับคดีใว้ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ยืนยันว่า เรื่องนี้สำนักงานฯไม่ได้นิ่งนอนใจ จะประมวลข้อมูลเสนอความเห็นให้กกต.วันจันทร์และวันอังคาร เพื่อให้เกิดความชัดเจนเป็นแนวทางกับผู้สมัครและสื่อมวลชน
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)รายงานยอดผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 2567 หรือ สว. ตั้งแต่วันที่ 20-24 พฤษภาคม รวม 5 วัน มีผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 48,117 คน แบ่งเป็นวันแรกมีผู้สมัคร 4,642 คน วันที่สองมีผู้สมัคร 6,607 คน วันที่สามมีผู้สมัคร 9,434 คน วันที่สี่มีผู้สมัคร 13,486 คน และวันที่ห้ามีผู้สมัคร 13,948 คน โดยจังหวัดที่มีผู้สมัครมากที่สุดคือ จ.ศรีสะเกษ 2,764 คน อันดับที่สองคือ กรุงเทพมหานคร 2,489 คน อันดับที่สาม เชียงใหม่ 2,000 คน อันดับที่สี่ บุรีรัมย์ 1,836 คน และอันดับที่ห้า นครศรีธรรมราช 1,798 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้สมัครน้อยที่สุดคือ จังหวัดน่าน 98 คน อันดับสอง ตาก 102 คน อันดับสาม สมุทรสงคราม 128 คน อันดับสี่ พังงา 134 คน และอันดับห้า อุตรดิตถ์และนครพนมจังหวัดละ 150 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี