รัฐบาลเข้าตาจน ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้!!! "เฉลิมชัย"ฟุ้ง ปชป.หล่อเลือกได้ ไม่ใช่กระสันอยากจะเป็นแต่รัฐบาล
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการระบุว่าจะแหกปากกาโพลที่ระบุว่าประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.น้อยลง ว่า จากการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ผ่านมานั้น เป็นการทำพื้นที่ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และจนถึงตอนนี้ได้ลงไปพูดคุยกับประชาชนและผู้นำศาสนา รวมถึงอีกหลากหลายกลุ่ม ซึ่งตนยืนยันคำเดิมว่า มั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.มากกว่าโพลที่ออกมา
เมื่อถามว่า เป็นการลงพื้นที่ที่มั่นใจก่อนหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ตนก็จะไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่เริ่มลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ก่อน หลังจากนี้ก็จะไปจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ รวมไปถึงภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ด้วย และการลงพื้นที่ของตนไปพื้นที่ไหนก็ต้องมั่นใจว่าจะสู้ได้
ต่อข้อถามถึงสถานการณ์การเมืองตอนนี้หลังจากที่นายกรัฐมนตรีถูกร้องเรียนให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องรอคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร อย่าไปคาดเดาล่วงหน้า ซึ่งได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็น หากสมมติว่าเป็นไปในทางร้ายก็คงจะมีการพูดคุยกันใหม่ในรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น เพราะประเทศไทยอย่างไรก็ต้องมีรัฐบาล มีนายกฯ มาบริหาร แต่ถ้าสมมติว่าเป็นไปในทางที่ดีก็คงจะอยู่ที่ผู้บริหารว่าจะตัดสินใจอย่างไร
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกอัยการสูงสุดสั่งฟ้องในคดีมาตรา 112 นั้น ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีอะไรแปลก เมื่อถามย้ำว่าคิดว่ากรณีของนายทักษิณจะเป็นบรรทัดฐาน ในการดำเนินคดีมาตรา 112 สำหรับบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นายทักษิณถูกสั่งฟ้องจากอัยการสูงสุดก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งโดยธรรมเนียมปฏิบัติ และวิธีการต่างๆ ตนคาดการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นว่าอัยการสูงสุดคนปัจจุบันจะต้องสั่งฟ้อง เพราะท่านไม่พลิกคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดท่านก่อนหน้า เพราะด้วยเป็นเรื่องของหลักกฎหมาย แต่ผลจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่ศาลวินิจฉัย
เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ตอนนี้มีการประเมินหรือจะมีปัจจัยอะไรที่จะต้องเปลี่ยนรัฐบาล หรือจะมีการจับขั้วจับมือกันใหม่หรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อถามย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะจับมือกับทุกพรรค หรือเลือกเฉพาะพรรค นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่ เราก็เลือก อย่าคิดว่าเราอยากเป็นรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ใช่ ตนอยากฝากไปบอกถึงประชาชน และนักวิเคราะห์ข่าวทั้งหลายว่าให้เลิกคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสำรองได้แล้ว แต่การที่เป็นพรรคการเมืองจะต้องพร้อมทั้งการเป็นรัฐบาลและเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่มีพรรคไหนที่ประกาศออกมาแล้วจะต้องเป็นรัฐบาลอย่างเดียวแล้วได้เป็น หรือตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่แค่ประเทศไทย ในโลกก็ไม่มี
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคประชาธิปัตย์ยังคงทำงานผลึกกันแน่นหรือไม่นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านด้วยกัน แต่เรื่องของการทำงานอื่นๆ อยู่ที่กับอุดมการณ์ ส่วนไหนที่ไปด้วยกันได้เราก็ทำงานร่วมกันได้กับได้ทุกพรรค ส่วนไหนที่ไปกันไม่ได้ เราก็ทำงานกันไม่ได้
สำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ที่จะพิจารณาในวันที่ 19 - 21 มิ.ย.นั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ในส่วนของคนที่จะไปเป็นกรรมาธิการงบประมาณก็จะต้องมีหน้าที่อยู่ประชุมตลอด จะต้องไม่ติดภารกิจ และต้องมีความรู้และมีเวลาจริงๆ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี