วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ด่วน!!! ศาลฎีกาสั่งคุก 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน ไม่รอลงอาญา

ด่วน!!! ศาลฎีกาสั่งคุก 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย คดีเสียบบัตรแทนกัน ไม่รอลงอาญา

วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 13.51 น.
Tag : ภูมิใจไทย ศาลฎีกา คุกอดีตส.ส. คดีเสียบบัตรแทนกัน
  •  

องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุก 3 อดีต ส.ส.ภูมิใจไทย คนละ 9 เดือน ไม่รอลงอาญา เสียบบัตรแทนกัน ประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2563 ศาลระบุเป็นเรื่องร้ายแรงไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ ประโยชน์ส่วนรวมเสียหาย กระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ก่อนส่งตัวนอนเรือนจำ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2567 องค์คณะผู้พิพากษาวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ ที่ อม.อธ.6/2566 คดีหมายเลขแดงที่ อม.อธ.3/2567 ที่ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ , นายภูมิศิษฏ์ คงมี และนางนาที รัชกิจประการ ทั้งหมดเป็นอดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมกันเป็นจำเลย ที่ 1 - 3 ตามลำดับ ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีที่พวกจำเลยเสียบบัตรแทนกัน ระหว่างการประชุมสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563


คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยทั้งสามดำรงตำแหน่ง ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เมื่อระหว่างวันที่ 8 ถึงวันที่ 11 มกราคม 2563 มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2563 จำเลยทั้งสามลงชื่อเข้าร่วมประชุม แต่จำเลยที่ 1 ไม่อยู่ในที่ประชุมช่วงวันที่ 10 ม.ค. - 11 ม.ค.2563 เวลา 19.30 น.ถึงเวลา 17.38 น.จำเลยที่ 2 ไม่อยู่ในที่ประชุมช่วงวันที่ 10 , 11 มกราคม 2563 เวลา 19.30 - 11.00 น.และจำเลยที่ 3 ไม่อยู่ในที่ประชุมช่วงวันที่ 11 มกราคม 2563 เวลา 14.28 - 15.46 น.ต่อเนื่องกัน

โดยจำเลยทั้งสามต่าง ได้ร่วมกับบุคคลใดไม่ปรากฏชัด โดยให้ผู้อื่นหรือยินยอมให้ผู้อื่นหรือกระทำการหรือไม่กระทำการอื่นใด เป็นผลให้ผู้อื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของจำเลยทั้งสามแสดงตนและลงมติในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 แทนจำเลยทั้งสาม

การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้น การปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ กระบวนการใช้อำนาจ นิติบัญญัติในการตราพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประชาชนผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามพรป.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

คดีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จำคุกจำเลยทั้งสามคน ละ 1 ปี องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก เห็นว่า ทางไต่สวนของจำเลยทั้งสามเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่ บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยคนละ 4 เดือน

ทั้งนี้ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกระทำโดยทุจริตถือเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ให้จำเลยที่ 1 - 2 พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนับแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นวันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของจำเลยทั้งสามตลอดไป โดยไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองใดๆ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาขอให้พิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพิจารณาขององค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอสละประเด็นข้อต่อสู้ตามอุทธรณ์ทุกข้อและขอให้การรับสารภาพในชั้นอุทธรณ์ กับขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุก

องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ วินิจฉัยในข้อที่จำเลยทั้งสามขอให้ลงโทษสถานเบานั้นองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์เสียงข้างมาก เห็นว่า ความผิดฐานเจ้าพนักงาน ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองวางโทษจำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 1 ปี ก่อนลดโทษให้นั้น เป็นการลงโทษในอัตราขั้นต่ำสุดตามที่ กฎหมายกำหนดไว้ และยังลดโทษให้อีกหนึ่งในสี่นับว่าเป็นคุณแก่จำเลยทั้งสามมากแล้ว ไม่มีเหตุที่องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไข

ส่วนที่จำเลยทั้งสามขอให้รอการลงโทษนั้นองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ เห็นว่า การที่จำเลยทั้งสามดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสนอและพิจารณาร่างพรป.ประกอบรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ การควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยการตั้งกระทู้ถาม การเปิดอภิปรายทั่วไป เป็นต้น โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความ ครอบงำใดๆ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 , 115 ซึ่งอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสนอและพิจารณาร่าง พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญหรือร่าง พ.ร.บ.ต่างๆ สมาชิกคนหนึ่งย่อมมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 120 วรรคสาม การออกเสียงลงคะแนนจะกระทำแทนกันมิได้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 ข้อ 80 วรรคสาม การกำหนดให้การออกเสียงลงคะแนนกระทำโดยวิธีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ประจำตัวในการแสดงตนและลงมติ เป็นวิธีการหนึ่งในการป้องกันมิให้การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตกอยู่ภายใต้อาณัติของผู้ใด และช่วยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นสามารถใช้ดุลพินิจในขณะออกเสียงลงคะแนนได้อย่างมีอิสร

ดังนั้น การมอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ประจำตัวให้บุคคลอื่นนำไปใช้ออกเสียงลงคะแนนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นอกจากจะเป็นการทำลายความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้น แล้ว ยังเป็นการทำลายกลไกคุ้มครองความเป็นอิสระทำให้การแสดงเจตจำนงแทนประชาชนถูกควบคุมหรือบิดเบือน โดยบุคคลซึ่งหวังประโยชน์อย่างอื่นที่ไม่เป็นไปตามครรลองของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ถือเป็นกฎหมายสำคัญที่จะให้รัฐบาลนำเงินของ แผ่นดินไปใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน หากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือเกิดความล่าช้าจากสภาผู้แทนราษฎรย่อมส่งผลกระทบถึงการบริหารราชการแผ่นดินและเศรษฐกิจของประเทศ แม้จำเลยทั้งสามอ้างกำหนดนัดที่มีก่อนวันนัดประชุมอันเป็นการขาดประชุมโดยมิได้ลาประชุมตามระเบียบและเป็นเหตุให้จำเลยทั้งสามไม่อาจออกเสียงลงคะแนนก็เป็นความผิดส่วนหนึ่ง แต่จำเลยทั้งสามกลับมอบบัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติของตนให้บุคคลอื่นแสดงตนและออกเสียงลงคะแนนแทนอันเป็นความผิดอีกส่วน หนึ่งเพิ่มขึ้นมา จำเลยทั้งสามในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรย่อมทราบดีว่าการออกเสียงลงคะแนนในการตรากฎหมายเป็นการทำหน้าที่แทนปวงชนซึ่งมีความสำคัญยิ่งกว่าภารกิจอื่น แต่จำเลยทั้งสามกลับละเลยหน้าที่ในฐานะผู้แทนปวงชนไปปฏิบัติงานอย่างอื่นโดยไม่ยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยจนทำให้เกิดความด่างพร้อยต่อระบบรัฐสภา ทำให้เห็นเจตนาที่ไม่ชอบของจำเลยทั้งสามมากยิ่งขึ้น แม้ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า การใช้สิทธิ ออกเสียงลงมติแทนผู้ที่ไม่อยู่ร่วมประชุมเป็นเหตุให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกำหนดคำบังคับให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เฉพาะการพิจารณาลงมติในวาระที่สอง วาระที่สาม และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ ซึ่งต่อมาสภา ผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าวก็ตาม นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความล่าช้าแล้วยังมีความเสียหายที่เป็นค่าใช้จ่ายในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณดังกล่าวใหม่ จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างมาก

พฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยเป็นการกระทำที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ทำให้ประโยชน์ส่วนรวมได้รับความเสียหาย ไม่เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่และคำปฏิญาณที่ให้ไว้ และไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย การไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสามก็เพื่อให้จำเลยทั้งสามหลาบจำ เป็นการป้องปรามไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นถือเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่างกระทำความผิดเช่นนี้อีก แม้ต่อมาจำเลยทั้งสามรู้สำนึกในการกระทำความผิดโดยให้การรับสารภาพและไม่ เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ทั้งได้กระทำคุณความดีต่อสังคมตามที่จำเลยทั้งสามอ้าง ก็ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรอการ ลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสาม อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสามฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้จำเลยทั้งสามเดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัว นายฉลอง และนายภูมิศิษฎ์ ไปคุมขังทึ่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนนางนาที ซึ่งเป็นภรรยา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ประธานวุฒิสภา-รองประธาน\'โดนด้วย! รับหมายเรียก ฮั้วสว. 'ประธานวุฒิสภา-รองประธาน'โดนด้วย! รับหมายเรียก ฮั้วสว.
  • \'ทวี เผย DSI ร่อนหมายเรียกสอบ ส.ว.ชุดแรก ตามคำขอ กกต. 'ทวี เผย DSI ร่อนหมายเรียกสอบ ส.ว.ชุดแรก ตามคำขอ กกต.
  • ด่วน! เปิดรายชื่อ 6 สว.คนดัง หลังโดนหมายเรียกแจง \'คดีฮั้วสว.\'ลอตแรก ด่วน! เปิดรายชื่อ 6 สว.คนดัง หลังโดนหมายเรียกแจง 'คดีฮั้วสว.'ลอตแรก
  • \'ภูมิธรรม\'บอกคดีฮั้ว สว. ไม่ใช่สงครามตัวแทน\'แดง-น้ำเงิน\' ชี้เป็นเรื่องกฎหมาย 'ภูมิธรรม'บอกคดีฮั้ว สว. ไม่ใช่สงครามตัวแทน'แดง-น้ำเงิน' ชี้เป็นเรื่องกฎหมาย
  • กมธ.กาสิโนสว.ลุย จ่อเชิญ‘อิ๊งค์’ชี้แจง คปท.ยื่นภูมิใจไทย ถามจุดยืน‘กาสิโน’ กมธ.กาสิโนสว.ลุย จ่อเชิญ‘อิ๊งค์’ชี้แจง คปท.ยื่นภูมิใจไทย ถามจุดยืน‘กาสิโน’
  • ‘หัวหน้า ภท.’เผยจุดยืน‘คอมเพล็กซ์’ ย้ำพรรคร่วมต้องเป็นหนึ่ง หนุนทำประชามติ ‘หัวหน้า ภท.’เผยจุดยืน‘คอมเพล็กซ์’ ย้ำพรรคร่วมต้องเป็นหนึ่ง หนุนทำประชามติ
  •  

Breaking News

เริ่มแล้ว!!! การแข่งขันเรือใบ Trat Regatta 2025 ระดับนานาชาติครั้งแรกในจังหวัดตราด

'โฆษก​ มท.'แจงแล้ว! ​ปมเรียก​สรรพนาม'คุณลูกค้า'แทน'คุณลุง​-​คุณป้า'

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved