กกต.สั่งเข้มก.ม.
เลือกสว.ระดับจังหวัด
ย้ำเจ้าหน้าที่นับคะแนน
ขานแต้มให้ช้า-ให้ชัดๆ
ประธาน กกต.ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเลือก“สว.ระดับจังหวัด” ย้ำเจ้าหน้าที่นับคะแนน ให้ช้า-ขานคะแนนให้ชัด ด้านเลขาฯกกต.เผย ผลสั่งนับคะแนนใหม่สาย ค.เขตบางเขนเกิดจากขีดคะแนนคลาดเคลื่อน แต่ไม่ส่งผลเปลี่ยนแปลงผู้เข้ารอบจังหวัด แจงยิบสั่งแก้ไขทันทีปมข้อมูลบัตรปชช.ผู้สมัครรั่วจริง เผยอยู่ระหว่างสอบรั่วขั้นตอนไหน ย้ำเจ้าหน้าที่เข้มบังคับใช้กฎหมาย พร้อมเชิญชวนปชช.ร่วมสังเกตการณ์โดยจัดสถานที่เหมาะสมไว้ให้
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ห้องศาลาประชารวมใจ เทศบาลเมืองราชบุรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง และ นายชาย นครชัย กรรมการการเลือกตั้ง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัดปธ.กกต.ย้ำนับคะแนนให้ช้า-ชัดโดยนายอิทธิพรให้ข้อสังเกตและข้อแนะนำกับผู้เข้ารับการอบรมในเรื่องการขานคะแนนว่า ให้ขานอย่างช้าๆ และชัดๆ และการจัดระเบียบกลุ่มผู้สมัครให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นส่วนรวม และย้ำถึงวัตถุประสงค์การติดตั้งกล้องวงจรปิดถ่ายทอดเหตุการณ์กระบวนการเลือก สว. เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้สมัคร สว. อันน่าสงสัยบางคนได้ ขณะเดียวกันเป็นเครื่องยืนยันการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปโดยสุจริต พร้อมนำคำร้องของผู้สมัครคนหนึ่งที่กล่าวหากรรมการประจำสถานที่เลือกเปิดบัตรรีบขานคะแนน โดยไม่ได้ให้ผู้อื่นได้เห็นบัตร พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่าตามกฏหมาย เจ้าหน้าที่ประจำสถานที่เลือกถือเป็นพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา จะได้รับความคุ้มครองจากการกระทำผิดทางแพ่งและอาญา ถ้าดำเนินการเป็นไปด้วยความสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย
นับคะแนนใหม่เขตบางเขน
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีมติสั่งให้นับคะแนนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอใหม่ของเขตบางเขน กรุงเทพฯ ในส่วนสาย ค. ช่วงบ่ายวันนี้ เวลา 13.00น.ที่ห้องประชุม รร.ประชาภิบาล บางเขน สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากผู้สมัครได้ทักท้วงเรื่องคะแนนของสาย ค.หายไป 1 คะแนน โดยในรายละเอียดคือ การเลือกรอบสอง หรือรอบไขว้ จะมีการแบ่งผู้ผ่านการเลือกรอบแรกออกเป็นสาย ซึ่งสาย ค.มี 5 กลุ่ม มี 1กลุ่ม มีผู้เข้ารอบ 1 คน อีก 4 กลุ่ม มีผู้เข้ารอบกลุ่มละ 5 คน รวมสาย ค. มีผู้สมัครทั้งหมด 21 คน ใช้บัตรลงคะแนนทั้งหมด 84 ใบ เป็นบัตรเสีย 3 ใบ เท่ากับว่าต้องนับคะแนนออกมาอยู่ที่ 81 คะแนน แต่ปรากฏว่า รวมคะแนนแล้วมีเพียง 80 คะแนน หายไป 1 คะแนน ดังนั้น ผู้สมัครจึงรวบรวมพยานหลักฐานและมายื่นร้องต่อ กกต.เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน
ขีดคะแนนคลาดเคลื่อน-ไร้ทุจริต
ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้สัมภาษณ์หลังสังเกตการณ์การนับคะแนนผู้สมัคร สว. สาย ค.เขตบางเขนว่า กกต.ได้พิจารณาและมีมติสั่งให้มีการนับคะแนนใหม่เพียงที่เดียว จากคำร้องคัดค้านการดำเนินการเลือกสว.ระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา มีคำร้องเข้ามายัง กกต. 11 แห่ง ด้วยเหตุที่จำนวนบัตรกับจำนวนคะแนนไม่ตรงกัน ซึ่งบัตรในสาย ค. มีบัตร 84 ใบจากจำนวนผู้เข้ารอบจำนวน 21 คน โดยผู้สมัครได้รับบัตรคนละ 4 ใบ ผลการนับคะแนนใหม่ปรากฏว่าเป็นบัตรดี 81 ใบ และบัตรเสีย 3 ใบ ขณะที่การเลือกวันที่ 9 มิถุนายนนับคะแนนได้ 81 คะแนน ซึ่งเกิดจากการขีดคะแนนคลาดเคลื่อนทำให้คะแนนหายไป 1 คะแนน ทำให้กลุ่มที่ 11 ได้คะแนนเพิ่มมาอีก 1 คะแนน แต่ไม่ส่งผลต่อลำดับผู้ที่เข้ารอบไปสู่การเลือกในระดับจังหวัด ย้ำว่าการให้นับคะแนนใหม่เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความชัดเจน
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกระดับการเลือก ยอมรับว่าเหตุการณ์นับคะแนนที่เกิดขึ้นเนื่องจากการขานหมายเลขระหว่างหมายเลข 11 และหมายเลข 17 มีความใกล้เคียงกัน อาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการรับฟังและขีดคะแนน ทั้งนี้ หากผู้สมัครจะไปยื่นฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ แต่จากที่กกต.ตรวจสอบเป็นความผิดพลาดจากการปฏิบัติงาน ไม่ได้มีเจตนาทุจริตหรือการเลือกเสียหาย”นายแสวงกล่าวและว่า ขอเชิญชวนให้ประชาชนและสื่อมวลชนไปร่วมสังเกตการณ์การเลือกระดับจังหวัด โดยจะจัดเตรียมสถานที่ให้ติดตามอย่างใกล้ชิด
ย้ำม.77เครื่องเดียวที่เหลือใช้สกัดฮั้ว
เลขาฯ กกต.ย้ำถึงเครื่องมือของ กกต.ในการป้องกันการฮั้วเลือก สว.ซึ่งวันนี้เหลือเพียงกลไกตามมาตรา 77 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. โดย กกต.ได้ติดตามและมีข้อมูลว่าในวันรับสมัคร มีผู้ใดรับจ้างหรือไปจ้างคนลงสมัคร จากนั้นในวันเลือกระดับอำเภอได้นำมาพิจารณาว่ามีการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดในการลงสมัครหรือไม่ แต่ถ้ามีมาตรา 36 แล้วทำเกินการแนะนำตัวเหมือนแต่ก่อน ขอคะแนน แลกคะแนน หรือไปจัดตั้งมา ทำไม่ได้ แต่ตอนนี้ระเบียบถูกยกเลิกไป ก็เป็นสิทธิ์เสรีภาพของผู้สมัครที่จะทำ ตราบใดที่ไม่ขัดกับมาตรา 77
สั่งสอบข้อมูลผู้สมัครสว.หลุด
นายแสวงยังได้ชี้แจงถึงกรณีบัตรประชาชนของผู้สมัคร สว.เกือบ 20,000 รายหลุดไปสู่สาธารณะว่าได้ทำหนังสือชี้แจงต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลว่า กกต.มีมาตรการแก้ไขเยียวยา ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเบื้องต้นแต่ยังไม่ได้เข้าสู่การครอบครองของสำนักงาน ยอมรับว่ามีข้อมูลหลุดจริงตามที่ได้ติดตามและมีข้อมูลอยู่ ส่วนจะหลุดขั้นตอนไหน ขอตรวจสอบก่อน เพราะหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นก็ได้แก้ไขทันที ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้สมัคร สว.บางคนรอไปเข้ารอบระดับประเทศนั้น เป็นเพียงการวิเคราะห์ ขาดความเป็นไปได้ เช่น ที่สื่อมวลชนทำการวิเคราะห์ แต่ต้องดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งเห็นว่าจากที่มีการวิเคราะห์ทั้ง 2 -3 โพย ก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน ต่างคนต่างมา แต่มาเกาะกลุ่มเดียวกัน หากตราบใดที่ยังไม่ผิดกฎหมายก็ไม่สามารถเอาผิดได้ ต้องสืบทางลับต่อไป เพื่อรวบรวมข้อมูลไว้
ผู้สมัครสว.โวยบัตรปริศนาโผล่1ใบ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการนับคะแนนเลือก สว.ระดับอำเภอในเขตบางเขน กทม. สาย ค.ใหม่เนื่องจาก มีผู้สมัคร สว. ร้อง คะแนนของสาย ค. หายไป 1 คะแนนว่า กกต.ได้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผู้นับและขานคะแนนใหม่ทั้งหมด โดยนำบัตรเลือกสว. ระดับอำเภอ รอบไขว้ออกมาตรวจนับ ปรากฏว่าครบทั้ง 84 บัตร และเริ่มนับคะแนนของสายค.ใหม่ ซึ่งในสายนี้ประกอบด้วย กลุ่ม 19 กลุ่ม 17 กลุ่ม 15 กลุ่ม 11 และกลุ่ม 9 โดยมีผู้สมัครสว.ในพื้นที่ดังกล่าว ร่วมรับฟัง จนถึงเวลา 14.40 น.การนับคะแนนเสร็จสิ้นลง พบว่ามีบัตรเสีย 3 ใบ เป็นของกลุ่ม 9 จำนวน 1 ใบ และกลุ่ม 11 จำนวน 2 ใบ สาเหตุเนื่องจากไม่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน ส่วนบัตรดี 81 ใบ และผลการนับคะแนนใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงผลคะแนนในบางกลุ่มแต่ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มที่จะเข้าไปรอรับการเลือกระดับจังหวัดวันที่ 16 มิถุนายน โดย 3 อันดับของแต่ละกลุ่มที่เข้ารอบเพื่อไปรอรับการเลือกในระดับจังหวัดมีดังนี้ กลุ่มที่ 9 คือ นายกิตติพงษ์ ท่าพิกุล นายยุทธการ อินทะนามและน.ส.สุภาภรณ์ บุญมาลี กลุ่ม 11 น.ส.โศรดา ทรงไตร น.ส.สุจิรา เง็กคล้อย และน.ส.สุวณา ปิยะพิสุทธิ์ กลุ่มที่ 15 ร.ต.อ.เกรียงไกร ไกรนรา พล.อ.วิชา ไผ่เกาะ และ ร.ต.สุชาติ คะเน กลุ่มที่ 17 น.ส.ฉัตรชนก โตวัฒนกูร และกลุ่ม 19 นายเดชา ตุลาธาร นายสิทธิเดช บำรุงสิน และนางสิริรัชช์กร อริยธนันกร
หลังนับคะแนนแล้วน.ส.อาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ผู้สมัคร กลุ่ม 19 ซึ่งไม่ผ่านการเลือกรอบไขว้ ได้ทักท้วงการนับคะแนนรอบใหม่ว่าในกลุ่มที่ 19 มีคะแนนเปลี่ยนแปลง บัตรออกคะแนนเสียง ควรมีเพียง 20 ใบ แต่กลับพบยอดบัตรเพิ่มมาเป็น 21 ใบ และพบว่าบัตรลงคะแนนดังกล่าว เขียนด้วยลายมือว่ากลุ่ม 19 แต่เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าเป็นกลุ่ม 11 ตนจึงขอให้นับบัตรของกลุ่ม 11 ใหม่อีกครั้งว่ามีบัตรพลัดหลงเข้ามาหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขณะนี้กระบวนการนับคะแนนใหม่เสร็จแล้ว เป็นไปตามกฎหมายหากผู้สมัครมีข้อทักท้วงขอให้เขียน ใบคำร้องยื่นต่อกกต.เพื่อพิจารณาให้มีการนับคะแนนใหม่ได้อีกรอบ
“สมชัย”ยุฟ้องศาลปมข้อมูลหลุด
ก่อนหน้านั้น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร สว. และอดีต กกต. โพสต์แสดงความคิดเห็นกรณีปรากฏข่าวที่สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนว่า มีข้อมูลผู้สมัคร สว. 20,000 กว่าชื่อ พร้อมหมายเลขบัตรประชาชนหลุดต่อสาธารณะว่า เจ้าของข้อมูลที่ได้รับความเสียหายจากข้อมูลที่เผยแพร่สามารถฟ้องผู้ควบคุมหรือผู้ประมวลผลให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ โดยศาลมีอำนาจสั่งให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นอีก ไม่เกิน 2 เท่าของค่าสินไหมที่แท้จริง ข้อมูลที่หลุด คือ รายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบอำเภอไปสู่ระดับจังหวัด ความยาว 657 หน้า จำนวน 23,645 คนเท่านั้น
จ่อฟันผู้สมัครสมุทรสาครขาดคุณสมบัติ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรสาคร (กกต.สมุทรสาคร) นายพงษ์พัชร์ สายช่างทอง ผู้อำนวยการเลือกตั้ง สั่งเข้มตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผลปรากฏว่า การเลือกระดับอำเภอ อาจมีผู้ไม่ผ่านด่านคุณสมบัติจำนวนหลายราย ซึ่งต้องถูกลบชื่อและถูกดำเนินคดี และต้องโทษตามกฎหมาย มาตรา 13 และมาตรา 14 แห่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 เช่น เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา เช่น ฐานลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เป็นเจ้ามือ หรือเจ้าสำนัก ตามกฎหมายยาเสพติด ฐาน ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า หรือเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดที่กกต.ตรวจพบ ปรากฏว่ามีหลายรายขาดคุณสมบัติ ต้องถูกลบชื่อออก ตัดสิทธิ และจะทำการดำเนินคดีโทษตามกฎหมายต่อไป
ศาลปค.รับคำร้องสอบ28ผู้สมัครสว.เลย
จากกรณีกลุ่มผู้สมัคร ส.ว.จังหวัดเลยใสสะอาด นำโดย นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว หรือทนายแดง ผู้สมัคร สว.เลย พร้อมตัวแทนผู้สมัครผู้สมัครสว.ยื่นฟ้องศาลจังหวัดเลย ให้ดำเนินคดีอาญากับผู้สมัคร สว.เลย 28 คน ฐานความผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 เนื่องจากตรวจพบว่าผู้สมัคร 28 ราย มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด แจ้งอาชีพไม่ตรงตามกับความเป็นจริง โดนยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ล่าสุด นายจิระศักดิ์ น้อยก่ำ เผยว่า ตนพร้อมทีมงานได้มาขอยื่นให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ที่ศาลปกครองกลาง การมายื่นครั้งนี้เพื่อที่จะให้ศาล ได้ยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายน ที่จะมีการเลือกตั้งสว.ระดับจังหวัด เนื่องจากตนและพวกเป็นผู้เสียหาย เป็นผู้สมัครสว. ผลการยื่นคำร้องกับศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 1049/2567 ศาลปกครองกลางให้คุ้มครองชั่วคราวรับไว้พิจารณาเรื่องด่วน โดยหาข้อเท็จจริงเรื่องของคุณสมบัติของผู้สมัครและอำนาจหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“สมชาย’เหน็บผู้ศรัทธาเสียสละ
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค สว. โพสต์ภาพที่อ้างว่าเป็นการลงคะแนนเลือก สว. พร้อมข้อความว่า ไทยพัฒนาการเมืองการมีส่วนร่วมของประชาชนถึงขั้นสูงสุดเหนือชาติใดในโลกแล้ว เพราะประชาชนทั่วประเทศกว่า 48,000 คน ตื่นตัวทางการเมืองมาก เข้าขั้นสูงสุดสุดท้ายล้ำหน้ากว่าชาติมหาอำนาจประชาธิปไตยทั้งหลายแล้วคือ เสียสละลงสมัครรับเลือกเป็นสว.มากถึงเกือบ 5 หมื่นคน ในจำนวนนี้มีผู้ศรัทธาเสียสละสูงยิ่ง ด้วยการลงสมัครเพื่อเลือกคนอื่นเป็นสว. ต้องยอมรับว่า ต้องศรัทธาอย่างเหลือเชื่อ เพราะอาจมีผู้สมัครหลายพันถึง 2-3 หมื่นคน มีรายได้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยยากจน หลายคนอยู่ในกลุ่มรับการช่วยเหลือสงเคราะห์ที่หลากหลาย เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับเบี้ยผู้สูงอายุ อยู่ในโครงการพักหนี้เกษตรกร แต่ท่านเสียสละกำลังทรัพย์ กำลังกายและเวลาอย่างยิ่ง โดยคาดว่าแต่ละคนเสียค่าใช้จ่ายต่อหัว ขั้นต่ำคนละประมาณ 3,400 บาท ความอดทนเสียสละเวลาทางการเมืองครั้งนี้ ในการที่ลงสมัคร โดยไม่โหวตให้ตัวเอง แม้แต่คะแนนเดียว ด้วยความหวังดีต่อชาติบ้านเมือง ที่จะส่งเสริมคนดีในได้ปกครองบ้านเมือง ให้มีวุฒิสภาที่มาจากความโปร่งใสเป็นตัวแทนที่แท้จริง นับถือน้ำใจจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี