'เศรษฐา'ร่วมยินดีวันสถาปนา NBT หวังเป็นสื่อของรัฐที่ให้ข้อมูลจริง ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับปชช. หลังโลกยุคใหม่สื่อสารปรับรูปแบบผ่านโซเชียล เจอข่าวเฟกนิวส์ประหลาดๆ รับบางทีก็คล้อยตาม แต่รีเช็คข่าวตลอด โดยเฉพาะช่วงการเมืองร้อนแรง-ความขัดแย้งในสังคมสูง ด้าน'แพทองธาร'หวัง NBT ดันซอฟต์พาวเวอร์
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2567 ที่อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศ การกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 36 สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินทางเข้าร่วม โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ
นายกฯ กล่าวว่า ขอแสดงยินดีกับสถานที่ทำงานแห่งใหม่ ออฟฟิศสำนักงานที่กว้างขวางในยุคที่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเชื่อว่าทุกคนติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางหลากหลาย สมัยก่อนเน้นรับฟังข่าวสารผ่านวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ เป็นหลัก ซึ่งต้องมีคนลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเป็นอาชีพสายข่าวอย่างจริงจัง แต่ปัจจุบันได้เห็นวิวัฒนาการของวงการข่าว ซึ่งตอนนี้มาในรูปแบบโซเชียลมีเดียส่งมาตามไลน์ ทวิตเตอร์ แพร่กระจายข่าวได้อย่างรวดเร็วทันใจ เป็นข้อดีแต่ก็มีข้อเสียเพราะมีการกุข่าวหรือเฟกนิวส์เป็นระยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงการเมืองร้อนแรงมีความขัดแย้งในสังคมสูง ซึ่งตนได้ติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลา อัพเดทข้อมูลข่าวสารที่มาทุกวัน แต่ก็ประหลาดใจเมื่อเห็นข่าวประหลาด ก็ต้องยอมรับบางทีคล้อยตามไปเหมือนกัน แต่ก็ต้องพยายามรีเช็คข่าวตลอดเวลา
นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ภาครัฐช่วยกันพยายามกำกับดูแลและต้องยอมรับการแพร่กระจายขยะข่าวรวดเร็ว การบังคับใช้กฎหมายที่มีระเบียบวินัยทำได้อย่างรอบคอบต้องใช้เวลาพอสมควร นี่ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่น่าเป็นห่วงมาก ถ้าพี่น้องประชาชนไม่มีช่องทางแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ตรงนี้จะเป็นปัญหา การที่ตนมายืนที่สถานี NBT ซึ่งกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ ทำให้ตนมีความรู้สึกสบายใจในจุดหนึ่ง มีความภูมิใจจุดหนึ่ง NBT ยังคงเป็นช่องทางหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับความซื่อตรง ตรงไปตรงมา กับการสื่อสารข่าวให้ประชาชนได้รับทราบ ได้วิเคราะห์รับฟังข่าวสารต่างๆอย่างเป็นธรรมและเป็นกลาง ภาครัฐเองพยายามเดินหน้านโยบาย Soft Power และการเปลี่ยนโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศผ่านโครงการ IGNITE THAILAND ซึ่งมีหลายนโยบาย และปัจจุบันพยายามดำเนินการให้ลุล่วงโดยเร็ว ซึ่งจะยกขีดความสามารถการแข่งขันของ คนไทยทุกชุมชนทุกครอบครัวที่เราจะได้รับประโยชน์ ไม่ใช่กระจุกตัวแค่เมืองใหญ่ ซึ่งการขับเคลื่อนให้เห็นผล หน่วยงานจะต้องมาช่วยกัน เพื่อส่งผลต่อยอดสร้างประโยชน์ให้กับกรมการต่างๆอีกมากมาย
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ขอให้ NBT ในฐานะที่เป็นสื่อของรัฐช่วยกันสื่อสารนโยบายดีๆที่เป็นธรรม หรือความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนโดยสมบูรณ์แบบ นำข้อมูลตัวอย่างข้างในและนอกประเทศมาวิเคราะห์อย่างเป็นธรรม ให้เนื้อหาที่สื่อสารสู่ประชาชนเป็นประโยชน์สูงสุด สร้างตระหนักรู้ให้ภาคประชาชน ซึ่งจะคุ้มครองเรื่องเฟกนิวส์ต่างๆได้ด้วย การที่มีข้อมูลเยอะ สื่อสารข้อมูลทุกด้านจะทำให้ประชาชนมีข้อมูลที่ครบถ้วนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือเฟกนิวส์ การใช้ทรัพยากรของรัฐให้เป็นประโยชน์สูงสุดเพื่อเป็นพื้นที่ที่สื่อสารกันได้อย่างเต็มที่ เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นใน NBT จะสร้างผลกระทบในเชิงบวกในสังคมกับประชาชน ประเทศชาติได้อีกมากมาย ขอให้ทุกท่านในที่นี้ช่วยกันเป็นแรงกายแรงใจผลักดันให้เป็นไปได้ด้วยดี
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรามาพร้อมกันเพื่อแสดงความยินดี NBT ครบรอบ 36 ปี เราอยากเห็นสื่อของรัฐมีความน่าเชื่อถือหลากหลาย พร้อมปรับเปลี่ยนไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ขอให้ NBT พร้อมปรับตัวตลอดเวลา คนคิดว่า NBT มีความพร้อมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนทางสถานที่ และข้าราชการ สื่อของรัฐถือเป็นตัวแทนประเทศ เพื่อให้ผู้คนรับรู้ว่าประเทศไทยกำลังเดินทางไปทางไหน รัฐบาลทั่วโลกต่างมีสื่อเป็นของตัวเอง มีการต่อยอดวัฒนธรรมของประเทศตัวเองเช่นเกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ ที่มีการต่อยอดวัฒนธรรมขของเขาได้อย่างสง่างาม เป็นการส่งมอบซอฟต์พาวเวอร์ได้อย่างสง่างาม NBT ก็สามารถส่งต่อซอฟพาวเอร์ของไทยได้อย่างสง่างามได้เช่นกัน
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต่อไปจะสื่อสารได้มากกว่า 2 ภาษา นอกจากไทย และอังกฤษแล้ว ยังจะมีจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และจะเป็นพื้นที่ให้คนมีความสามารถทางดนตรี ทางการทำสารคดี ในการเผยแพร่งาน เป็นภาพของ NBT ที่ซอฟพาวเอวร์มองเห็น เพราะเป็นประตูบานแรกรองรับชาวต่างชาติให้เขารู้ว่าประเทศไทยมีคอนเทนต์ที่ดีอีกมาก แน่นอนหวังว่าในอนาคตจะมีพื้นที่สื่อสารที่โดดเด่นเท่าเทียมกับประเทศอื่น เป็นกลไกสำคัญพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ มีข้าราชการที่เก่าและมีรัฐมนตรีจิราพรที่จะผลักดันเรื่องนี้
ขณะที่ น.ส.จิราพร กล่าว่วา หลังจากนี้ NBT จะเป็นช่องทางสื่อสาร ซอฟต์พาวเวอร์มากยิ่งขึ้น ตึกใหม่ที่สร้างขึ้นนี้จะมีพื้นที่จัดแสดงให้ประชาชนปลดปล่อยศักยภาพให้เต็มที่ และจะได้เห็น NBT ยุคใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี