เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ถึงกรณีผลผลิตทางการเกษตรไม่สามารถจะระบายออกผ่านทางชายแดนไทย - กัมพูชา ได้ในขณะนี้ ว่า พอที่จะได้ทราบข่าวและติดตามข้อมูลจากตัวเลขต่างๆ ในเรื่องของผลกระทบ และขอยืนยันว่า ผลกระทบจากการปิดชายแดนสำหรับสินค้าทางการเกษตรกระทบไม่มาก แต่ได้พูดคุยกับทางกระทรวงพาณิชย์ว่าจะต้องทำงานให้เร็ว เพื่อจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการระบายสินค้า หาหาทางออกด้วยวิธีเดิมไม่ได้ก็ต้องหาทางออกด้วยวิธีอื่น ทั้งนี้ ตัวเองเพิ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเต็มรูปแบบเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทางออกของวันนี้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงรัฐบาลจะต้องเดินหน้าทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สินค้าและผลผลิตทางการเกษตรของไทยไปถึงมือผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของการประสานงานกันระหว่างกระทรวงเกษตรสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ใช่หรือไม่ นายอรรถกร กล่าวว่า อาจจะมีบ้างในส่วนของแนวทางการทำงาน แต่ตนเชื่อว่า แนวทางการทำงานที่ผ่านมา รมว.เกษตรและสหกรณ์คนก่อนหน้านี้พยายามหาทุกวิถีทางในการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อทำงานรับใช้และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร

เมื่อถามว่า การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้จะเป็นการทำงานสานต่อจาก นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ หรือจะมีแนวทางการทำงานอื่นเพิ่มเติม นายอรรถกร กล่าวว่า ตัวเองสานต่อตั้งแต่สมัย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ทำไว้ครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อมายังนางนฤมล ซึ่งตัวเองก็จะทำงานสานต่อ ซึ่งได้เคยเห็นผลงานที่เคยประกาศในงาน Ignite Thailand จุดพลังรวมใจไทยต้องเป็นหนึ่ง ในสมัย นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งใน 9 ข้อ สามารถทำได้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว ส่วนนโยบายส่วนตัวจะเน้นใน 9 ข้อนั้น จะต้องทำอะไรก่อนเป็นเรื่องแรก ซึ่งต้องดูว่าอะไรที่สามารถทำได้ทันทีหรือเรื่องไหนจะต้องทำในระยะยาว

เมื่อถามถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.และโฉนดที่ดิน นายอรรถกร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปปรึกษา นายอิทธิ ศิริลัทธยากร คุณพ่อ ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดูแลกำกับ ส.ป.ก.ในช่วง 9 ถึง 10 เดือนที่ผ่านมา

- 006